เขยไทยรุ่งฯ ลุยธุรกิจโรงแรมเต็มสูบโปะเงินลงทุนกว่า 1 พันล้านบาท ปั้น 3 แบรนด์ 4 โลเกชั่น สมุย เกาะกูด ปราณ และ กุยบุรี นำร่องรับลูกค้าไฮเอนด์ เล็งขยายเพิ่มที่ ภูเก็ต กระบี่ ก่อนสยาบปีกไปต่างประเทศใน 5 ปีข้างหน้า ชี้เทรนด์นักท่องเที่ยวระดับบนเปลี่ยนหันมานิยม วิลล่า มากกว่าโรงแรม เผยมั่นใจท่องเที่ยวของไทยเติบโตต่อเนื่อง
นายแอนโทนี่ ฟาคลัว แมคโดนัลด์ ประธาน บริษัท อัสทูโด โฮลดิ้งส์ จำกัด ดำเนินธุรกิจ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในประเทศไทย อังกฤษ และ ออสเตรเลีย เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะรุกธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยอย่างเต็มตัว โดยขณะนี้เริ่มทยอยเปิดให้บริการห้องพักโรงแรมในรูปแบบวิลล่า และรีสอร์ท ตามแหล่งท่องเที่ยวจำนวน 4 แห่ง ได้แก่ อเวย์ รีสอร์ท เกาะกูด , เลอ เบย์บุรี เดอ ปราณ จ.ประจวบฯ และ X2 Resorts : ครอสทู รีสอร์ท ที่ เกาสมุย และ กุยบุรี จ.ประจวบฯ โดยบริษัท จะใช้ 3 แบรนด์ดังกล่างทำตลาดในธุรกิจโรงแรม เบื้องต้นได้เปิดธุรกิจนี้ที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรก ก่อนจะใช้แบรนด์ดังกล่าวขยายตลาดออกไปลงทุนในประเทศอื่นๆ ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า
“แบรนด์ครอสทู เป็นแนว พูล วิลล่า ที่เน้นสไตล์การตกแต่งที่แตกต่าง เจาะคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดสร้างสรรค์ อัตราค่าบริการอยู่ที่คืนละ 1-4 หมื่นบาท ส่วน เลอ เบย์บุรี เป็นวิลล่า ที่เน้นกลุ่มครอบครัว ราคา 3-5 หมื่นบาทต่อคืน และ อเวย์ รีสอร์ท เน้นความสะดวกสบาย มีกิจกรรมนันทนาการ ซอฟแอดเวนเจอร์ ราคา 1.5-9 พันบาทต่อคืน รวมเงินลมทุนทั้งสิ้นราว 700 ล้านบาท อีก 2 ปีน่าจะขยายเฟส 2 เพิ่มห้องพักในที่ดินที่ว่างอยู่ ลูกค้า กว่า 50% เป็นต่างชาติ จากกลุ่มยุโรป และ เอเชียบางประเทศ “
ทั้งนี้ที่เลือกลงทุนที่ประเทศไทย กลุ่มโรงแรม เพราะเห็นศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดระดับบน การลงทุนจะคุ้มทุนเร็ว ซึ่งจากการสำรวจข้อมูลการตลาด พบเทรนด์ความต้องการของลูกค้า ระดับไฮเอนด์ ว่า นิยมความสงบจากการพักผ่อนจึงเลือกที่พักแบบวิลล่ามากกว่าโรงแรม เราจึงเลือกสร้างที่พักแบบวิลล่า และเลือกเปิดในโลเกชั่นที่หลากหลาย เป็นโปรเจคขนาดกลาง ลดความเสี่ยงทางการลงทุน
บริษัทยังมองหาที่ดินเพิ่มเติม ที่ภูเก็ต และกระบี่ เพื่อลงทุนสร้างที่พัก ในแบรนด์ ครอสทู รีสอร์ท น่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 500-600 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับราคาที่ดิน คาดว่าจะสรุปและก่อสร้างได้ในปีหน้า
นายแอนโทนี่ กล่าวว่า ในส่วนของ อสังหาริมทรัพย์ที่ อังกฤษ และ ออสเตรเลีย จะเป็นการลงทุนใน เซอร์วิสอพาร์ทเมนต์และ บ้านเช่า จะไม่ลงทุนในเซกเมนต์โรงแรม โดยแต่ละปี บริษัทได้ผลตอบแทนจากการลงทุนไม่น้อยกว่า 40% สัดส่วนรายได้หลักจะมาจากประเทศไทยกว่า 50% , ออสเตรเลีย 15% และอังกฤษ 25%
ทั้งนี้บริษัท อัสทูโด โฮลดิ้งส์ มีทุนจดทะเบียน 40 ล้านบาท โดยนายแอนโทนี่ ถือหุ้น 49% และ ตระกูล เผอิญโชค ถือหุ้น 51% ซึ่งธุรกิจหลักของตระกูลดังกล่าว คือ บริษัทไทยรุ่งยูเนียนคาร์ และ ธุรกิจรถเช่าระดับไฮเอนด์
นายแอนโทนี่ ฟาคลัว แมคโดนัลด์ ประธาน บริษัท อัสทูโด โฮลดิ้งส์ จำกัด ดำเนินธุรกิจ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในประเทศไทย อังกฤษ และ ออสเตรเลีย เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะรุกธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยอย่างเต็มตัว โดยขณะนี้เริ่มทยอยเปิดให้บริการห้องพักโรงแรมในรูปแบบวิลล่า และรีสอร์ท ตามแหล่งท่องเที่ยวจำนวน 4 แห่ง ได้แก่ อเวย์ รีสอร์ท เกาะกูด , เลอ เบย์บุรี เดอ ปราณ จ.ประจวบฯ และ X2 Resorts : ครอสทู รีสอร์ท ที่ เกาสมุย และ กุยบุรี จ.ประจวบฯ โดยบริษัท จะใช้ 3 แบรนด์ดังกล่างทำตลาดในธุรกิจโรงแรม เบื้องต้นได้เปิดธุรกิจนี้ที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรก ก่อนจะใช้แบรนด์ดังกล่าวขยายตลาดออกไปลงทุนในประเทศอื่นๆ ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า
“แบรนด์ครอสทู เป็นแนว พูล วิลล่า ที่เน้นสไตล์การตกแต่งที่แตกต่าง เจาะคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดสร้างสรรค์ อัตราค่าบริการอยู่ที่คืนละ 1-4 หมื่นบาท ส่วน เลอ เบย์บุรี เป็นวิลล่า ที่เน้นกลุ่มครอบครัว ราคา 3-5 หมื่นบาทต่อคืน และ อเวย์ รีสอร์ท เน้นความสะดวกสบาย มีกิจกรรมนันทนาการ ซอฟแอดเวนเจอร์ ราคา 1.5-9 พันบาทต่อคืน รวมเงินลมทุนทั้งสิ้นราว 700 ล้านบาท อีก 2 ปีน่าจะขยายเฟส 2 เพิ่มห้องพักในที่ดินที่ว่างอยู่ ลูกค้า กว่า 50% เป็นต่างชาติ จากกลุ่มยุโรป และ เอเชียบางประเทศ “
ทั้งนี้ที่เลือกลงทุนที่ประเทศไทย กลุ่มโรงแรม เพราะเห็นศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดระดับบน การลงทุนจะคุ้มทุนเร็ว ซึ่งจากการสำรวจข้อมูลการตลาด พบเทรนด์ความต้องการของลูกค้า ระดับไฮเอนด์ ว่า นิยมความสงบจากการพักผ่อนจึงเลือกที่พักแบบวิลล่ามากกว่าโรงแรม เราจึงเลือกสร้างที่พักแบบวิลล่า และเลือกเปิดในโลเกชั่นที่หลากหลาย เป็นโปรเจคขนาดกลาง ลดความเสี่ยงทางการลงทุน
บริษัทยังมองหาที่ดินเพิ่มเติม ที่ภูเก็ต และกระบี่ เพื่อลงทุนสร้างที่พัก ในแบรนด์ ครอสทู รีสอร์ท น่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 500-600 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับราคาที่ดิน คาดว่าจะสรุปและก่อสร้างได้ในปีหน้า
นายแอนโทนี่ กล่าวว่า ในส่วนของ อสังหาริมทรัพย์ที่ อังกฤษ และ ออสเตรเลีย จะเป็นการลงทุนใน เซอร์วิสอพาร์ทเมนต์และ บ้านเช่า จะไม่ลงทุนในเซกเมนต์โรงแรม โดยแต่ละปี บริษัทได้ผลตอบแทนจากการลงทุนไม่น้อยกว่า 40% สัดส่วนรายได้หลักจะมาจากประเทศไทยกว่า 50% , ออสเตรเลีย 15% และอังกฤษ 25%
ทั้งนี้บริษัท อัสทูโด โฮลดิ้งส์ มีทุนจดทะเบียน 40 ล้านบาท โดยนายแอนโทนี่ ถือหุ้น 49% และ ตระกูล เผอิญโชค ถือหุ้น 51% ซึ่งธุรกิจหลักของตระกูลดังกล่าว คือ บริษัทไทยรุ่งยูเนียนคาร์ และ ธุรกิจรถเช่าระดับไฮเอนด์