ไวตามิ้ลค์แชมป์ ตรึงราคาเอาใจแม่บ้านเจอพิษเศรษฐกิจถดถอยกำลังการซื้อหด อัดฉีดกว่า 40 ล้านบาท ส่งนมถั่วเหลืองสูตรฟักทอง เพิ่มมูลค่าตอบโจทย์คุณแม่ยุคใหม่ ตั้งเป้า 5ปีสอยไมโล รั้งตำแหน่งเบอร์สามของตลาด กวาดแชร์เพิ่มจาก 6% เป็นตัวเลขสองหลัก
นายชนิต สุวรรณพรินทร์ ผู้จัดการทั่วไปสายงานการตลาด บริษัท กรีนสปอต จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายนมถั่วเหลืองไวตามิ้ลค์ แชมป์ เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่ถดถอย ดังนั้นแม้ว่าต้นทุนการผลิตนมจะปรับเพิ่มขึ้น แต่จากนโยบายของนายโชติ โสภณพานิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กรีนสปอต (ประเทศไทย) จำกัด ต้องการให้บริษัทฯตรึงราคาสินค้าไว้ก่อน โดยเฉพาะกลุ่มนมไวตามิ้ลค์แชมป์ นมถั่วเหลืองสำหรับเด็ก เพื่อให้สอดคล้องกับกำลังการซื้อของผู้บริโภคและพ่อแม่ในขณะนี้ โดยไวตามิ้ลค์ แชมป์ ขนาด 110 มล. ราคา 6 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ตรึงไว้นาน 6 - 7 ปี
ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดตัวไวตามิ้ลค์ แชมป์ ผสมฟักทอง โดยเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นรายแรกในตลาดนมพร้อมดื่มสำหรับเด็กที่นำผักมาเป็นส่วนผสม พร้อมกับชูความโดดเด่นการตอบโจทย์ของพ่อแม่นอกเหนือจากให้เติบโตแข็งแรงและยังต้องการผลิตภัณฑ์ที่ต้องการบำรุงสายตาลูก โดยเฉพาะเด็กในยุคปัจจุบันต้องใช้สายตา ไม่ว่าจะเป็น ดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือ หรือเล่นคอมพิวเตอร์
พร้อมกันนี้ยังได้ปรับลวดลายบนบรรจุภัณฑ์ โดยดึงรูปสัญลักษณ์และสีสันก้านกล้วยและชบาแก้ว เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเด็กอายุระหว่าง 3-12 ปี ซึ่งผลจากวิจัยพบว่าก้านกล้วยและชบาแก้ว สามารถสะท้อนบุคลิกของแบรนด์ได้เป็นอย่างนี้ และดึงดูดใจเด็ก ส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมายอดขายเติบโต 46%
ทั้งนี้บริษัทฯได้ทุ่มงบกว่า 40 ล้านบาท จากงบรวมทั้งปี 55 ล้านบาท ในการทำตลาดโดยได้เตรียมการทำตลาดและโฆษณาส่งเสริมการขายแบบครบวงจร แบ่งเป็น บีโลว์เดอะไลน์ 50% และอะโบฟเดอะไลน์ 50% เริ่มด้วยการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “ชื่อ อร่อยเห็นๆ” เพื่อสร้างการรับรู้ถึงคุณประโยชน์ของไวตามิ้ลค์ แชมป์ ผสมฟักทอง และการจัดกิจกรรมที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยเน้นกิจกรรมที่สร้างความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ ครู และเด็ก พร้อมสนับสนุนกิจกรรมโรดโชว์ในโรงเรียนและห้างสรรพสินค้ากว่า 400 จุด รายการส่งเสริมการขาย ณ จุดขายและการทดลองดื่ม
แนวโน้มตลาดนมพร้อมดื่มสำหรับเด็กมูลค่า 4,300 ล้านบาท ในปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 7% แบ่งเป็น นมถั่วเหลือง 860 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20% ของตลาดรวม โดยในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาตลาดมีอัตราการเติบโต 26% นมวัวมูลค่า 1,247 ล้านบาท หรือคิดเป็น 29% เครื่องดื่มธัญพืชมูลค่า 1,462 ล้านบาท หรือคิดเป็น 34% และเปรี้ยวพร้อมดื่มมูลค่า 731 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 17%
นายชนิต กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการรุกตลาดอย่างหนักบริษัทฯตั้งเป้าหมาย 5 ปี บริษัทฯจะขึ้นมาเป็นอันดับ 3 แทนที่ไมโล ด้วยการครองส่วนแบ่งเพิ่มเป็นตัวเลขสองหลัก จากปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 6% เป็นอันดับ 6 ส่วนอันดับ 1 เป็น โอวัลติน ครองส่วนแบ่งกว่า 10% และอันดับ 2 ดัชมิลล์ มีส่วนแบ่งกว่า 10%