ทูเดย์แอสเซ็ท ขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สู่โรงแรม รีสอร์ต ทุ่ม 900 ล้านบาท ผุดอัลพิน่า ภูเก็ต นาลิน่า รีสอร์ตและสปาที่หาดกะตะ ภูเก็ต เล็งขยายสู่จังหวัดอื่นเพิ่มขึ้น
พันตรีปานสรวง ชุมสาย ณ อยุธยา ประธานกรรมการ บริษัท ทูเดย์ แอสเซ็ท จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทต้องการขยายแผนธุรกิจเพิ่มเติมจากเดิมที่เน้นเฉพาะการพัฒนาด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ในย่านดอนเมือง และแจ้งวัฒนะเพียงอย่างเดียว ดังนั้นบริษัทจึงได้วางแผนการลงทุนธุรกิจเพิ่มเพื่อเป็นการสร้างความหลากหลายให้กับธุรกิจ โดยทางคณะผู้บริหารเล็งเห็นศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของภูเก็ต ที่ยังคงได้รับความนิยมจากลูกค้าต่างชาติและมีตัวเลขเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดได้ก่อสร้างโครงการโรงแรมสุดหรู Alpina Phuket Nalina Resort & Spa บนทำเลทองของหาดกะตะ จ.ภูเก็ต บนเนื้อที่กว่า 15 ไร่ ด้วยงบลงทุนรวมทั้งโครงการมูลค่า 900 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบแล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สำหรับจุดเด่นของโครงการอยู่ที่ดีไซน์และการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ Holiday Resort แนวสไตล์ไทยโมเดิร์น
นอกจากนี้โรงแรมยังประกอบด้วยห้องพักมาตรฐาน Nalina Classic จำนวน 100 ห้อง, ห้องพัก Nalina Jazz จำนวน 24 ห้อง ที่จะมีอ่างอาบน้ำแบบจากุชชี่ทุกห้อง, ห้องพัก Grand Suite จำนวน 8 ห้อง ซึ่งจะมีสระน้ำขนาดเล็กอยู่ด้านหน้าห้องพัก ยังมีห้องพักสไตล์ Pool Villa ขนาดใหญ่รวม 8 ยูนิต มีสระว่ายน้ำส่วนตัวภายในบ้าน ฯลฯ
บริษัทคาดว่าในอนาคตอาจมีแผนดำเนินการขยายพื้นที่และปริมาณห้องพักของโรงแรมเพิ่มเติม ในขณะเดียวกันก็กำลังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาพื้นที่อื่นๆควบคู่ไปด้วย รวมถึงอาจมีการขยายไปยังจังหวัดอื่นๆต่อไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับศักยภาพของแต่ละพื้นที่เป็นหลัก”
นายอภิชาติ อาษา ผู้จัดการทั่วไป โรงแรม Alpina Phuket Nalina Resort & Spa เปิดเผยถึงแผนการตลาดในช่วงเปิดตัวโครงการว่า “กลุ่มเป้าหมายของโรงแรมจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นหลักคิดเป็น 70% รองลงมาเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยและโซนเอเซีย คิดเป็น 30% และเพื่อเป็นการรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวขากทั่วโลกที่จะเริ่มเดินทางเข้ามาในช่วงเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่น ทางโรงแรมจึงได้เตรียมวางแผนกลยุทธ์ทางด้านการตลาดเพื่อมุ่งรองรับนักท่องเที่ยว โดยเน้นการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าและนักท่องเที่ยวเป็นหลัก รวมถึงยังเน้นการหาลูกค้าเพิ่มโดยจะขยายไปสู่ตลาดในประเทศ ตลาดในโซนเอเชีย และออสเตรเลียมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการขยายตลาดให้กว้างขึ้นไม่จำกัดเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศยุโรปเพียงอย่างเดียว
พันตรีปานสรวง ชุมสาย ณ อยุธยา ประธานกรรมการ บริษัท ทูเดย์ แอสเซ็ท จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทต้องการขยายแผนธุรกิจเพิ่มเติมจากเดิมที่เน้นเฉพาะการพัฒนาด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ในย่านดอนเมือง และแจ้งวัฒนะเพียงอย่างเดียว ดังนั้นบริษัทจึงได้วางแผนการลงทุนธุรกิจเพิ่มเพื่อเป็นการสร้างความหลากหลายให้กับธุรกิจ โดยทางคณะผู้บริหารเล็งเห็นศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของภูเก็ต ที่ยังคงได้รับความนิยมจากลูกค้าต่างชาติและมีตัวเลขเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดได้ก่อสร้างโครงการโรงแรมสุดหรู Alpina Phuket Nalina Resort & Spa บนทำเลทองของหาดกะตะ จ.ภูเก็ต บนเนื้อที่กว่า 15 ไร่ ด้วยงบลงทุนรวมทั้งโครงการมูลค่า 900 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบแล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สำหรับจุดเด่นของโครงการอยู่ที่ดีไซน์และการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ Holiday Resort แนวสไตล์ไทยโมเดิร์น
นอกจากนี้โรงแรมยังประกอบด้วยห้องพักมาตรฐาน Nalina Classic จำนวน 100 ห้อง, ห้องพัก Nalina Jazz จำนวน 24 ห้อง ที่จะมีอ่างอาบน้ำแบบจากุชชี่ทุกห้อง, ห้องพัก Grand Suite จำนวน 8 ห้อง ซึ่งจะมีสระน้ำขนาดเล็กอยู่ด้านหน้าห้องพัก ยังมีห้องพักสไตล์ Pool Villa ขนาดใหญ่รวม 8 ยูนิต มีสระว่ายน้ำส่วนตัวภายในบ้าน ฯลฯ
บริษัทคาดว่าในอนาคตอาจมีแผนดำเนินการขยายพื้นที่และปริมาณห้องพักของโรงแรมเพิ่มเติม ในขณะเดียวกันก็กำลังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาพื้นที่อื่นๆควบคู่ไปด้วย รวมถึงอาจมีการขยายไปยังจังหวัดอื่นๆต่อไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับศักยภาพของแต่ละพื้นที่เป็นหลัก”
นายอภิชาติ อาษา ผู้จัดการทั่วไป โรงแรม Alpina Phuket Nalina Resort & Spa เปิดเผยถึงแผนการตลาดในช่วงเปิดตัวโครงการว่า “กลุ่มเป้าหมายของโรงแรมจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นหลักคิดเป็น 70% รองลงมาเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยและโซนเอเซีย คิดเป็น 30% และเพื่อเป็นการรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวขากทั่วโลกที่จะเริ่มเดินทางเข้ามาในช่วงเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่น ทางโรงแรมจึงได้เตรียมวางแผนกลยุทธ์ทางด้านการตลาดเพื่อมุ่งรองรับนักท่องเที่ยว โดยเน้นการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าและนักท่องเที่ยวเป็นหลัก รวมถึงยังเน้นการหาลูกค้าเพิ่มโดยจะขยายไปสู่ตลาดในประเทศ ตลาดในโซนเอเชีย และออสเตรเลียมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการขยายตลาดให้กว้างขึ้นไม่จำกัดเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศยุโรปเพียงอย่างเดียว