ซิทอเวย์ กุมขมับเศรษฐกิจฟาดหางส่งกำไรหาย รายได้หด ก้มหน้ารับปีหน้าหั่นงบทำตลาดออกกว่าครึ่ง ขณะเดียวกัน เตรียมเปิดตัวแบรนด์น้องใหม่สวนเศรษฐกิจดูอีกหมัดช่วงเดือนมีนาคม หวังช่วยฉุดดึงรายได้ขึ้นได้ไม่มากก็น้อย
นายสมพงษ์ ตันติวิไลศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดว๊านส์ คอสเมติคส์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอสเมติกส์ “ซิทอเวย์” เปิดเผยว่า ในปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะแตกแบรนด์ใหม่อยู่ในกลุ่มดูแลผิวหน้า โดยคาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงเดือนมีนาคม เพื่อมาเสริมรายได้ธุรกิจเพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่เดิม
ปัจจุบันสินค้าของบริษัท มี Ziiit Milk ล้างเครื่องสำอาง, Ziiit Wash เจลใสล้างหน้า, Ziiit Balance โทเนอร์บำรุงผิว, Ziiit Away ครีมลดปัญหาสิว, Ziiit White ครีมสำหรับผิว, Ziiit In the sun ครีมกันแดด SPF23 แต่สินค้าใหม่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้
สำหรับการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างยอดขายของบริษัทได้อีกทางหนึ่ง ภายหลังจากที่บริษัทเปิดตัวแบรนด์ Ziiit Formen Brightening & Lifing Cream สินค้าที่จับตลาดชาย ไปแล้วในช่วงกลางปี 2549 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้
ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้สินค้าดังกล่าวไม่สามารถทำตลาดได้นั้น เป็นเพราะสภาพของตลาดโดยรวมอุปโภคบริโภคเองมีการชะลอตัว อีกทั้งการแข่งขันค่อนข้างสูงกลุ่มผู้ประกอบการรายหลายหันมาจับกลุ่มสินค้าชายมากขึ้นทำให้พื้นที่ขายของแบรนด์ Ziiit Formen นั้นลดลงอย่างมากและโอกาสในการขายก็น้อยลงด้วย เมื่อเปรียบเทียบสินค้าจำเป็นเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน
ขณะเดียวกัน ด้านการทำตลาดในปีหน้าบริษัทจำเป็นต้องลงงบตลาดทั้งปีลงประมาณ 50% เมื่อเทียบกับงบที่ใช้ในปีนี้ประมาณ 30 ล้านบาท โดยจะหันมามุ่งเน้นการใช้บีโลว์เดอะไลน์แทนที่จะใช้สื่ออะโบฟเดอะไลน์เพียงอยางเดียว เนื่องจากสิ้นเปลืองและเป็นการละลายเม็ดเงินอย่างไม่จำเป็น
พร้อมกันนี้ บริษัทต้องปรับกลยุทธ์ในการทำตลาดมากขึ้น เนื่องจากต้องการหารายได้ตัวอื่นมาทดแทนการขายที่สูญเสียไปบางส่วน หลังจากที่ได้รับผลกระทบเศรษฐกิจอย่างมาก อีกทั้งโปรดักส์ที่เปิดตัวไปเมื่อปีก่อนไม่สามารถทำตลาดได้
“การที่บริษัทต้องมุ่งมั่นทำตลาดมากขึ้น เช่น การออกสินค้าตัวใหม่เข้ามาช่วยทำตลาด บางคนอาจมองว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงหรือไม่กับช่วงเศรษฐกิจที่เป็นอย่างนี้ มองอีกมุมถ้าหากเรานิ่งตามตลาดไม่ลุกขึ้นสร้างสีสัน กลัวตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำอะไรเลย ยอดขายก็พลอยหายตามไปด้วย ขณะเดียวกันการลดการทำโฆษณาผ่านสื่อที่ไม่จำเป็นอาจเป็นส่วนที่ทำให้บริษัทลดค่าใช้จ่ายลงไปได้บ้าง”
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเชื่อมั่นรายได้รวมปีนี้จะยังมีการเติบโตได้อยู่ 10% แม้ว่าจะต่ำจากเป้าเดิมที่วางไว้ถึง 17% ทั้งนี้ มองว่า ก็ยังดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับภาวะตลาดโดยรวม
นายสมพงษ์ ตันติวิไลศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดว๊านส์ คอสเมติคส์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอสเมติกส์ “ซิทอเวย์” เปิดเผยว่า ในปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะแตกแบรนด์ใหม่อยู่ในกลุ่มดูแลผิวหน้า โดยคาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงเดือนมีนาคม เพื่อมาเสริมรายได้ธุรกิจเพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่เดิม
ปัจจุบันสินค้าของบริษัท มี Ziiit Milk ล้างเครื่องสำอาง, Ziiit Wash เจลใสล้างหน้า, Ziiit Balance โทเนอร์บำรุงผิว, Ziiit Away ครีมลดปัญหาสิว, Ziiit White ครีมสำหรับผิว, Ziiit In the sun ครีมกันแดด SPF23 แต่สินค้าใหม่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้
สำหรับการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างยอดขายของบริษัทได้อีกทางหนึ่ง ภายหลังจากที่บริษัทเปิดตัวแบรนด์ Ziiit Formen Brightening & Lifing Cream สินค้าที่จับตลาดชาย ไปแล้วในช่วงกลางปี 2549 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้
ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้สินค้าดังกล่าวไม่สามารถทำตลาดได้นั้น เป็นเพราะสภาพของตลาดโดยรวมอุปโภคบริโภคเองมีการชะลอตัว อีกทั้งการแข่งขันค่อนข้างสูงกลุ่มผู้ประกอบการรายหลายหันมาจับกลุ่มสินค้าชายมากขึ้นทำให้พื้นที่ขายของแบรนด์ Ziiit Formen นั้นลดลงอย่างมากและโอกาสในการขายก็น้อยลงด้วย เมื่อเปรียบเทียบสินค้าจำเป็นเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน
ขณะเดียวกัน ด้านการทำตลาดในปีหน้าบริษัทจำเป็นต้องลงงบตลาดทั้งปีลงประมาณ 50% เมื่อเทียบกับงบที่ใช้ในปีนี้ประมาณ 30 ล้านบาท โดยจะหันมามุ่งเน้นการใช้บีโลว์เดอะไลน์แทนที่จะใช้สื่ออะโบฟเดอะไลน์เพียงอยางเดียว เนื่องจากสิ้นเปลืองและเป็นการละลายเม็ดเงินอย่างไม่จำเป็น
พร้อมกันนี้ บริษัทต้องปรับกลยุทธ์ในการทำตลาดมากขึ้น เนื่องจากต้องการหารายได้ตัวอื่นมาทดแทนการขายที่สูญเสียไปบางส่วน หลังจากที่ได้รับผลกระทบเศรษฐกิจอย่างมาก อีกทั้งโปรดักส์ที่เปิดตัวไปเมื่อปีก่อนไม่สามารถทำตลาดได้
“การที่บริษัทต้องมุ่งมั่นทำตลาดมากขึ้น เช่น การออกสินค้าตัวใหม่เข้ามาช่วยทำตลาด บางคนอาจมองว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงหรือไม่กับช่วงเศรษฐกิจที่เป็นอย่างนี้ มองอีกมุมถ้าหากเรานิ่งตามตลาดไม่ลุกขึ้นสร้างสีสัน กลัวตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำอะไรเลย ยอดขายก็พลอยหายตามไปด้วย ขณะเดียวกันการลดการทำโฆษณาผ่านสื่อที่ไม่จำเป็นอาจเป็นส่วนที่ทำให้บริษัทลดค่าใช้จ่ายลงไปได้บ้าง”
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเชื่อมั่นรายได้รวมปีนี้จะยังมีการเติบโตได้อยู่ 10% แม้ว่าจะต่ำจากเป้าเดิมที่วางไว้ถึง 17% ทั้งนี้ มองว่า ก็ยังดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับภาวะตลาดโดยรวม