“วัตสัน” เผย ผู้บริโภคหันใช้สินค้ามีคุณภาพแม้จะต้องจ่ายสูงขึ้น สินค้าเฮาส์แบรนด์มีโอกาสทางการขาย โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ส่งผลยอดขายไตรมาสหนึ่งโตตามที่คาดไว้ ต่อเนื่องจนถึงไตรมาสสองด้วย เผยปีนี้ทุ่มเม็ดเงินด้านการตลาดกว่าปีก่อนอีก 10% คาดทั้งปีจะมีรายได้ตามที่วางไว้
นางสาวนวลพรรณ ชัยนาม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัล วัตสัน จำกัด ผู้บริหารร้านวัตสัน เปิดเผยว่า พฤติกรรมผู้บริโภคของวัตสันเริ่มมั่นใจในสภาพเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น หลังจากที่สภาพการเมืองเริ่มเข้าที่ โดยพบว่าในช่วงต้นปีที่ผ่านมายอดขายของร้านวัตสัน มีการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าประเภทสกินแคร์ และเวชสำอาง รวมถึงสินค้าเฉพาะกลุ่ม หรือเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ อย่าง ยาย้อมผม ที่อยู่ในกระแส เคป๊อป และ เจป๊อป
โดยพฤติกรรมการซื้อของลูกค้านั้น ยังพบด้วยว่า จะเริ่มหันมาตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ถึงแม้จะมีราคาที่สูงจากแบรนด์เดิมที่เคยใช้ ขณะเดียวกัน สินค้าในกลุ่มแมสโปรดักส์ ก็ยังคงมีสัดส่วนยอดขายทรงตัวอยู่ เนื่องจากผู้บริโภคบางกลุ่ม หรือบางพื้นที่ เช่น ในต่างจังหวัด จะมีความเป็นไปได้ที่จะเลือกซื้อสินค้าที่เป็นเฮาส์แบรนด์ของวัตสันมากกว่าในกรุงเทพฯ ซึ่งจะมองในเรื่องของความคุ้มค่าคุ้มราคาที่ถูกกว่าแบรนด์ทั่วไป 20-25% ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากความเชื่อมั่นในแบรนด์วัตสันที่ในปีนี้มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น หนังสือพิมพ์ หรือ นิตยสาร ต่างๆ
ทั้งนี้ บริษัทได้มีการเพิ่มงบประมาณทางการตลาดมากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 10% สำหรับใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรมต่างๆ ซึ่งถือว่ามีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายมากกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อ ซึ่งจะเน้นในเรื่องของแมสคอมมูนิเคชันค่อนข้างมาก
ล่าสุด บริษัทได้ร่วมกับทาง ยูนิลีเวอร์ จัดโปรโมชั่น “Watsons & Beauty Bonus” เป็นปีที่ 3 โดยผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าที่ติดสติกเกอร์ “Unilever Beauty Bonus” 1 ชิ้น มีสิทธิ์แลกซื้อสินค้าที่มีสติกเกอร์ “แลกซื้อ 50%” ได้อีก 1 ชิ้น ในราคาเพียง 50% โดยมีสินค้าให้เลือกกว่า 30 รายการ จากแบรนด์ดังในเครือยูนิลีเวอร์ อาทิ ซันซิล พอนด์ส โดฟ วาสลีน และคลีนิค เริ่มตั้งแต่ 22 พ.ค.25 มิ.ย.2551
“แคมเปญครั้งนี้ ลูกค้าจะประหยัดได้ถึง 50% คาดว่า จะเป็นแคมเปญที่จะเรียกลูกค้าทั้งใหม่และเก่าให้มีการซื้อได้ค่อนข้างสูง ซึ่งเชื่อว่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติแล้ว ระยะเวลาของการจัดแคมเปญครั้งนี้ น่าจะมียอดขายเติบโตขึ้น 40%”
นางสาวนวลพรรณ กล่าวด้วยว่า สำหรับแนวโน้มยอดขายในไตรมาสสอง เชื่อว่า ยังไปได้ดี ส่วนครึ่งปีหลังนั้น มองว่า อาจจะมียอดขายสู้ช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนไม่ได้ เนื่องจากปีก่อนมียอดขายค่อนข้างสูง แต่เมื่อเทียบทั้งปีแล้ว เชื่อว่า วัตสันจะยังมียอดขายเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการขยายสาขา ปีนี้ยังคงมีแผนการขยายสาขาต่อเนื่องอย่างน้อยอีก 12 สาขา ซึ่งได้เริ่มทยอยเปิดให้บริการไปบ้างแล้ว เช่น ลพบุรี อยุธยา ทั้งนี้ หากมีทำเลและโอกาส ก็จะขยายสาขาให้ได้มากที่สุด โดยยังไม่มีแผนเปิดในลักษณะโมเดลอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันวัตสันมีจำนวนสาขาทั้งหมด 145 สาขา
นางสาวนวลพรรณ ชัยนาม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัล วัตสัน จำกัด ผู้บริหารร้านวัตสัน เปิดเผยว่า พฤติกรรมผู้บริโภคของวัตสันเริ่มมั่นใจในสภาพเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น หลังจากที่สภาพการเมืองเริ่มเข้าที่ โดยพบว่าในช่วงต้นปีที่ผ่านมายอดขายของร้านวัตสัน มีการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าประเภทสกินแคร์ และเวชสำอาง รวมถึงสินค้าเฉพาะกลุ่ม หรือเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ อย่าง ยาย้อมผม ที่อยู่ในกระแส เคป๊อป และ เจป๊อป
โดยพฤติกรรมการซื้อของลูกค้านั้น ยังพบด้วยว่า จะเริ่มหันมาตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ถึงแม้จะมีราคาที่สูงจากแบรนด์เดิมที่เคยใช้ ขณะเดียวกัน สินค้าในกลุ่มแมสโปรดักส์ ก็ยังคงมีสัดส่วนยอดขายทรงตัวอยู่ เนื่องจากผู้บริโภคบางกลุ่ม หรือบางพื้นที่ เช่น ในต่างจังหวัด จะมีความเป็นไปได้ที่จะเลือกซื้อสินค้าที่เป็นเฮาส์แบรนด์ของวัตสันมากกว่าในกรุงเทพฯ ซึ่งจะมองในเรื่องของความคุ้มค่าคุ้มราคาที่ถูกกว่าแบรนด์ทั่วไป 20-25% ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากความเชื่อมั่นในแบรนด์วัตสันที่ในปีนี้มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น หนังสือพิมพ์ หรือ นิตยสาร ต่างๆ
ทั้งนี้ บริษัทได้มีการเพิ่มงบประมาณทางการตลาดมากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 10% สำหรับใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรมต่างๆ ซึ่งถือว่ามีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายมากกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อ ซึ่งจะเน้นในเรื่องของแมสคอมมูนิเคชันค่อนข้างมาก
ล่าสุด บริษัทได้ร่วมกับทาง ยูนิลีเวอร์ จัดโปรโมชั่น “Watsons & Beauty Bonus” เป็นปีที่ 3 โดยผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าที่ติดสติกเกอร์ “Unilever Beauty Bonus” 1 ชิ้น มีสิทธิ์แลกซื้อสินค้าที่มีสติกเกอร์ “แลกซื้อ 50%” ได้อีก 1 ชิ้น ในราคาเพียง 50% โดยมีสินค้าให้เลือกกว่า 30 รายการ จากแบรนด์ดังในเครือยูนิลีเวอร์ อาทิ ซันซิล พอนด์ส โดฟ วาสลีน และคลีนิค เริ่มตั้งแต่ 22 พ.ค.25 มิ.ย.2551
“แคมเปญครั้งนี้ ลูกค้าจะประหยัดได้ถึง 50% คาดว่า จะเป็นแคมเปญที่จะเรียกลูกค้าทั้งใหม่และเก่าให้มีการซื้อได้ค่อนข้างสูง ซึ่งเชื่อว่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติแล้ว ระยะเวลาของการจัดแคมเปญครั้งนี้ น่าจะมียอดขายเติบโตขึ้น 40%”
นางสาวนวลพรรณ กล่าวด้วยว่า สำหรับแนวโน้มยอดขายในไตรมาสสอง เชื่อว่า ยังไปได้ดี ส่วนครึ่งปีหลังนั้น มองว่า อาจจะมียอดขายสู้ช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนไม่ได้ เนื่องจากปีก่อนมียอดขายค่อนข้างสูง แต่เมื่อเทียบทั้งปีแล้ว เชื่อว่า วัตสันจะยังมียอดขายเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการขยายสาขา ปีนี้ยังคงมีแผนการขยายสาขาต่อเนื่องอย่างน้อยอีก 12 สาขา ซึ่งได้เริ่มทยอยเปิดให้บริการไปบ้างแล้ว เช่น ลพบุรี อยุธยา ทั้งนี้ หากมีทำเลและโอกาส ก็จะขยายสาขาให้ได้มากที่สุด โดยยังไม่มีแผนเปิดในลักษณะโมเดลอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันวัตสันมีจำนวนสาขาทั้งหมด 145 สาขา