xs
xsm
sm
md
lg

อังกฤษตรางูรุกสบู่เฮลท์ตี้ ขยายฐานส่งออกดันยอดโต5%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อังกฤษตรางู รุกตลาดสบู่กลุ่มเฮลท์ตี้ ทุ่ม 80 ล้านบาท ลอนช์สินค้าใหม่ ชูสบู่และครีมอาบน้ำ บาลานซิ่ง คูล ตรางู หวังปีแรกมีแชร์ 7% มั่นใจดันรายได้รวมโตอีก 5% จาก 900-1,000 ล้านบาทในปีก่อน พร้อมขยายตลาดส่งออก

นายสมชาย นิธิเสถียรชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและขายภายในประเทศ บริษัท อังกฤษตรางู (แอล.พี.) จำกัด เปิดเผยว่า ในกลุ่มอังกฤษตรางู มีการทำตลาดอยู่ 2 ผลิตภัณฑ์ คือ แป้งเย็นตรางู และสบู่ตรางู โดยในส่วนของแป้งเย็นตรางูได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้กลายเป็นสินค้าหลักของการสร้างรายได้ ส่วนสบู่ตรางูนั้น ที่ผ่านมามีรายได้เพียง 5-6 ล้านบาทเท่านั้น

ล่าสุด บริษัทฯได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ชื่อ สบู่และครีมอาบน้ำ บาลานซิ่ง คูล ตรางู (Snake Brand Balancing Cool Hygienic Body Wash) โดยวางโพซิชั่นนิ่งสินค้าไว้ในกลุ่มสบู่เพื่อสุขภาพ หรือ เฮลท์ตี้ โดยมีกลุ่มเป้าหมายในระดับซีบวกขึ้นไป และเป็นคนที่อยู่ในกรุงเทพฯเป็นหลัก คาดว่าปีนี้น่าจะสร้างรายได้ให้ 90 ล้านบาท หรือมีแชร์ในตลาดได้ประมาณ 7% ซึ่งหวังว่าในปีหน้าจะเพิ่มเป็น 15% จากเดิมที่บริษัทฯมีสบู่ตรางูอยู่ในตลาดนี้อยู่แล้ว แต่มีรายได้ต่อปีเพียง 5-6 ล้านบาทเท่านั้น หลังจากส่งสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดนี้แล้ว บริษัทฯจึงได้มีหยุดผลิตสบู่ตรางูลง

อย่างไรก็ตาม ตลาดรวมสบู่มูลค่า 5,800 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโต 3% ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น ตลาดสบู่ก้อน 3,700 ล้านบาท โดยแยกเป็นสบู่ก้อนเพื่อความงาม 60% สบู่ก้อนเพื่อสุขภาพ 30% สบู่ก้อนเด็ก 10% ส่วนสบู่เหลวมีมูลค่าตลาด 2,100 ล้านบาท แยกเป็น สบู่เหลวเพื่อความงาม 70% สบู่เหลวเพื่อสุขภาพ 13% สบู่เหลวเด็กอีก 17%

ในส่วนของผลิตภัณฑ์แป้งเย็นตรางู หลังจากที่ได้มีการทำการตลาดอย่างจริงจังตั้งแต่ปี2547 จากที่มีส่วนแบ่งในกลุ่มตลาดแป้งเย็น 18% ปีที่ผ่านมาสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดได้เป็น23% โดยในปีนี้ทางบริษัทฯยังให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มแป้งเย็นอยู่ จากเม็ดเงินทางการตลาดรวมกว่า 250 ล้านบาท จะใช้กับแป้งเย็นกว่า 170 ล้านบาท และใช้กับ สบู่และครีมอาบน้ำ บาลานซิ่ง คูล ตรางู 80 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งงบประมาณดังกล่าวใช้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่จะใช้กับแป้งเย็นเท่านั้น

ทั้งนี้เชื่อว่าปีนี้ บริษัทฯจะมีรายได้รวมเติบโตขึ้นประมาณ 5% คิดเป็นมูลค่า 900-1,000 ล้านบาทโดยแบ่งเป็น จำหน่ายในประเทศ 700 ล้านบาท ต่างประเทศ 150 ล้านบาท และโออีเอ็มอีก 100 ล้านบาท จากเดิมปีก่อนมีรายได้เพียง 800 ล้านบาท นอกจากนี้ในส่วนต่างประเทศนั้น จากเดิมที่ส่งออกไปยัง จีน ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ปีนี้จะขยายต่อยังประเทศเวียดนามและฟิลิปปินส์ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น