“เราเป็นบริษัทเอเยนซีที่เกิดขึ้นจากสายพันธุ์ไทย แต่มีฝีไม้ลายมือระดับอินเตอร์” นี่เป็นคำพูดของบริษัทเอเยนซี “ทรี-อาร์ดี” ซึ่งเป็นคลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตามอง จากการมี3 อดีตผู้บริหารมืออาชีพ คุณกนกพร นิตย์ธีรานนท์ คุณกนกดาว กาญจนะภูษากิจ และคุณชัชวาล คูสมิทธิ์ ที่การันตีฝีไม้ลายมือระดับโลกและเอเชีย แปซิฟิก จากบริษัทไอบีเอ็ม และโอกิลวี่วันมาแล้ว
นางสาวกนกพร นิตย์ธีรานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรี-อาร์ดี จำกัด ผู้ให้บริการการตลาดแบบตรง ได้เล่าว่า การก่อตั้งบริษัท ทรี-อาร์ดี เกิดจากการร่วมทุนระหว่าง บริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์ เอเจนซี่ จำกัด (มหาชน) และบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด และ 3 ผู้บริหารมืออาชีพ ได้แก่ ตนเอง และคุณกนกดาว กาญจนะภูษากิจ คุณชัชวาล คูสมิทธิ์ในสัดส่วน 50:50 เพื่อรุกธุรกิจสื่อสารการตลาดแบบอินเตอร์แอคทีฟ เราได้เริ่มดำเนินการเมื่อเดือนเมษายนนี้ ปรากฏว่ามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการแล้ว 10 ราย และกำลังจะมีลูกค้าใหม่เข้ามาเพิ่มอีก 10 ราย
แนวคิดในการทำงานของเรา 1+1 ต้องไม่เท่ากับ 2 แต่ต้องเป็น 3 หรือ 10 ขณะที่การทำงานไม่ได้มองธุรกิจแค่ในระยะสั้น แต่เรามองไปถึงการทำในระยะยาวถึง 3 ปี ภายใต้รูปแบบการให้บริการ 3 แบบ อินเตอร์แอคทีฟ มาร์เก็ตติง คอมมูนิเคชัน บริการด้านคอลเซ็นเตอร์ และด้านข้อมูล หรือพูดง่ายๆวางโพซิชันนิ่งเป็นธุรกิจวัน สตอป อินเตอร์แอคทีฟ มาร์เก็ตติง คอมมูนิเคชัน เอเยนซี
“วัฒนธรรมองค์กร อยู่กันแบบพี่แบบน้อง เพื่อที่จะได้ทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข สนุกกับงานที่ทำให้เต็มที่ เอาความรู้ของแต่ละคน การมองต่างมุม มากลั่นกรอง ทุกเสียงมีค่า ดังนั้นงานที่ออกก็จะไม่เหมือนชาวบ้าน”
ที่ผ่านมาหลายคนดูถูกฝีมือคนไทย ว่าฝีมือฝรั่ง บริษัทฝรั่งน่าจะดีกว่า แต่หลายครั้งที่งานที่เป็นฝีไม้ลายมือคนไทยก็ได้รับการชื่นชมไม่แพ้ฝีมือของชาวต่างชาติ ดังนั้นเป้าหมายของเราคือการเป็นบริษัทเอเยนซีที่เกิดขึ้นจากสายพันธุ์ไทย แต่มีฝีไม้ลายมือระดับอินเตอร์
บริษัท ทรี-อาร์ดี เรามีแนวทางสื่อสารทางการตลาดแบบ“อินเตอร์แอคทีฟ” ให้แบรนด์ของลูกค้าได้เพิ่มส่วนแบ่งตลาดผ่านช่องทางการสื่อสารที่ชักจูงให้ผู้บริโภคเป้าหมายตอบสนองกับแบรนด์โดยตรง และวัดผลได้อย่างรวดเร็ว โดยทรี-อาร์ดี เข้ามาช่วยเจ้าของแบรนด์วิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาดของกลุ่มผู้บริโภค เพื่อหาโอกาสที่แบรนด์ต่างๆ จะมีโอกาสขายสินค้าและบริการได้มากขึ้น
“ด้วยกลยุทธ์นี้จะช่วยให้เพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดให้กับเจ้าของแบรนด์ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งยอดขาย ยอดจอง ยอดสมัครสมาชิก และยอดจำนวนผู้บริโภคเป้าหมาย ที่ตอบสนองกับแคมเปญจากกลยุทธ์ทางการสื่อสารแบบอินเตอร์แอคทีฟ”
น่าจับตามองเป็นอย่างมากสำหรับบริษัท ทรี-อาร์ดี ซึ่งเป็นการร่วมกันฟูกฟักระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ แกรมมี่และอินเด็กซ์ อีเว้นท์ ที่ถือว่าเป็นผู้นำธุรกิจระดับแนวหน้าของแต่ละวงการ ไม่ว่าจะเป็นแวดวงธุรกิจการตลาด หรือธุรกิจบันเทิง รวมทั้ง 3 อดีตผู้บริหารฝีมือดี ดังนั้นผลที่ได้ทางธุรกิจย่อมเป็นบวกสำหรับบริษัทที่เป็นคลื่นลูกเก่าขัดเกลาเป็นคลื่นลูกใหม่ไฟแรง
นางสาวกนกพร นิตย์ธีรานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรี-อาร์ดี จำกัด ผู้ให้บริการการตลาดแบบตรง ได้เล่าว่า การก่อตั้งบริษัท ทรี-อาร์ดี เกิดจากการร่วมทุนระหว่าง บริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์ เอเจนซี่ จำกัด (มหาชน) และบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด และ 3 ผู้บริหารมืออาชีพ ได้แก่ ตนเอง และคุณกนกดาว กาญจนะภูษากิจ คุณชัชวาล คูสมิทธิ์ในสัดส่วน 50:50 เพื่อรุกธุรกิจสื่อสารการตลาดแบบอินเตอร์แอคทีฟ เราได้เริ่มดำเนินการเมื่อเดือนเมษายนนี้ ปรากฏว่ามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการแล้ว 10 ราย และกำลังจะมีลูกค้าใหม่เข้ามาเพิ่มอีก 10 ราย
แนวคิดในการทำงานของเรา 1+1 ต้องไม่เท่ากับ 2 แต่ต้องเป็น 3 หรือ 10 ขณะที่การทำงานไม่ได้มองธุรกิจแค่ในระยะสั้น แต่เรามองไปถึงการทำในระยะยาวถึง 3 ปี ภายใต้รูปแบบการให้บริการ 3 แบบ อินเตอร์แอคทีฟ มาร์เก็ตติง คอมมูนิเคชัน บริการด้านคอลเซ็นเตอร์ และด้านข้อมูล หรือพูดง่ายๆวางโพซิชันนิ่งเป็นธุรกิจวัน สตอป อินเตอร์แอคทีฟ มาร์เก็ตติง คอมมูนิเคชัน เอเยนซี
“วัฒนธรรมองค์กร อยู่กันแบบพี่แบบน้อง เพื่อที่จะได้ทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข สนุกกับงานที่ทำให้เต็มที่ เอาความรู้ของแต่ละคน การมองต่างมุม มากลั่นกรอง ทุกเสียงมีค่า ดังนั้นงานที่ออกก็จะไม่เหมือนชาวบ้าน”
ที่ผ่านมาหลายคนดูถูกฝีมือคนไทย ว่าฝีมือฝรั่ง บริษัทฝรั่งน่าจะดีกว่า แต่หลายครั้งที่งานที่เป็นฝีไม้ลายมือคนไทยก็ได้รับการชื่นชมไม่แพ้ฝีมือของชาวต่างชาติ ดังนั้นเป้าหมายของเราคือการเป็นบริษัทเอเยนซีที่เกิดขึ้นจากสายพันธุ์ไทย แต่มีฝีไม้ลายมือระดับอินเตอร์
บริษัท ทรี-อาร์ดี เรามีแนวทางสื่อสารทางการตลาดแบบ“อินเตอร์แอคทีฟ” ให้แบรนด์ของลูกค้าได้เพิ่มส่วนแบ่งตลาดผ่านช่องทางการสื่อสารที่ชักจูงให้ผู้บริโภคเป้าหมายตอบสนองกับแบรนด์โดยตรง และวัดผลได้อย่างรวดเร็ว โดยทรี-อาร์ดี เข้ามาช่วยเจ้าของแบรนด์วิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาดของกลุ่มผู้บริโภค เพื่อหาโอกาสที่แบรนด์ต่างๆ จะมีโอกาสขายสินค้าและบริการได้มากขึ้น
“ด้วยกลยุทธ์นี้จะช่วยให้เพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดให้กับเจ้าของแบรนด์ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งยอดขาย ยอดจอง ยอดสมัครสมาชิก และยอดจำนวนผู้บริโภคเป้าหมาย ที่ตอบสนองกับแคมเปญจากกลยุทธ์ทางการสื่อสารแบบอินเตอร์แอคทีฟ”
น่าจับตามองเป็นอย่างมากสำหรับบริษัท ทรี-อาร์ดี ซึ่งเป็นการร่วมกันฟูกฟักระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ แกรมมี่และอินเด็กซ์ อีเว้นท์ ที่ถือว่าเป็นผู้นำธุรกิจระดับแนวหน้าของแต่ละวงการ ไม่ว่าจะเป็นแวดวงธุรกิจการตลาด หรือธุรกิจบันเทิง รวมทั้ง 3 อดีตผู้บริหารฝีมือดี ดังนั้นผลที่ได้ทางธุรกิจย่อมเป็นบวกสำหรับบริษัทที่เป็นคลื่นลูกเก่าขัดเกลาเป็นคลื่นลูกใหม่ไฟแรง