"หมัก" สนทนาประสาเศรษฐกิจไทย วันนี้ เตรียมแก้ปัญหาสินค้าแพงด้วยเศษสตางค์ "ธนารักษ์" โดดหนุนทัควัน ประกาศรับแลกเหรียญ 25 สตางค์ และ 50 สตางค์ คืนจากร้านค้า ขณะที่พาณิชย์ เตรียมส่ง จนท.คุมเข้มราคาสินค้าทั่วประเทศ โดยจะอนุมัติปรับขึ้นเป็นเศษสตางค์
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ "สนทนาประสาสมัคร"
วันนี้(16 ก.พ.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการจัดรายการสนทนาประสาสมัครเช้าวันอาทิตย์นี้ว่า ตนจะคุยเรื่องเศรษฐกิจด้วยเศษสตางค์ เป็นสารคดีไม่ต้องถอดเทป ไม่ต้องเตรียม ไม่ต้องเขียน แต่จะเล่าให้ฟังด้วยประสบการณ์ว่า เศรษฐกิจที่บ่นกันกระจองอแง มีตัวอย่างให้เห็นให้ดูว่า ทำไมประเทศไทยเงินค่าแรงวันละ 200 บาท แต่อเมริกาเงินค่าแรงวันละ 1600 บาท ถ้า200 บาทไปซื้อไข่ไก่หนึ่งโหล 1 แพค ก็ราคา 30 บาท แต่ไปซื้อที่ชิคาโก วันนี้ 31 บาท รายได้วันละ 1600 ซื้อไข่ไก่ราคาต่างจากเราเห็นไหม สารคดี ที่จะคุยให้ฟังวันอาทิตย์นี้ หนทางแก้ได้ คนค้าขายไม่ชอบเท่าไหร่ วันอาทิตย์จะเล่าให้ฟัง
"ผมจะเล่าให้ประชาชนฟังในรายการว่ามีทางแก้ไขกันอย่างไร ซึ่งคนค้าคนขายอาจจะไม่ชอบ ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องรับไปดำเนินการ โดยเฉพาะนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องรับผิดชอบในการแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง ส่วนตนมีหน้าที่เสริมโดยจะเล่าเรื่องเป็นสารคดีให้ประชาชนฟังในวันอาทิตย์นี้ขอให้รอฟัง"
นายสมัคร กล่าวอีกว่า ร้านนิตยาที่บางลำพู เขาขายน้ำพริกนิตยา ขายข้าวแกงสำเร็จรูป แต่เขามีกระจาดใหญ่ๆมีเศษสตางค์อยู่เต็ม ขายข้าวแกงจานละ 20 บาท ถ้าเพิ่มราคา 5% ก็ 1 บาท ให้เงินไป 30 บาทก็ทอนมา 9 บาทขายข้าว 100 จานได้เงินเพิ่ม 100 บาท จ่ายของแพง 50 บาทยังกำไร 50 บาท นี่คือความเป็นธรรม ไม่ใช่ข้าวแกงจากจานละ 20 บาท เพิ่มเป็น 25 บาท ขายข้าว 100 จาน ได้กำไร 500 บาท มันเกินไป เพราะเขาไม่มีเศษสตางค์
ด้านนางพันธุ์ทิพย์ สุรทิณฑ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า กรมธนารักษ์ได้หารือกับกระทรวงพาณิชย์ และธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อประสานความร่วมมือในการ ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปรับแลกเหรียญ 25 สตางค์ และ 50 สตางค์ จากร้านค้า หรือหน่วยงานต่างๆ ที่มีเหรียญสตางค์ดังกล่าวเก็บไว้มาก
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการดึงเหรียญ ที่เก็บไว้กลับเข้าสู่ระบบ เพื่อนำมาใช้ในท้องตลาด รวมทั้งยังมีแผน ในการผลิตเหรียญ 25 สตางค์ และ 50 สตางค์ เพิ่ม เพื่อให้มีปริมาณเพียงพอกับความต้องการใช้ของประชาชน อีกทั้งยังเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้มีการปรับราคาสินค้าเป็นเศษสตางค์ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาราคาสินค้าได้ส่วนหนึ่ง
สำหรับประเด็นที่มีการระบุว่า การผลิตเหรียญ 25 สตางค์ หรือเหรียญ 50 สตางค์ เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อที่กำลังปรับตัวสูงขึ้นนั้น นางพันธุ์ทิพย์ กล่าวว่า คงเป็นความเห็นของผู้วิจารณ์แต่ละคน ที่มีความคิดเห็นไม่เหมือนกัน
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ได้ร่วมมือกับกรมธนารักษ์จัดทำแผนปฏิบัติการในการกำหนดปริมาณเงินแต่ละประเภท โดยเฉพาะเหรียญสตางค์ ให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ของประชาชน ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ผู้ประกอบการปรับขึ้นราคาสินค้าเป็นเศษสตางค์ เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนราคาสินค้าที่ปรับขึ้นจริง
นายยรรยง กล่าวว่า เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ประกอบการมักจะปรับขึ้นราคาสินค้าแบบเต็มจำนวน โดยปัดเศษสตางค์ขึ้นไปเป็นบาท โดยอ้างว่าไม่มีเศษสตางค์ทอนเงินให้กับลูกค้า ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการปรับขึ้นราคาที่สูงเกินความเป็นจริง
พร้อมกันนี้ ยังได้ขอความร่วมมือจากสมาคมผู้ประกอบการค้าปลีกไทย ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และตลาดสดที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมเงินทอนเป็นเหรียญสตางค์ให้กับลูกค้า ซึ่งหากห้างค้าปลีก และ ร้านค้าใดที่มีเหรียญสตางค์ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ สามารถ ติดต่อมายังกรมการค้าภายใน โดยจะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดหาเหรียญสตางค์ มาให้
สำหรับในส่วนของต่างจังหวัด ได้มอบหมายให้สำนักงานการค้าภายในจังหวัด และส่วนราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้อง เป็นผู้รับผิดชอบในการนำเหรียญสตางค์กระจายไปยังร้านค้าต่างๆ ให้เพียงพอต่อความต้องการ
"ผู้ประกอบการห้างค้าปลีก และร้านค้าต่างๆ จะอ้างว่าไม่มีเหรียญสตางค์ทอนเงินให้กับประชาชนไม่ได้ เพราะกรมการค้าภายในได้เตรียมพร้อมในเรื่องปริมาณเหรียญสตางค์ไว้พร้อมหมดแล้ว"
ทั้งนี้ หากผู้บริโภคพบเห็นร้านค้าใดที่มีพฤติกรรมเอาเปรียบ สามารถร้องเรียนมาได้ที่กรมการค้าภายใน ผ่านสายด่วนฮอตไลน์แม่บ้าน 1569 ซึ่งกรมการค้าภายในจะส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบ
นายยรรยง กล่าวว่า หากพบว่าร้านค้าดังกล่าวมีพฤติกรรมเอาเปรียบจริง จะดำเนินการตักเตือน หากยังไม่เชื่อ ก็พร้อมจะใช้มาตรการทางกฎหมายเข้ามาจัดการต่อไป