คอนเวอร์สชะลอตลาดส่งออก มุ่งสนองตลาดในประเทศที่เติบโตดี งดลงทุนโครงการใหญ่ ปรับกระบวนการผลิตเพิ่มอีก 15% อัดงบตลาด 40 ล้านบาท ปลุกกำลังซื้อ ยันปีนี้ไม่ปรับราคา คาดเติบโต 6.67% สู่ยอดขาย 800 ล้านบาท
นายเชิดชาย ประสงค์ผลชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด และนายพีพิธ เพชรเรือนทอง ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ริช สปอร์ต จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์รองเท้า คอนเวอร์ส กล่าวว่า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในปีนี้ไม่ค่อยสดใส บริษัทฯจะไม่ลงทุนอะไรใหญ่โต โดยเฉพาะในเรื่องกำลังผลิตนั้น จะไม่ลงทุนเพิ่มไลน์ผลิตแต่จะปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีขึ้นซึ่งจะส่งผลต่อยอดผลิตที่จะเพิ่มขึ้นอีก 15% จากกำลังผลิตเต็มที่ตอนนี้อยู่ที่ 8 แสนคู่ต่อปี
ขณะที่ด้านการตลาดนั้น ตั้งงบไว้ที่ 40 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่ใช้ 35 ล้านบาท จะใช้ 3 กลยุทธ์หลักคือ 1. การบริหารสินค้าให้มีความหลากหลาย เพิ่มแบบใหม่ของรุ่น โปรสตาร์ที่เพิ่งเปิดตัวเดือนตุลาคมปีที่แล้วได้รับการตอบรับอย่างดี ราคาเฉลี่ยที่ 840 บาทต่อคู่ จะขยายสู่ รุ่นหนัง รุ่นยีนส์ การเพิ่มสี เป็นต้น และจะเริ่มทำตลาดเต็มที่ช่วงกลางปีนี้ รวมทั้งการเพิ่มพันธมิตรทำตลาดเช่น โครงการพัฒนาดอยตุง และดีไซเนอร์ใหม่ๆ
2.การบริหารสต๊อค ให้อยู่ในปริมาณที่พอดีไม่มากไม่น้อยเกินไป ซึ่งบริษัทฯมีข้อได้เปรียบตรงที่ผลิตเองในประเทศ จากทั้งหมด 5 ประเทศในโลกที่ผลิตคอนเวอร์สคือ ไทย อินโดนีเซีย จีน เวียดนาม และอินเดีย และ 3.การบริหารต้นทุน โดยใช้วัตดุดิบในประเทศ ลดภาษีนำเข้า และไม่มีค่าขนส่งทางเรือในการนำเข้าวัตถุดิบ ซึ่งค่าขนส่งปรับตัวสูงขึ้นจากราคาน้ำมันที่แพงขึ้น
การออกรุ่นใหม่ๆก็ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อที่ตกลงด้วย ปีนี้คาดว่าจะมีมากกว่า 200 แบบ ล่าสุดคือ การฉลองครบรอบ 100 ปีของคอนเวอร์ส โดยจะมีการออกแบบรุ่นพิเศษจากผู้ที่คร่ำหวอดในวงศิลปะเช่น ครูสังคม ทองมี นิวัติ กองเพียร อ.วีระธรรม ตระกูลเงินไทย โดม สุขวงศ์ เป็นต้น จำนวนรวม 23 ศิลปิน ทั้งหมด 29 แบบ ผลิตจำกัดตั้งแต่ 200-400 คู่ต่อแบบ
นายเชิดชายกล่าวต่อว่า ยังไม่มีแผนที่จะทำตลาดต่างประเทศ เนื่องจากความต้องการในประเทศยังมีอยู่อีกมาก อีกทั้งค่าเงินบาทที่แข็งตัวขึ้นก็ส่งผลกระทบด้วยเช่นกันกับการส่งออก ปีนี้ขยายจุดจำหน่าย 2 แห่ง ลงทุนเฉลี่ย 3-4 ล้านบาทต่อสาขา ซึ่งปัจจุบันมีจุดขาย 3 รูปแบบคือ 1.คอนเซ็ปท์ชอป จำนวน 20 แห่ง, 2. ชอปอินชอปในศูนย์การค้า 80 จุด และ ร้านรองเท้าทั่วไป 500 จุด
ผลประกอบการของบริษัทฯในปี 2550 มียอดขาย 750 ล้านบาท เติบโต 5.63% จากปี 2549 ที่มียอดขาย 710 ล้านบาท เติบโต 5% ขณะที่ปี 2551 ตั้งเป้าหมายอดขาย 800 ล้านบาท เติบโต 6.67% ตลาดรวมรองเท้าอินเตอร์แบรนด์ในไทยและส่วนแบ่งยอดขายแต่ละแบรนด์ในปี 2550 มีประมาณ 4,500 ล้านบาท แบ่งเป็น ไนกี้ผู้นำตลาด ประมาณ 1,400 ล้านบาท, อาดิดาส ประมาณ 1,200 ล้านบาท, คอนเวอร์ส ประมาณ 750 ล้านบาท, พูม่า ประมาณ 400 ล้านบาท, รีบอค ประมาณ 300 ล้านบาท อื่นๆรวม 450 ล้านบาท
นายเชิดชาย ประสงค์ผลชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด และนายพีพิธ เพชรเรือนทอง ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ริช สปอร์ต จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์รองเท้า คอนเวอร์ส กล่าวว่า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในปีนี้ไม่ค่อยสดใส บริษัทฯจะไม่ลงทุนอะไรใหญ่โต โดยเฉพาะในเรื่องกำลังผลิตนั้น จะไม่ลงทุนเพิ่มไลน์ผลิตแต่จะปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีขึ้นซึ่งจะส่งผลต่อยอดผลิตที่จะเพิ่มขึ้นอีก 15% จากกำลังผลิตเต็มที่ตอนนี้อยู่ที่ 8 แสนคู่ต่อปี
ขณะที่ด้านการตลาดนั้น ตั้งงบไว้ที่ 40 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่ใช้ 35 ล้านบาท จะใช้ 3 กลยุทธ์หลักคือ 1. การบริหารสินค้าให้มีความหลากหลาย เพิ่มแบบใหม่ของรุ่น โปรสตาร์ที่เพิ่งเปิดตัวเดือนตุลาคมปีที่แล้วได้รับการตอบรับอย่างดี ราคาเฉลี่ยที่ 840 บาทต่อคู่ จะขยายสู่ รุ่นหนัง รุ่นยีนส์ การเพิ่มสี เป็นต้น และจะเริ่มทำตลาดเต็มที่ช่วงกลางปีนี้ รวมทั้งการเพิ่มพันธมิตรทำตลาดเช่น โครงการพัฒนาดอยตุง และดีไซเนอร์ใหม่ๆ
2.การบริหารสต๊อค ให้อยู่ในปริมาณที่พอดีไม่มากไม่น้อยเกินไป ซึ่งบริษัทฯมีข้อได้เปรียบตรงที่ผลิตเองในประเทศ จากทั้งหมด 5 ประเทศในโลกที่ผลิตคอนเวอร์สคือ ไทย อินโดนีเซีย จีน เวียดนาม และอินเดีย และ 3.การบริหารต้นทุน โดยใช้วัตดุดิบในประเทศ ลดภาษีนำเข้า และไม่มีค่าขนส่งทางเรือในการนำเข้าวัตถุดิบ ซึ่งค่าขนส่งปรับตัวสูงขึ้นจากราคาน้ำมันที่แพงขึ้น
การออกรุ่นใหม่ๆก็ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อที่ตกลงด้วย ปีนี้คาดว่าจะมีมากกว่า 200 แบบ ล่าสุดคือ การฉลองครบรอบ 100 ปีของคอนเวอร์ส โดยจะมีการออกแบบรุ่นพิเศษจากผู้ที่คร่ำหวอดในวงศิลปะเช่น ครูสังคม ทองมี นิวัติ กองเพียร อ.วีระธรรม ตระกูลเงินไทย โดม สุขวงศ์ เป็นต้น จำนวนรวม 23 ศิลปิน ทั้งหมด 29 แบบ ผลิตจำกัดตั้งแต่ 200-400 คู่ต่อแบบ
นายเชิดชายกล่าวต่อว่า ยังไม่มีแผนที่จะทำตลาดต่างประเทศ เนื่องจากความต้องการในประเทศยังมีอยู่อีกมาก อีกทั้งค่าเงินบาทที่แข็งตัวขึ้นก็ส่งผลกระทบด้วยเช่นกันกับการส่งออก ปีนี้ขยายจุดจำหน่าย 2 แห่ง ลงทุนเฉลี่ย 3-4 ล้านบาทต่อสาขา ซึ่งปัจจุบันมีจุดขาย 3 รูปแบบคือ 1.คอนเซ็ปท์ชอป จำนวน 20 แห่ง, 2. ชอปอินชอปในศูนย์การค้า 80 จุด และ ร้านรองเท้าทั่วไป 500 จุด
ผลประกอบการของบริษัทฯในปี 2550 มียอดขาย 750 ล้านบาท เติบโต 5.63% จากปี 2549 ที่มียอดขาย 710 ล้านบาท เติบโต 5% ขณะที่ปี 2551 ตั้งเป้าหมายอดขาย 800 ล้านบาท เติบโต 6.67% ตลาดรวมรองเท้าอินเตอร์แบรนด์ในไทยและส่วนแบ่งยอดขายแต่ละแบรนด์ในปี 2550 มีประมาณ 4,500 ล้านบาท แบ่งเป็น ไนกี้ผู้นำตลาด ประมาณ 1,400 ล้านบาท, อาดิดาส ประมาณ 1,200 ล้านบาท, คอนเวอร์ส ประมาณ 750 ล้านบาท, พูม่า ประมาณ 400 ล้านบาท, รีบอค ประมาณ 300 ล้านบาท อื่นๆรวม 450 ล้านบาท