ส.เคเบิลทีวี เผยแผนเดินหน้าปี51 หลัง พรบ.ประกอบกิจการกระจายเสียงฯคลอด เร่งประชุมด่วน ดึงเอเจนซี่และเอซีนีลเส็น เช็คเรตติ้งรายการ กรุยทางลงโฆษณาให้ทันปลายปี คาดเม็ดเงินโฆษณาไหลสู่เคเบิลทีวีท้องถิ่นไม่ต่ำกว่า 5-10% หวังปั้นสู่ภาคอุตสาหกรรม เชื่อการแข่งขันสูง
นายเกษม อินทร์แก้ว นายกสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทางสมาคมเคเบิลทีวีฯได้มีการศึกษาเนื้อหาต่างๆ โดยเฉพาะในส่วนของการที่สามารถให้มีโฆษณาบนเคเบิลทีวีได้นั้น ล่าสุดทางสมาคมฯได้ร่วมกับทางเอเจนซี่โฆษณาและเอซีนีลเส็นเพื่อทำการเช็คเรตติ้ง
โดยการดำเนินงานเพื่อสำรวจหาข้อมูลตัวเลขที่เป็นจริงเกี่ยวกับ จำนวนผู้ที่รับชมเคเบิลทีวีท้องถิ่น รวมถึงคอนเท้นท์รายการใดของทางเคเบิลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการตัดสินใจของผู้ที่จะลงโฆษณาต่อไป ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในตั้งเดือนพ.ค.-มิ.ย. คาดว่าจะเรียบร้อย โดยคาดว่าไม่น่าจะเกินปลายปีนี้ จะเริ่มเห็นโฆษณาบนเคเบิลทีวีท้องถิ่นได้ ทั้งนี้คาดว่าเม็ดเงินโฆษณาที่จะลงมาอยู่ในเคเบิลทีวีน่าจะมีสัดส่วนประมาณ 5-10% ของอุตสาหกรรมโฆษณาทั้งหมด
อย่างไรก็ตามนอกจากเรื่องของการโฆษณาแล้ว ทางสมาคมฯยังได้มีการประสานงานร่วมกับทาง กทช. ที่มีหน้าที่ดูแลออกใบอนุญาตสำหรับผู้ที่ทำเคเบิลทีวี เข้ามารับทราบถึงรายละเอียดต่างๆของการประกอบกิจการเกี่ยวกับเคเบิลทีวี เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการทั้ง 22 คนต่อไป เพื่อให้ผู้ที่มีใบอนุญาตเหล่านี้เป็นใบอนุญาตที่ถูกกฏหมายอย่างแท้จริง ทั้งนี้เพื่อที่จะทำให้เจ้าของเคเบิลเหล่านี้มีความมั่นใจ ตามที่สมาคมฯต้องการที่จะผลักดันให้ธุรกิจเคเบิลทีวี กลายเป็นระดับอุตสาหกรรมต่อไปในอนาคตไม่เกิน 2 ปีนับจากนี้ โดยที่ภาครัฐจะต้องให้ความสำคัญและเข้ามาดูแลอย่างจริงจังด้วย
ทั้งนี้จากการที่พรบ.มีผลบังคับใช้ ส่งผลให้ธุรกิจเคเบิลทีวี เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น จึงเชื่อว่าการแข่งขันจะสูงตามไปด้วย ซึ่งในความเห็นส่วนตัวมองว่า กลุ่มเคเบิลระดับประเทศมีความน่าเป็นห่วง เพราะจะมีเคเบิลทีวีจากต่างชาติเข้ามาแข่งขันเพิ่มมากยิ่งขึ้น เพราะเห็นว่ามีความเป็นไปได้ในการที่จะเข้ามาทำธุรกิจทั้งในลักษณะของเคเบิลทีวี หรือคอนเท้นท์ต่างๆ
ขณะที่ในส่วนเคเบิลทีวีท้องถิ่นมองว่า ไม่น่าเป็นในเรื่องการแข่งขัน เพราจริงๆแล้วคนที่จะเข้ามาทำได้จะต้องมีทั้งความรู้ ความสามารถและเม็ดเงินในการลงทุนอยู่พอสมควร แต่อย่างไรก็ตาม แนวโน้มที่มีเคเบิลทีวีท้องถิ่นจำนวนถึง 500 สถานี ทางสมาคมจะผลักดันให้มีการรวมตัวกันให้เหลือเพียง 100 กว่าสถานีเท่านั้น ทั้งในลักษณะการรวมทุน หรืออื่นๆ ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมตัวรับกับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในธุรกิจนี้
นายเกษม กล่าวต่อว่า ล่าสุดของการผลักดันในธุรกิจเคเบิลทีวี ในวันที่ 28 พ.ค.ที่จึงถึงนี้ ทางสมาคมฯจะมีการจัดประชุมใหญ่ขึ้น ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีวัตถุประสงค์ของการจัดงานคือ จะมีการเลือกตั้งนายกสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย คนใหม่ ขณะเดียวกันยังมีการจัดงานเสวนา เรื่อง "ก้าวใหม่ของอุตสาหกรรมเคเบิลทีวีไทย" อีกส่วนหนึ่งด้วย เพื่อร่วมกันหาวิธีการว่าจะต้องทำอย่างไร ในการที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเคเบิลทีวีต่อไปได้