กสท.ชี้ยุคเทคโนโลยีสารสนเทศล้ำหน้า เขี่ยกิจการโทรเลขตกขอบโลก คนรุ่นใหม่นิยมใช้มือถือ อีเมล์ แฟกซ์ และอีเอ็มเอส ยอมรับปัจจุบัน มียอดการใช้เพียง 100 ฉบับต่อเดือน รายได้เดือนละ 5 พันบาท ขณะที่ต้องแบกต้นทุนถึงเดือนละ 25 ล้านบาท กสท.จึงประกาศยกเลิกบริการโทรเลข นับตั้งแต่ 1 พ.ค.นี้ เป็นต้นไป
นายสมพล จันทร์ประเสริฐ ที่ปรึกษาอาวุโส บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กสทฯ กำหนดที่จะยกเลิกบริการโทรเลข โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้ เป็นต้นไป เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดบริการโทรคมนาคมและบริการไปรษณีย์ที่มีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็วและสามารถเข้าถึงผู้ใช้บริการมาก อาทิ โทรศัพท์เคลื่อนที่ การรับส่งข้อมูลทางอีเมล์ การใช้เครื่องโทรสาร บริการ EMS และธนาณัติ Online ซึ่งบริการเหล่านี้ส่งผลให้ยอดผู้ใช้บริการโทรเลขลดลงจนเกือบหมด
นอกจากนี้ การซื้อหาอุปกรณ์ระบบสื่อสัญญาณ อุปกรณ์เครื่องรับส่งโทรเลข และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในระบบการให้บริการหลายอย่างไม่สามารถจัดซื้อหรือหาอะไหล่มาซ่อมบำรุงได้ เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ล้าสมัยบางชิ้นยกเลิกการผลิตไปแล้ว ปัจจุบันมียอดผู้ใช้บริการโทรเลขเหลือเพียงเดือนละประมาณ 100 ฉบับ คิดเป็นรายได้เพียง 5,000 บาทต่อเดือน ขณะที่มีต้นทุนที่ต้องจ้างบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ดูแลการให้บริการโทรเลขถึงเดือนละ 25 ล้านบาท จากเดิมที่บริการโทรเลขได้รับความนิยมจากผู้ใช้บริการสูงสุดโดยในเดือนมีนาคม 2538 มีผู้ใช้บริการโทรเลขขาเข้าสูงถึง 487,984 ฉบับและขาออกอีกกว่า 500,000 ฉบับ ซึ่งเมื่อเทียบสัดส่วนรายได้และรายจ่ายในลักษณะขององค์กรที่ต้องแข่งขันกันในเชิงธุรกิจแล้วถือว่าไม่คุ้มค่าหากยังต้องให้บริการต่อไป
การให้บริการโทรเลขในประเทศไทย เริ่มมีการวางรากฐานอย่างเป็นรูปธรรมขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยในปีพ.ศ. 2418 รัฐบาลไทยได้มอบหมายให้กรมกลาโหม เป็นผู้ดำเนินการสร้างทางสายโทรเลขสายแรกจากกรุงเทพฯ ไปปากน้ำหรือจังหวัดสมุทรปราการในปัจจุบันขึ้น ทั้งนี้ได้ดำเนินการวางสายเคเบิลโทรเลขใต้น้ำต่อออกไปถึงกระโจมไฟนอกสันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยา รวมระยะทางทั้งสิ้น 45 กิโลเมตร เพื่อใช้ในการส่งข่าวสารทางราชการเป็นหลัก ต่อมาในปี พ.ศ.2421 กรมกลาโหมได้สร้างทางสายโทรเลขสายที่สองขึ้นจากกรุงเทพฯ ถึงพระราชวังบางปะอินซึ่งในเวลาต่อมาได้ขยายเส้นทางออกไปถึงกรุงเก่า (จังหวัดพระนครศรีอยุธยา)
สำหรับประวัติของการไปรษณีย์-โทรเลข เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.2426 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาตั้ง “กรมโทรเลข” ขึ้นพร้อมกับ “กรมไปรษณีย์” เพื่อรับช่วงงานต่อจากกรมกลาโหม โดยมีสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมหลวงภาณุพันธุวงศ์วรเดช (พระยศในสมัยนั้น) เป็นผู้สำเร็จราชการพระองค์แรก
นายสมพล จันทร์ประเสริฐ ที่ปรึกษาอาวุโส บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กสทฯ กำหนดที่จะยกเลิกบริการโทรเลข โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้ เป็นต้นไป เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดบริการโทรคมนาคมและบริการไปรษณีย์ที่มีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็วและสามารถเข้าถึงผู้ใช้บริการมาก อาทิ โทรศัพท์เคลื่อนที่ การรับส่งข้อมูลทางอีเมล์ การใช้เครื่องโทรสาร บริการ EMS และธนาณัติ Online ซึ่งบริการเหล่านี้ส่งผลให้ยอดผู้ใช้บริการโทรเลขลดลงจนเกือบหมด
นอกจากนี้ การซื้อหาอุปกรณ์ระบบสื่อสัญญาณ อุปกรณ์เครื่องรับส่งโทรเลข และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในระบบการให้บริการหลายอย่างไม่สามารถจัดซื้อหรือหาอะไหล่มาซ่อมบำรุงได้ เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ล้าสมัยบางชิ้นยกเลิกการผลิตไปแล้ว ปัจจุบันมียอดผู้ใช้บริการโทรเลขเหลือเพียงเดือนละประมาณ 100 ฉบับ คิดเป็นรายได้เพียง 5,000 บาทต่อเดือน ขณะที่มีต้นทุนที่ต้องจ้างบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ดูแลการให้บริการโทรเลขถึงเดือนละ 25 ล้านบาท จากเดิมที่บริการโทรเลขได้รับความนิยมจากผู้ใช้บริการสูงสุดโดยในเดือนมีนาคม 2538 มีผู้ใช้บริการโทรเลขขาเข้าสูงถึง 487,984 ฉบับและขาออกอีกกว่า 500,000 ฉบับ ซึ่งเมื่อเทียบสัดส่วนรายได้และรายจ่ายในลักษณะขององค์กรที่ต้องแข่งขันกันในเชิงธุรกิจแล้วถือว่าไม่คุ้มค่าหากยังต้องให้บริการต่อไป
การให้บริการโทรเลขในประเทศไทย เริ่มมีการวางรากฐานอย่างเป็นรูปธรรมขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยในปีพ.ศ. 2418 รัฐบาลไทยได้มอบหมายให้กรมกลาโหม เป็นผู้ดำเนินการสร้างทางสายโทรเลขสายแรกจากกรุงเทพฯ ไปปากน้ำหรือจังหวัดสมุทรปราการในปัจจุบันขึ้น ทั้งนี้ได้ดำเนินการวางสายเคเบิลโทรเลขใต้น้ำต่อออกไปถึงกระโจมไฟนอกสันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยา รวมระยะทางทั้งสิ้น 45 กิโลเมตร เพื่อใช้ในการส่งข่าวสารทางราชการเป็นหลัก ต่อมาในปี พ.ศ.2421 กรมกลาโหมได้สร้างทางสายโทรเลขสายที่สองขึ้นจากกรุงเทพฯ ถึงพระราชวังบางปะอินซึ่งในเวลาต่อมาได้ขยายเส้นทางออกไปถึงกรุงเก่า (จังหวัดพระนครศรีอยุธยา)
สำหรับประวัติของการไปรษณีย์-โทรเลข เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.2426 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาตั้ง “กรมโทรเลข” ขึ้นพร้อมกับ “กรมไปรษณีย์” เพื่อรับช่วงงานต่อจากกรมกลาโหม โดยมีสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมหลวงภาณุพันธุวงศ์วรเดช (พระยศในสมัยนั้น) เป็นผู้สำเร็จราชการพระองค์แรก