xs
xsm
sm
md
lg

อีซึ่นเพ้นท์ลุยเวียดนามปีนี้ ลดเสี่ยงตลาดในประเทศอืด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

EASON เผยปีนี้พร้อมลุยตลาดเพื่อนบ้านเต็มตัว เพื่อขยายฐานธุรกิจ ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดในประเทศเพียงตลาดเดียว หลังพบภาพรวมตลาดยังเติบโตในอัตราต่ำ การเมืองไม่นิ่ง และเศรษฐกิจยังชะลอตัว

นายสนั่น เอกแสงกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีซึ่น เพ้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ EASON เปิดเผยถึงทิศทางการขยายธุรกิจในปี 2551 ว่า ในปีนี้บริษัทจะให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้านชัดเจนขึ้น ควบคู่ไปกับการขยายตลาดในประเทศ หลังจากพบว่า ตลาดในประเทศยังได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ส่งผลให้สินค้าในหลายอุตสาหกรรมไม่สามารถเติบโตได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงกับการพึ่งพาตลาดในประเทศเป็นส่วนใหญ่ บริษัทจึงได้ปรับแผนธุรกิจหันไปขยายตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน

ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติการลงทุนในประเทศเวียดนามแล้ว ด้วยการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับกลุ่มบริษัท อุไรพาณิชย์ ประกอบกิจการผลิตและจัดจำหน่ายสีอุตสาหกรรม ได้แก่ สีพ่นรถจักรยานยนต์ สีเคลือบบรรจุภัณฑ์ และ หมึกพิมพ์ ที่เมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม โดยบริษัทร่วมทุนใหม่จะมีทุนจดทะเบียนเบื้องต้นไม่เกิน 2 ล้านดอลลาร์ EASON จะลงทุนไม่เกิน 1.4 ล้านดอลลาร์ หรือสัดส่วนการลงทุนไม่เกิน 70% ส่วนกลุ่มบริษัทอุไรพาณิชย์ จะลงทุนไม่เกิน 0.6 ล้านดอลลาร์ หรือสัดส่วนการลงทุนไม่เกิน 30% ซึ่งถือเป็นก้าวแรกของ EASON ที่จะขยายตลาดออกสู่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเต็มตัวในอนาคต

สำหรับตลาดในประเทศ เชื่อว่า ในปี 2551 สถานการณ์ทางธุรกิจมีโอกาสปรับตัวดีขึ้นจากปีที่ผ่านมาได้ หากการเมืองมีความชัดเจน และการจัดตั้งรัฐบาลผ่านพ้นไปได้ด้วยดีจนนำไปสู่การขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมองว่าในปีนี้ ธุรกิจสีที่ใช้ในรถจักรยานยนต์-รถยนต์ มีโอกาสเติบโตได้ประมาณ 5-10% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนธุรกิจสีบรรจุภัณฑ์จะเติบโตไม่น้อยกว่า 10% ซึ่งบริษัทได้เตรียมพร้อมรองรับโอกาสทางธุรกิจ ด้วยการมุ่งเพิ่มชนิดของผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มใหม่ หรือกลุ่มเดิมที่มีการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี เร่งออกสินค้าใหม่ๆ ให้ทันการใช้งานกับสินค้ารุ่นใหม่ที่เปิดตัวออกตัวสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน EASON ถือเป็นผู้ครองมาร์เก็ตแชร์สูงสุดประมาณ 60% ในตลาดสีพ่นรถจักรยานยนต์ และมีเป้าหมายจะเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ในผลิตภัณฑ์อื่นๆ ให้มากขึ้น และประการสำคัญ แม้ว่า ในปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมจักรยานยนต์ยอดขายจะลดลงมากว่า 20% แต่บริษัทยังสามารถผลักดันให้รายได้เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนได้ โดยคาดว่า รายได้ในปี 2550 จะเติบโตได้ประมาณ 6-7% ส่วนในปี 2551 คาดว่า อัตราการเติบโตจะไม่ต่ำกว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ทำรายหลักให้กับบริษัทในปัจจุบัน
กำลังโหลดความคิดเห็น