“ปัจจุบันนี้คนไทย หรือเจ้าของสินค้าที่เป็นคนไทย หันมาให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์สินค้ามากขึ้นในอดีต”
เป็นคำกล่าวของ “วารุณี สุนทรเจริญนนท์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเม็กซ์ ทีม แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด ผู้เชี่ยวชาญและคร่ำหวอดในวงการเอเยนซี และการสร้างแบรนด์ของไทย
เธอมองว่า สินค้าไทยหลายแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จได้ในตลาดทั้งไทย และต่างประเทศนั้น ส่วนหนึ่งก็มีสาเหตุมาจากการสร้างแบรนด์อย่างดีด้วย ไม่ใช่แค่อาศัยแต่สินค้าที่ดี ช่องทางจำหน่ายที่ดี เท่านั้น
การสร้างแบรนด์เป็นปัจจัยพื้นฐานที่ต้องทำตลอด ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์อย่างไร ทั้งเศรษฐกิจดี หรือไม่ดี การแข่งขันในตลาดที่รุนแรง หรือเบาบาง โดยสามารถสร้างแบรนด์ผ่านช่องทางที่หลากหลาย และวิธีการหลากรูปแบบ เช่น การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การทำอีเวนต์ การสร้างความเข้าใจกับผู้บริโภค การทำซีอาร์เอ็ม ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสินค้าและบริการนั้นๆ
แต่การสร้างแบรนด์จะสำเร็จมากน้อยเพียงใดนั้น ก็ยังขึ้นกับพื้นฐานของการทำงานด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วารุณี ย้ำว่า สิ่งสำคัญที่สุด ก็คือ การสำรวจวิจัยตลาดทั้งในแง่ของพฤติกรรมผู้บริโภค ตลาดรวม แนวโน้ม การแข่งขันของตลาด ทุกอย่าง เพื่อประมวลมาเป็นข้อมูลที่ครอบคลุมรอบด้าน และเป็นข้อมูลอินไซด์จริงๆ เพื่อให้การสร้างแบรนด์นั้นสัมฤทธิ์ผลได้ง่าย รวดเร็วและแม่นยำ
“เราต้องรู้ตัวตนสินค้าของเราให้ดี แล้วมองหาแก่นของมันให้ได้ ว่า สินค้าเราเป็นอะไร ตำแหน่งอยู่ตรงไหน จุดแข็ง จุดได้เปรียบต่างๆ แล้วเราก็พยายามสื่อสารความเป็นแก่นสารนั้นออกไปให้ได้ โดยทุกอย่างต้องสื่อสารบนตัวแบรนด์ และสามารถที่จะวัดผลได้ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ” วารุณี อธิบาย
แนวโน้มที่น่าสนใจในอนาคต คือ การที่คนไทยที่เป็นเจ้าของสินค้าใช้วิธีว่าจ้างประเทศอื่นผลิต (โออีเอ็ม) โดยใช้แบรนด์ตัวเอง แล้วสร้างแบรนด์ให้ได้ ถือเป็นการทำธุรกิจที่ใช้ต้นทุนต่ำและท้าทายต่อการสร้างแบรนด์อย่างมาก ซึ่งทุกวันนี้ก็เริ่มมีให้เห็นบ้างแล้ว
แนวคิดและวิธีการต่างๆ ที่ถ่ายทอดผ่าน วารุณี ซึ่งแม้ว่าเธอจะมาร่วมงานกับทางเอเม็กซ์ในช่วงหลังนี้ก็ตาม ได้ถูกถ่ายทอดและผสมผสานให้ เอเม็กซ์ สามารถตอบโจทย์ของลูกค้าได้อย่างดี บนรากฐานของเอเม็กซ์ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกว่า 30 ปี พร้อมกับผลงานการสร้างแบรนด์ห้สินค้าของคนไทยมามากกว่า 25-30 แบรนด์แล้ว จนพัฒนามาเป็นหนังสือ “30 ยอดแบรนด์ไทย” หรือ “ 30 Top Thai Brand”
แบรนด์ต่างๆ ที่ผ่านฝีมือการสร้างแบรนด์จากเอเม็กซ์ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เช่น อาชา, อร่อยดี, ช้าง, คราวน์ 99, เอเวอร์กรีน, ฟาร์มเฮาส์, โรซ่า, สควิดดี้, แป้งอักฤษตรางู เป็นต้น
สำหรับแนวทางในปี้ เอเม็กซ์ ยังคงเน้นธุรกิจการให้บริการในรูปแบบ ฟูลเซอร์วิส โดยมีเอเม็กซ์ทีมเป็นยูนิตหลัก แล้วตามด้วย งานโฆษณา งานสำรวจวิจัย งานไอเอ็มซี งานกราฟฟิก งานซื้อสื่อ และมีเป้าหมายที่จะขยายกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของสินค้ากลุ่มเครื่องเสียง เครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มอาหาร เครื่องดื่มต่างๆ ซึ่งยอดบิลลิ่งปีที่แล้วมีประมาณ 400-500 ล้านบาท คาดว่า ปีนี้อาจจะเติบโตเล็กน้อย ขณะเดียวกัน ยังขยายธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้น คือ ธุรกิจกลุ่มสิ่งพิมพ์ และธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการสื่อสาร
ปีนี้คงจะได้เห็นวิธีการสร้างแบรนด์แปลกๆ ใหม่ๆ จากฝีมือของเอเม็กซ์นภายใต้การบริหารของวารุณี
