ดูเม็กซ์ ฉวยตลาดนมเด็ก 17,500 ล้านบาท โตน้อย ปั้น “ดูเม็กซ์ มาม่า ยูเอชที” ปลุกตลาดนมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ หลังซุ่มทำตลาด 2 ปี พบเป็นตลาดที่มีศักยภาพ อาศัยช่องทางโรงพยาบาลบูมสินค้า เท 5 ล้านบาท จัดกิจกรรม “Interactive Concert” สิ้นปีรั้งอันดับ 2 แทนที่ มี้ด จอห์นสัน โกยแชร์จาก 7% เพิ่มเป็นมากกว่า 10%
นางวรรณา สวัสดิกุล ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท ดูเม็กซ์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายดูเม็กซ์ มาม่า ยูเอชที เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทวางแผนทำตลาดนมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ภายใต้แบรนด์ “ดูเม็กซ์ มาม่า ยูเอชที” ในเชิงรุกมากขึ้น หลังจากที่เปิดตัวลงสู่ตลาดเมื่อปี 2549 แต่ไม่ได้ทำตลาดอย่างจริงจัง โดยการหันมาทำตลาดเชิงรุกครั้งนี้ เพราะตลาดนมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์มีศักยภาพ โดยพบว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก นอกจากนี้ ยังไม่มีผู้ประกอบรายใดทำตลาดอย่างจริงจัง
ขณะนี้พบว่า อัตราการเกิดของเด็กลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาติดลบ 1.5% และในปีที่ผ่านมา อัตราการเกิดของเด็ก 8.5 แสนคนเท่านั้น ผลพวงดังกล่าวทำให้ตลาดนมผงสำหรับเด็กมูลค่า 17,500 ล้านบาท ในปี 2549 มีอัตราการเติบโต 5% อย่างไรก็ตาม การทำตลาดเชิงรุกในครั้งนี้ของดูเม็กซ์ เป็นการต่อยอดแบรนด์ดูเม็กซ์โดยมีโปรดักส์ให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั้งแม่และลูก จากปัจจุบันดูเม็กซ์ เป็นผู้นำตลาดนมผงพรีเมียมครองส่วนแบ่ง 32%
แผนการตลาดดูเม็กซ์ มาม่า ยูเอชที เน้นแนะนำสินค้าผ่านช่องทางโรงพยาบาลเป็นหลัก เนื่องจากเป็นช่องทางที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง ล่าสุดทุ่ม 5 ล้านบาท จัดกิจกรรม “ Interactive Concert” สำหรับคุณแม่และลูก เพื่อพัฒนาลูกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ในระหว่างวันที่ 16 กุมภาพันธ์ นี้ ที่ โรงแรมปาร์คนายเลิศ ทั้งนี้คาดว่าจะมีแม่ตั้งครรภ์เข้าร่วมงาน 250 คน และคุณพ่อรวมด้วยเป็น 600 คน และจากนั้นจะต่อยอดกิจกรรมด้วยผลิตเป็นซีดีแจก และนำเทปบันทึกมาออกอากาศทางช่อง 9 และเตรียมจัดกิจกรรมต่อเนื่องตลอดทั้งปี
ภาวะตลาดนมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์มีมูลค่า 275 ล้านบาท แบ่งเป็น นมผง 200 ล้านบาท และยูเอชที 75 ล้านบาท โดยในปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโต 5-6% เพราะไม่มีผู้ประกอบการดำเนินการตลาดอย่างจริงจัง โดยมีผู้เล่นหลัก 3 ราย ได้แก่ แอนมัม, มี้ด จอห์นสัน และ ดูเม็กซ์ อย่างไรก็ตาม การดำเนินการตลาดเชิงรุกคาดว่าจะผลักดันตลาดในปีนี้มีอัตราการเติบโต 30-40%
สำหรับสิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้าดูเม็กซ์ มาม่า ยูเอชที จะขึ้นเป็นอันดับ 2 แทนที่ มี้ด จอห์นสัน ด้วยการครองส่วนแบ่งเพิ่มจาก 7% เป็นมากกว่า 10% โดยการแย่งส่วนแบ่งมี้ด จอห์นสัน ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 18% ส่วนแอนมัม เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 71% พร้อมกันนี้ ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทยังได้วางแผนเปิดตัวสินค้ากลุ่มอื่นๆ ได้แก่ ไฮคิว ยูเอชที โลว์แฟท เจาะกลุ่มคุณแม่ที่ห่วงน้ำหนักของเด็ก และ ดูเม็กซ์ ออลเอ็นวัน สำหรับคุณแม่ที่คำนึงถึงโภชนาการเด็ก
นางวรรณา สวัสดิกุล ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท ดูเม็กซ์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายดูเม็กซ์ มาม่า ยูเอชที เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทวางแผนทำตลาดนมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ภายใต้แบรนด์ “ดูเม็กซ์ มาม่า ยูเอชที” ในเชิงรุกมากขึ้น หลังจากที่เปิดตัวลงสู่ตลาดเมื่อปี 2549 แต่ไม่ได้ทำตลาดอย่างจริงจัง โดยการหันมาทำตลาดเชิงรุกครั้งนี้ เพราะตลาดนมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์มีศักยภาพ โดยพบว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก นอกจากนี้ ยังไม่มีผู้ประกอบรายใดทำตลาดอย่างจริงจัง
ขณะนี้พบว่า อัตราการเกิดของเด็กลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาติดลบ 1.5% และในปีที่ผ่านมา อัตราการเกิดของเด็ก 8.5 แสนคนเท่านั้น ผลพวงดังกล่าวทำให้ตลาดนมผงสำหรับเด็กมูลค่า 17,500 ล้านบาท ในปี 2549 มีอัตราการเติบโต 5% อย่างไรก็ตาม การทำตลาดเชิงรุกในครั้งนี้ของดูเม็กซ์ เป็นการต่อยอดแบรนด์ดูเม็กซ์โดยมีโปรดักส์ให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั้งแม่และลูก จากปัจจุบันดูเม็กซ์ เป็นผู้นำตลาดนมผงพรีเมียมครองส่วนแบ่ง 32%
แผนการตลาดดูเม็กซ์ มาม่า ยูเอชที เน้นแนะนำสินค้าผ่านช่องทางโรงพยาบาลเป็นหลัก เนื่องจากเป็นช่องทางที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง ล่าสุดทุ่ม 5 ล้านบาท จัดกิจกรรม “ Interactive Concert” สำหรับคุณแม่และลูก เพื่อพัฒนาลูกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ในระหว่างวันที่ 16 กุมภาพันธ์ นี้ ที่ โรงแรมปาร์คนายเลิศ ทั้งนี้คาดว่าจะมีแม่ตั้งครรภ์เข้าร่วมงาน 250 คน และคุณพ่อรวมด้วยเป็น 600 คน และจากนั้นจะต่อยอดกิจกรรมด้วยผลิตเป็นซีดีแจก และนำเทปบันทึกมาออกอากาศทางช่อง 9 และเตรียมจัดกิจกรรมต่อเนื่องตลอดทั้งปี
ภาวะตลาดนมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์มีมูลค่า 275 ล้านบาท แบ่งเป็น นมผง 200 ล้านบาท และยูเอชที 75 ล้านบาท โดยในปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโต 5-6% เพราะไม่มีผู้ประกอบการดำเนินการตลาดอย่างจริงจัง โดยมีผู้เล่นหลัก 3 ราย ได้แก่ แอนมัม, มี้ด จอห์นสัน และ ดูเม็กซ์ อย่างไรก็ตาม การดำเนินการตลาดเชิงรุกคาดว่าจะผลักดันตลาดในปีนี้มีอัตราการเติบโต 30-40%
สำหรับสิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้าดูเม็กซ์ มาม่า ยูเอชที จะขึ้นเป็นอันดับ 2 แทนที่ มี้ด จอห์นสัน ด้วยการครองส่วนแบ่งเพิ่มจาก 7% เป็นมากกว่า 10% โดยการแย่งส่วนแบ่งมี้ด จอห์นสัน ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 18% ส่วนแอนมัม เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 71% พร้อมกันนี้ ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทยังได้วางแผนเปิดตัวสินค้ากลุ่มอื่นๆ ได้แก่ ไฮคิว ยูเอชที โลว์แฟท เจาะกลุ่มคุณแม่ที่ห่วงน้ำหนักของเด็ก และ ดูเม็กซ์ ออลเอ็นวัน สำหรับคุณแม่ที่คำนึงถึงโภชนาการเด็ก
