เนสท์เล่ ประกาศรุกตลาดน้ำดื่ม 1.3 หมื่นล้านบาทปีหน้าเต็มสูบ ชูธง 4 แบรนด์ เนสท์เล่ มิเนเร่ เปอริเอ้ วิทเทล สู้สมรภูมิน้ำดื่มทุกเซกเมนต์ อัด 15 ล้านบาท ปูพรมสร้างเปอริเอ้น้ำแร่นำเข้าสปาร์คกลิ้งรอบ 40 ปี เจาะคนไทยระดับไฮเอนด์ หวังสร้างตลาดน้ำแร่สปาร์คกลิ้งโต 30% พร้อมจ่อคิวควักแผนรุกปั้นแบรนด์วิทเทลท้าชนเอเวียง
นายประหยัด อนุชิราชีวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เปอริเอ้ วิทเทล (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือเนสท์เล่ ผู้นำเข้าน้ำแร่เปอริเอ้ วิทเทล เปิดเผยว่า ในปีหน้านี้บริษัทฯจะดำเนินการตลาดกลุ่มน้ำดื่มในเชิงรุกมากขึ้น ได้แก่ กลุ่มน้ำดื่มภายใต้แบรนด์เนทส์เล่ น้ำแร่ท้องถิ่นมิเนเร่ น้ำแร่นำเข้าในรูปแบบสปาร์คกลิ้งแบรนด์เปอริเอ้ และน้ำแร่นำเข้าแบบธรรมดาแบรนด์วิทเทล เพื่อรองรับกับกระแสสุขภาพที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ในปีนี้ตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดมูลค่า 1.3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น ตลาดน้ำดื่มมูลค่า 10,300 ล้านบาท เติบโต 5% แบ่งเป็น ขวดแก้วสัดส่วน 10-15% ขวดเพ็ท 30% ขวดขุ่น 50-55% ส่วนตลาดน้ำแร่มูลค่า 2,700 ล้านบาท โต 10%
ล่าสุดบริษัทฯทุ่มงบ 15 ล้านบาท รุกสร้างแบรนด์เปอริเอ้ น้ำแร่สปาร์คกลิ้งนำเข้าจากฝรั่งเศส นับเป็นการทำตลาดเชิงรุกในรอบ 40 ปี หลังจากตลาดผ่านการพัฒนา จากการนำเข้ามาจำหน่ายเอง ต่อมาเป็นตัวแทนจำหน่าย กระทั่งถึงเจ้าของแบรนด์ทำตลาดเอง และเริ่มสร้างแบรนด์และกระจายสินค้า
สำหรับน้ำแร่เปอริเอ้ชูจุดขายภายใต้แนวคิด “The Ultimate Refreshment” หรือความสดชื่น เจาะกลุ่มเป้าหมายคนไทยระดับไฮเอนด์ และเซเลบริตี้มากขึ้น จากที่ผ่านมาฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นหลัก รวมทั้งเจาะช่องทางโรงแรม ร้านอาหารระดับพรีเมียม ซึ่งบริษัท อิตัลไทย จำกัด เป็นผู้กระจายสินค้าผ่านโรงแรม ร้านอาหารสัดส่วน 60% และซูเปอร์มาร์เก็ต 40%
ทั้งนี้บริษัทฯได้วางกลยุทธ์การตลาดนิชมาร์เก็ต โดยเตรียมจัดกิจกรรม โรดโชว์ การทดลองสินค้า ประชาสัมพันธ์ กิจกรรม ณ จุดขาย เพื่อเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ยังหาคู่ค้าทางธุรกิจรายใหม่ และขยายช่องทางขายให้ครอบคลุม และจากการดำเนินการตลาดในเชิงรุกบริษัทฯคาดว่าจะผลักดันตลาดน้ำแร่สปาร์คกลิ้งมูลค่า 141 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 35% ของตลาดน้ำแร่นำเข้าเติบโต 30%
นอกจากนี้บริษัทฯยังเตรียมนำแบรนด์วิทเทล น้ำแร่แบบธรรมดานำเข้าจากประเทศฝรั่งเศสมาทำตลาดในเชิงรุกตลาดน้ำแร่นำเข้าแบบธรรมดามูลค่า 263 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 65% โดยวางราคาสินค้าขนาดขวดเล็ก 30 บาท ใกล้เคียงกับเอเวียงสินค้าคู่แข่งที่เป็นผู้นำตลาด เจาะช่องทางจำหน่ายโรงแรม ร้านอาหาร และคาเฟ่ ซึ่งปัจจุบันวิทเทลมีส่วนแบ่งในตลาด 15%
สำหรับภาวะตลาดน้ำแร่มูลค่า 2,700 ล้านบาท แบ่งเป็น น้ำแร่ท้องถิ่นสัดส่วน 75% หรือมูลค่า 2,025 ล้านบาท ปีหน้าคาดว่าจะเติบโต 10-15% น้ำแร่นำเข้าสัดส่วน 15% มูลค่า 405 ล้านบาท เติบโต 20% ทั้งนี้ปัจจุบันเปอริเอ้มีส่วนแบ่ง 12% ในตลาดน้ำแร่นำเข้า และเป็นผู้นำตลาดแร่น้ำสปาร์คกลิ้งครองส่วนแบ่ง 60%
นายประหยัด อนุชิราชีวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เปอริเอ้ วิทเทล (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือเนสท์เล่ ผู้นำเข้าน้ำแร่เปอริเอ้ วิทเทล เปิดเผยว่า ในปีหน้านี้บริษัทฯจะดำเนินการตลาดกลุ่มน้ำดื่มในเชิงรุกมากขึ้น ได้แก่ กลุ่มน้ำดื่มภายใต้แบรนด์เนทส์เล่ น้ำแร่ท้องถิ่นมิเนเร่ น้ำแร่นำเข้าในรูปแบบสปาร์คกลิ้งแบรนด์เปอริเอ้ และน้ำแร่นำเข้าแบบธรรมดาแบรนด์วิทเทล เพื่อรองรับกับกระแสสุขภาพที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ในปีนี้ตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดมูลค่า 1.3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น ตลาดน้ำดื่มมูลค่า 10,300 ล้านบาท เติบโต 5% แบ่งเป็น ขวดแก้วสัดส่วน 10-15% ขวดเพ็ท 30% ขวดขุ่น 50-55% ส่วนตลาดน้ำแร่มูลค่า 2,700 ล้านบาท โต 10%
ล่าสุดบริษัทฯทุ่มงบ 15 ล้านบาท รุกสร้างแบรนด์เปอริเอ้ น้ำแร่สปาร์คกลิ้งนำเข้าจากฝรั่งเศส นับเป็นการทำตลาดเชิงรุกในรอบ 40 ปี หลังจากตลาดผ่านการพัฒนา จากการนำเข้ามาจำหน่ายเอง ต่อมาเป็นตัวแทนจำหน่าย กระทั่งถึงเจ้าของแบรนด์ทำตลาดเอง และเริ่มสร้างแบรนด์และกระจายสินค้า
สำหรับน้ำแร่เปอริเอ้ชูจุดขายภายใต้แนวคิด “The Ultimate Refreshment” หรือความสดชื่น เจาะกลุ่มเป้าหมายคนไทยระดับไฮเอนด์ และเซเลบริตี้มากขึ้น จากที่ผ่านมาฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นหลัก รวมทั้งเจาะช่องทางโรงแรม ร้านอาหารระดับพรีเมียม ซึ่งบริษัท อิตัลไทย จำกัด เป็นผู้กระจายสินค้าผ่านโรงแรม ร้านอาหารสัดส่วน 60% และซูเปอร์มาร์เก็ต 40%
ทั้งนี้บริษัทฯได้วางกลยุทธ์การตลาดนิชมาร์เก็ต โดยเตรียมจัดกิจกรรม โรดโชว์ การทดลองสินค้า ประชาสัมพันธ์ กิจกรรม ณ จุดขาย เพื่อเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ยังหาคู่ค้าทางธุรกิจรายใหม่ และขยายช่องทางขายให้ครอบคลุม และจากการดำเนินการตลาดในเชิงรุกบริษัทฯคาดว่าจะผลักดันตลาดน้ำแร่สปาร์คกลิ้งมูลค่า 141 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 35% ของตลาดน้ำแร่นำเข้าเติบโต 30%
นอกจากนี้บริษัทฯยังเตรียมนำแบรนด์วิทเทล น้ำแร่แบบธรรมดานำเข้าจากประเทศฝรั่งเศสมาทำตลาดในเชิงรุกตลาดน้ำแร่นำเข้าแบบธรรมดามูลค่า 263 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 65% โดยวางราคาสินค้าขนาดขวดเล็ก 30 บาท ใกล้เคียงกับเอเวียงสินค้าคู่แข่งที่เป็นผู้นำตลาด เจาะช่องทางจำหน่ายโรงแรม ร้านอาหาร และคาเฟ่ ซึ่งปัจจุบันวิทเทลมีส่วนแบ่งในตลาด 15%
สำหรับภาวะตลาดน้ำแร่มูลค่า 2,700 ล้านบาท แบ่งเป็น น้ำแร่ท้องถิ่นสัดส่วน 75% หรือมูลค่า 2,025 ล้านบาท ปีหน้าคาดว่าจะเติบโต 10-15% น้ำแร่นำเข้าสัดส่วน 15% มูลค่า 405 ล้านบาท เติบโต 20% ทั้งนี้ปัจจุบันเปอริเอ้มีส่วนแบ่ง 12% ในตลาดน้ำแร่นำเข้า และเป็นผู้นำตลาดแร่น้ำสปาร์คกลิ้งครองส่วนแบ่ง 60%