xs
xsm
sm
md
lg

มือถือ 4 ค่าย สรุปซิมธงฟ้านาทีละ 50 สต.-“เอไอเอส” ขอฮุบ 40%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอกชน 4 รายผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่ของไทย ได้ข้อสรุป “ซิมธงฟ้า” ราคา 49 บาท จำนวน 1 แสนซิมการ์ด อัตราค่าโทร.50 สตางค์/นาที นาน 12 ชม. และต่อไปคิดนาทีละ 2 บาท โดยเชื่อว่าจะไม่กระทบการแข่งขันในตลาดปกติ พร้อมระบุเอไอเอสฟาดสว่นแบ่ง 40%, ดีแทค 30%, ทรูมูฟ 20% และฮัทช์ 10%

วันนี้ (18 มี.ค.) นายซิคเว่ เบรคเก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC กล่าวถึงความคืบหน้าล่าสุดในการจัดทำซิมการ์ดโทรศัพท์ราคาถูก ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชน โดยระบุว่า ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ทั้ง 4 ราย ได้ข้อสรุปจากผลการหารือเรื่องซิมราคาถูกแล้ว โดยจะผลิตทั้งหมด 1 แสนซิมคิดในราคา 0.50 บาทต่อนาที เป็นเวลา 12 ชม. ที่เหลือคิดนาทีละ 2 บาท เตรียมเสนอต่อนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในวันพรุ่งนี้

นายธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีแทค เปิดเผยว่า ผู้ให้บริการทั้ง 4 ราย ได้แก่ เอไอเอส ดีแทค ทรูมูฟ และฮัทช์ ตกลงร่วมกันเสนอราคาลดค่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ในโครงการ “ซิมพาณิชย์” เพื่อลดภาระค่าครองชีพแก่ประชาชน ในอัตราค่าโทรนาทีละ 50 สตางค์ ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. รวม 12 ชั่วโมง ส่วนเวลาที่เหลือ เอไอเอสกับดีแทคคิดค่าโทร.นาทีละ 2 บาท สำหรับทรูมูฟกับฮัทช์คิดนาทีละ 1.50 บาท ซึ่งเบื้องต้นจะออกซิมการ์ดแบบพิเศษดังกล่าว 100,000 ซิมการ์ด ให้กระทรวงพาณิชย์นำไปจำหน่ายตามช่องทางของกระทรวง เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง มั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อการแข่งขันของตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพราะเป็นจำนวนไม่มากนัก แต่ถ้ามากกว่านี้คงไม่สามารถทำได้ เพราะจะกระทบต่อภาวะการแข่งขัน และต้องขอความเห็นจากผู้ถือหุ้นของแต่ละบริษัท

ส่วนราคาของซิมการ์ด เบื้องต้นเอกชนจะเสนอให้ขายในราคา 49 บาทต่อซิมการ์ด แต่ต้องขึ้นกับการพิจารณาของกระทรวงพาณิชย์ว่าจะตัดสินใจอย่างไร โดยในจำนวน 100,000 ซิมการ์ด ผู้ให้บริการรายใหญ่จะรับภาระมากที่สุด คือ เอไอเอส 40,000 ซิมการ์ด ดีแทค 30,000 ซิมการ์ด ทรูมูฟ 20,000 ซิมการ์ด และฮัทช์ 10,000 ซิมการ์ด ขณะเดียวกัน เอไอเอส กับดีแทค ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดเกินร้อยละ 25 ได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เพื่อขอความเห็นว่าการจัดทำซิมพาณิชย์ในราคาดังกล่าว ถือว่าเข้าข่ายใช้อำนาจเหนือตลาดหรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาการร้องเรียนจากผู้ประกอบการรายเล็ก

“อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาทางดีแทคยังไม่เคยได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ใช้บริการเลยว่าค่าโทรแพง เพราะมีการแข่งขันลดราคากันอยู่แล้ว แต่คิดว่าโครงการนี้คงได้กระแสสินค้าราคาถูกให้ผู้บริโภครู้สึกสบายใจบ้าง ส่วนราคาที่เสนอนับว่าต่ำที่สุดในขณะนี้ เพราะหากต่ำกว่านี้ผู้ให้บริการก็จะขาดทุน” นายธนา กล่าว

รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารดีแทค ยังกล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.(หญิง) ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบายจะให้กรมสรรพสามิตทบทวนการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตโทรคมนาคมว่า ถือเป็นนโยบายที่ขัดแย้งกับกระทรวงพาณิชย์ ที่เห็นว่าโทรศัพท์คือสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันจนต้องขอให้ลดราคาลง ขณะที่หลักการของภาษีสรรพสามิต คือ เก็บจากสินค้าฟุ่มเฟือย เพื่อลดการบริโภค เช่น สุรา และบุหรี่ อย่างไรก็ตาม หากจะจัดเก็บภาษีดังกล่าวก็สามารถทำได้ 2 แนวทาง คือ เก็บจาก บมจ.ทีโอที และ บมจ.กสท โทรคมนาคม ในฐานะผู้ให้สัมปทาน ซึ่งแนวทางนี้จะทำให้ทั้ง 2 องค์กรมีสถานะอ่อนแอลง ส่วนแนวทางที่ 2 คือ จัดเก็บจากทุกบริษัท ซึ่งจะเกิดการผลักภาระสู่ผู้บริโภคทันที ดังนั้นโดยส่วนตัวเห็นว่า หากรัฐต้องการรายได้เพิ่ม ควรจะลดการลงทุนในรัฐวิสาหกิจทั้ง 2 แห่ง เพื่อให้เหลือเงินส่งเข้าคลังมากขึ้น แทนการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต
กำลังโหลดความคิดเห็น