xs
xsm
sm
md
lg

“ไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ” อยากสร้างสวนสนุกกับเด็กๆ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ถ้ากล่าวถึง “สวนสยาม” แน่นอนว่า ต้องกล่าวถึง “ไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ” เพราะเขาคือผู้ปลุกปั้นและวางรากฐานให้สวนสยามเกิดขึ้นในไทยจนถึงทุกวันนี้ และแทบจะเรียกได้ว่าเป็นสวนน้ำที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งในเอเชียก็ว่าได้ ในช่วงเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา

แต่ในอนาคตไม่มีใครรู้ว่า “สวนสยาม” จะยังอยู่ภายใต้การบริหารงานของ ไชยวัฒน์ อีกหรือไม่

เพราะการประกาศขายกิจการ มูลค่ากว่า 5,500 ล้านบาท อย่างชนิดที่ว่า ท้อแท้เหลือเกิน หลังจากเกิดอุบัติเหตุกับผู้ใช้บริการเมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อเด็กจำนวนหนึ่งตกมาจากเครื่องเล่นซูเปอร์สไปรอล เพราะรางขาด

ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเดือนตุลาคมสวนสยามก็เกิดเหตุไม่ดีมาแล้ว เมื่อเครื่องเล่นอินเดียนาร็อกเกิดขัดข้อง และทำให้มีผู้เสียชีวิตด้วย

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา ผมเสียใจมาก เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นในวันเด็ก และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งตามคำขวัญของสวนสยามที่ว่า โลกแห่งความสุขที่สนุกไม่รู้ลืม แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลับสร้างความทุกข์ให้กับคนอื่นที่ไม่รู้ลืมเช่นกัน ซึ่งในส่วนนี้ผมรู้สึกเสียใจมาก เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เห็นว่า ผมบริหารและจัดการไม่ดี ผมจึงอยากแสดงความรับผิดชอบทุกๆ ด้าน รวมถึงการขายสวนสยาม เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้ที่มีความพร้อมมากกว่าเข้ามาดูแลกิจการ”

นี่เป็นคำกล่าวที่แสดงออกถึงความรับผิดชอบที่เลี่ยงไม่ได้ของไชยวัฒน์

ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยที่คนๆ หนึ่งจะสามารถผลักดันให้สวนสยาม สามารถเติบใหญ่และฝ่าฟันอุปสรรคมาจนกลายเป็นความภูมิใจของคนในตระกูลเหลืองอมรเลิศ หรือของคนไทยก็ไม่เกินเลยไปนัก

“ผมมีความรู้และจบการศึกษาแค่ชั้น ป.4 ตอนเป็นเด็กไม่มีสวนสนุกให้เล่น โตขึ้นมาจึงมีความคิดที่จะสร้างสวนสนุกและอยากเป็นฮีโร่ให้กับเด็กๆ ซึ่งระยะเวลา 26 ปีที่ผ่านมา ตนก็ฝ่าฟันอุปสรรคมามาก ไม่ว่าจะเป็นถูกฟ้องล้มละลาย ตนจึงรู้สึกน้อยใจ สำหรับสวนสยามผมรักเหมือนเป็นลูกอีกคนหนึ่ง” นายไชยวัฒน์ กล่าว

ในวันแถลงข่าวประกาศขายกิจการ ที่จะเป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นจากการประชดในธุรกิจ โชคชะตา หรือท้อถอยจริงๆ ก็ไม่อาจคาดเดาได้ ปรากฏว่า พนักงานของสวนสยามต่างก็แสดงออกถึงความรัก ความอาลัย และส่งมอบกำลังใจแก่ ไชยวัฒน์ อย่างอบอุ่น และขอให้ ไชยวัฒน์ อย่าขายกิจการ ขอให้สู้ต่อไป ซึ่งพนักงานรวมมากกว่า 600 คนขออยู่กับสวนสยามต่อ

อันที่จริงแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง หรือการประกาศขายกิจการในครั้งนี้ แต่สวนสยามก็ยังคงต้องเปิดบริการต่อไป เพราะยังมีภาระหนี้สินและดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทุกวัน

“จากนี้ไป เราคงต้องมาดูกันใหม่แล้วว่า จะบริหารงานอย่างไร โดยเฉพาะในเรื่องของการบำรุงรักษาอุปกรณ์เครื่องเล่น เพราะถ้าไม่มีใครมาซื้อกิจการ เราก็คงต้องบริหารงานต่อไป ตอนนี้เลยชะลอเรื่องการใช้งบประมาณโฆษณา ประชาสัมพันธ์ไปก่อน ซึ่งเราอยากจะขายให้กับหน่วยงานที่ไม่ได้แสวงหากำไร เช่น กรุงเทพมหานคร”

ตามรายงานข่าวระบุว่า ขณะนี้สถานภาพของสานสยามเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ โดยปีที่แล้วมีผู้เข้ามาใช้บริการกว่า 1.5 ล้านคน และปีนี้ตั้งเป้าหมาย 2 ล้านคน โดยมีกำไรปีที่แล้วประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ไปแล้ว และขณะนี้ก็มีหนี้สินกับไทยธนาคารที่ไปทำการกู้มาเพื่อลงทุนซื้อเครื่องเล่นใหม่มูลค่ากว่า 800 ล้านบาท

คงต้องจับตาดูชะตาชีวิตของสวนสยามจากนี้ว่าจะเป็นอย่างไร ภายใต้การบริหารที่ยังอยู่ในมือของไชยวัฒน์
กำลังโหลดความคิดเห็น