ฟิลิปส์สนองนโยบายโกลบอล ลดขั้นตอนการทำงาน หดเหลือ 3 กลุ่ม รวมแผนกคอนซูเมอร์โปรดักส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กเข้าด้วยกัน รวมกันเป็นคอนซูเมอร์ไลฟ์สไตล์ในปีนี้ พร้อมทุ่มงบ 600 ล้านบาท ลุยปีนี้
นายปกรณ์ เมฆจำเริญ ซีอีโอ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตามแผนการดำเนินธุรกิจภายในปี 2010 ในระดับโกลบอลของฟิลิปส์ ลดการทำงานที่ซ้ำซ้อน ให้มีขั้นตอนการทำงานที่สั้นลง ดังนั้น ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2550 จากเดิมที่ฟิลิปส์แบ่งธุรกิจออกเป็น 4 กลุ่ม คือ ธุรกิจไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่าง ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าคอนซูเมอร์ โปรดักส์ และธุรกิจเพื่อการแพทย์และการดูแลสุขภาพ
ทั้งนี้ ได้ปรับเหลือ 3 กลุ่ม โดยนำเอาธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กและธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าคอนซูเมอร์ โปรดักส์ มารวมเป็นธุรกิจเดียวกัน ภายใต้ชื่อ ธุรกิจคอนซูเมอร์ไลฟ์สไตล์ ภายใต้การดูแลของ นายสมชัย ถาวรรุ่งโรจน์ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด จากเดิมที่มี นางอุระสินี ดีประเสริฐ ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ส่วนกิจการเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน ซึ่งได้เลื่อนขึ้นไปทำงานในระดับโกลบอลแทน
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของฟิลิปส์ในประเทศไทยปีนี้ บริษัทตั้งเป้าเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลข 2 หลัก โดยเน้นต่อยอดความสำเร็จจากปีที่ผ่านมา ภายใต้งบประมาณทางการตลาดกว่า 600 ล้านบาท สูงจากปีก่อน 25% ใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.ธุรกิจไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่าง ปีนี้จะมุ่งเน้นลูกค้าในกลุ่มโปรเฟสชัลนัลมากยิ่งขึ้น ให้มีสัดส่วนรายได้ที่ 40% และคอนซูเมอร์เป็น 60% จากเดิมในปีก่อนมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มโปรเฟสแชนนัล 35% และคอนซูเมอร์ 65% ขณะเดียวกัน จะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ หลายรายการ อาทิ หลอดไฟประหยัดไฟทอร์นาโดรุ่นใหม่ขนาดจิ๋ว (Tomado T2) หลอดฟลูออเรสเซนต์ผอมใหม่ 28 วัตต์ (T5) และหลอดไฟ เทคโนโลยี SSl (Solid State Lighting)
2.กลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ไลฟ์สไตล์ จะเน้นเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มภาพและเสียงที่มีนวัตกรรมทันสมัย ภายใต้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใน 2 กลุ่ม คือ ลูกค้าระดับเอ ที่ชื่นชอบสินค้าที่มีดีไซน์และความแตกต่าง กับลูกค้าระดับบี ที่อาจมีกำลังซื้อจำกัด การตัดสินใจซื้อ แต่ละครั้งจะมีการเปรียบเทียบสินค้าก่อน ทั้งนี้ทั้ง 2 กลุ่มลูกค้าที่ผ่านมา สร้างยอดขายให้ฟิลิปส์กว่า 80% ของยอดขายทั้งหมด ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนชิ้นเล็ก จะมุ่งเน้นจุดขายที่มีการสาธิตสินค้ามากยิ่งขึ้น เพราะมีผลการวิจับพบว่ากว่า 80% ของลูกค้า จะตัดสินใจซื้อสินค้า ณ จุดขาย มากที่สุด
3.ธุรกิจเพื่อการแพทย์และการดูแลสุขภาพ ปีนี้ตั้งเป้าขึ้นเป็นผู้นำ 1 ใน 3 ของธุรกิจดังกล่าว โดยจะมุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ โดยเฉพาะในระบบวินิจฉัยโรคด้วยภาพให้มากขึ้น
ทั้งนี้ ยอดขายในปี 2551 สามารถแบ่งออกได้เป็น กลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ไลฟ์สไตล์ 40% ธุรกิจไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่าง 35% และธุรกิจเพื่อการแพทย์และการดูแลสุขภาพ 25%
นายปกรณ์ เมฆจำเริญ ซีอีโอ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตามแผนการดำเนินธุรกิจภายในปี 2010 ในระดับโกลบอลของฟิลิปส์ ลดการทำงานที่ซ้ำซ้อน ให้มีขั้นตอนการทำงานที่สั้นลง ดังนั้น ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2550 จากเดิมที่ฟิลิปส์แบ่งธุรกิจออกเป็น 4 กลุ่ม คือ ธุรกิจไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่าง ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าคอนซูเมอร์ โปรดักส์ และธุรกิจเพื่อการแพทย์และการดูแลสุขภาพ
ทั้งนี้ ได้ปรับเหลือ 3 กลุ่ม โดยนำเอาธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กและธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าคอนซูเมอร์ โปรดักส์ มารวมเป็นธุรกิจเดียวกัน ภายใต้ชื่อ ธุรกิจคอนซูเมอร์ไลฟ์สไตล์ ภายใต้การดูแลของ นายสมชัย ถาวรรุ่งโรจน์ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด จากเดิมที่มี นางอุระสินี ดีประเสริฐ ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ส่วนกิจการเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน ซึ่งได้เลื่อนขึ้นไปทำงานในระดับโกลบอลแทน
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของฟิลิปส์ในประเทศไทยปีนี้ บริษัทตั้งเป้าเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลข 2 หลัก โดยเน้นต่อยอดความสำเร็จจากปีที่ผ่านมา ภายใต้งบประมาณทางการตลาดกว่า 600 ล้านบาท สูงจากปีก่อน 25% ใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.ธุรกิจไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่าง ปีนี้จะมุ่งเน้นลูกค้าในกลุ่มโปรเฟสชัลนัลมากยิ่งขึ้น ให้มีสัดส่วนรายได้ที่ 40% และคอนซูเมอร์เป็น 60% จากเดิมในปีก่อนมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มโปรเฟสแชนนัล 35% และคอนซูเมอร์ 65% ขณะเดียวกัน จะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ หลายรายการ อาทิ หลอดไฟประหยัดไฟทอร์นาโดรุ่นใหม่ขนาดจิ๋ว (Tomado T2) หลอดฟลูออเรสเซนต์ผอมใหม่ 28 วัตต์ (T5) และหลอดไฟ เทคโนโลยี SSl (Solid State Lighting)
2.กลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ไลฟ์สไตล์ จะเน้นเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มภาพและเสียงที่มีนวัตกรรมทันสมัย ภายใต้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใน 2 กลุ่ม คือ ลูกค้าระดับเอ ที่ชื่นชอบสินค้าที่มีดีไซน์และความแตกต่าง กับลูกค้าระดับบี ที่อาจมีกำลังซื้อจำกัด การตัดสินใจซื้อ แต่ละครั้งจะมีการเปรียบเทียบสินค้าก่อน ทั้งนี้ทั้ง 2 กลุ่มลูกค้าที่ผ่านมา สร้างยอดขายให้ฟิลิปส์กว่า 80% ของยอดขายทั้งหมด ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนชิ้นเล็ก จะมุ่งเน้นจุดขายที่มีการสาธิตสินค้ามากยิ่งขึ้น เพราะมีผลการวิจับพบว่ากว่า 80% ของลูกค้า จะตัดสินใจซื้อสินค้า ณ จุดขาย มากที่สุด
3.ธุรกิจเพื่อการแพทย์และการดูแลสุขภาพ ปีนี้ตั้งเป้าขึ้นเป็นผู้นำ 1 ใน 3 ของธุรกิจดังกล่าว โดยจะมุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ โดยเฉพาะในระบบวินิจฉัยโรคด้วยภาพให้มากขึ้น
ทั้งนี้ ยอดขายในปี 2551 สามารถแบ่งออกได้เป็น กลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ไลฟ์สไตล์ 40% ธุรกิจไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่าง 35% และธุรกิจเพื่อการแพทย์และการดูแลสุขภาพ 25%