ดรีมเวิลด์ งดแผนลงทุนปีนี้ เร่งเครื่องดึงตัวเลขกลับคืนมาเท่าเดิม 2 ล้านคน หลังจากปีที่แล้วหดไป 7% มุ่งเน้นปรับภูมิทัศน์ และพื้นที่ พร้อมปรับราคาค่าบัตรใหม่
นายอำพล สุทธิเพียร กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการ บริษัท อะมิวส์เม้นท์ ครีเอชั่น จำกัด ผู้บริหารสวนสนุก “ดรีมเวิลด์” กล่าวกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า ในปีนี้ดรีมเวิลด์ตั้งเป้าหมายตัวเลขผู้เข้ามาเที่ยว และใช้บริการที่ดรีมเวิลด์ไว้ที่ 2 ล้านคน แบ่งสัดส่วนเป็นคนไทย 70% และคนต่างชาติ 30% ซึ่งส่วนใหญ่จะมาเป็นกรุ๊ปทัวร์ หรือหมู่คณะ ทั้งนี้ ปริมาณดังกล่าวเป็นอัตราที่ใกล้เคียงกับที่ผ่านๆ มา ในอดีต หลังจากที่ปีที่แล้วตัวเลขต่ำกว่า 2 ล้านคนเล็กน้อย โดยตกไปประมาณ 7%
เนื่องจากปีที่แล้วมีปัญหาและปัจจัยลบต่างๆ มากมายในภาพรวม ทั้งเรื่องของภาวะการเมืองที่ยังไม่ลงตัว ปัญหาเศรษฐกิจที่ยังไม่กระเตื้องมากนัก กำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ปีนี้คาดว่า ภาวะต่างๆ น่าจะดีขึ้น หลังจากที่ได้ผ่านการเลือกตั้งไปเรียบร้อยแล้ว
สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้จะยังไม่มีการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ หรือการซื้อเครื่องเล่นใหม่ๆ เข้ามา เนื่องจากปีที่แล้วได้ลงทุนใหญ่ไปแล้ว คือ สกายโคลสเตอร์ ลงทุน 180 ล้านบาท เปิดบริการเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และสวนสี่ทวีป ลงทุน 80 กว่าล้านบาท เปิดบริการเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่จะหันมาปรับปรุงภูมิทัศน์และการปรับประโยชน์การใช้สอยในพื้นที่เดิมเป็นหลัก ขณะที่งบประมาณการดูแลเครื่องจักร เครื่องเล่นอยู่ที่ประมาณ 40-50 ล้านบาทต่อปี
นายอำพล กล่าวต่อว่า เมื่อปลายปีที่แล้ว ดรีมเวิลด์ได้ตัดสินใจปรับราคาค่าบัตรใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ยืนยันว่า ไม่ได้ปรับเพิ่มมากนัก โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1.บัตรผ่านประตูอย่างเดียว เฉพาะผู้ใหญ่ราคา 150 บาท จากเดิม 120 บาท ส่วนของเด็กอยู่ที่ 120 บาท จากเดิม 95 บาทต่อคน ส่วนถ้าหากต้องการเล่นเครื่องเล่นต้องเสียค่าบริการต่างหาก โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 30-50 บาท และ 2.บัตรเหมารวม ราคา 365 บาทต่อวัน จากเดิมราคาเหมารวม 330 บาทต่อวันต่อคน มีประมาณ 20 เครื่องเล่นที่รองรับ
“การปรับราคาค่าบัตร บริษัทไม่คิดว่าจะกระทบต่อกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้ามาเที่ยว และใช้บริการ เพราะถือว่าปรับขึ้นไม่มาก และหากมองถึงบัตรเหมารวมแล้วราคาไม่แพง เพราะสามารถเล่นเครื่องเล่นได้ปริมาณมาก ซึ่งจริงๆ แล้ว ค่าบัตรหรือค่าเครื่องเล่นสวนสนุกในเมืองไทย ถือว่ายังต่ำมากเมื่อเทียบกับต่างประเทศ” นายอำพล กล่าว
นายอำพล สุทธิเพียร กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการ บริษัท อะมิวส์เม้นท์ ครีเอชั่น จำกัด ผู้บริหารสวนสนุก “ดรีมเวิลด์” กล่าวกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า ในปีนี้ดรีมเวิลด์ตั้งเป้าหมายตัวเลขผู้เข้ามาเที่ยว และใช้บริการที่ดรีมเวิลด์ไว้ที่ 2 ล้านคน แบ่งสัดส่วนเป็นคนไทย 70% และคนต่างชาติ 30% ซึ่งส่วนใหญ่จะมาเป็นกรุ๊ปทัวร์ หรือหมู่คณะ ทั้งนี้ ปริมาณดังกล่าวเป็นอัตราที่ใกล้เคียงกับที่ผ่านๆ มา ในอดีต หลังจากที่ปีที่แล้วตัวเลขต่ำกว่า 2 ล้านคนเล็กน้อย โดยตกไปประมาณ 7%
เนื่องจากปีที่แล้วมีปัญหาและปัจจัยลบต่างๆ มากมายในภาพรวม ทั้งเรื่องของภาวะการเมืองที่ยังไม่ลงตัว ปัญหาเศรษฐกิจที่ยังไม่กระเตื้องมากนัก กำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ปีนี้คาดว่า ภาวะต่างๆ น่าจะดีขึ้น หลังจากที่ได้ผ่านการเลือกตั้งไปเรียบร้อยแล้ว
สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้จะยังไม่มีการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ หรือการซื้อเครื่องเล่นใหม่ๆ เข้ามา เนื่องจากปีที่แล้วได้ลงทุนใหญ่ไปแล้ว คือ สกายโคลสเตอร์ ลงทุน 180 ล้านบาท เปิดบริการเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และสวนสี่ทวีป ลงทุน 80 กว่าล้านบาท เปิดบริการเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่จะหันมาปรับปรุงภูมิทัศน์และการปรับประโยชน์การใช้สอยในพื้นที่เดิมเป็นหลัก ขณะที่งบประมาณการดูแลเครื่องจักร เครื่องเล่นอยู่ที่ประมาณ 40-50 ล้านบาทต่อปี
นายอำพล กล่าวต่อว่า เมื่อปลายปีที่แล้ว ดรีมเวิลด์ได้ตัดสินใจปรับราคาค่าบัตรใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ยืนยันว่า ไม่ได้ปรับเพิ่มมากนัก โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1.บัตรผ่านประตูอย่างเดียว เฉพาะผู้ใหญ่ราคา 150 บาท จากเดิม 120 บาท ส่วนของเด็กอยู่ที่ 120 บาท จากเดิม 95 บาทต่อคน ส่วนถ้าหากต้องการเล่นเครื่องเล่นต้องเสียค่าบริการต่างหาก โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 30-50 บาท และ 2.บัตรเหมารวม ราคา 365 บาทต่อวัน จากเดิมราคาเหมารวม 330 บาทต่อวันต่อคน มีประมาณ 20 เครื่องเล่นที่รองรับ
“การปรับราคาค่าบัตร บริษัทไม่คิดว่าจะกระทบต่อกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้ามาเที่ยว และใช้บริการ เพราะถือว่าปรับขึ้นไม่มาก และหากมองถึงบัตรเหมารวมแล้วราคาไม่แพง เพราะสามารถเล่นเครื่องเล่นได้ปริมาณมาก ซึ่งจริงๆ แล้ว ค่าบัตรหรือค่าเครื่องเล่นสวนสนุกในเมืองไทย ถือว่ายังต่ำมากเมื่อเทียบกับต่างประเทศ” นายอำพล กล่าว