xs
xsm
sm
md
lg

ปฏิบัติการล่าฝัน "วสันต์ ภัยหลีกลี้" สร้าง "อสมท" เป็นแม่แบบสื่อมืออาชีพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายสัปดาห์ - "ท้ายที่สุด ผมอยากเห็น อสมท เป็นองค์กรสื่อสารมวลชนมืออาชีพในทุกด้าน ทั้งด้านงานข่าว ด้านการทำหน้าที่องค์กรสื่อสารมวลชน รวมถึงในด้านธุรกิจ มีความเป็นอิสระ ปราศจากการแทรกแซงทั้งจากภาครัฐ และกลุ่มผลประโยชน์ต่าง ๆ อสมท จะเป็นองค์กรที่แคร์สังคม คำนึงถึงประโยชน์ของสังคม และแข่งขันได้ในทางธุรกิจ เป็นองค์กรที่มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นที่น่าสนใจและสามารถดึงดูดคนดีมีฝีมือเข้ามาร่วมงานได้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็สามารถรักษาคนดี ๆ มีฝีมือที่มีอยู่ไว้กับองค์กรได้ยาวนาน"
วสันต์ ภัยหลีกลี้
วสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ "ผู้จัดการรายสัปดาห์" ถึงเป้าหมายในการบริหาร อสมท องค์การสื่อสารมวลชนของมหาชนที่มีรัฐบาลในนามกระทรวงการคลัง เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ภายในเทอมการทำหน้าที่ 4 ปีที่เขาได้รับคัดเลือกเข้ามา

อสมท หรืออดีต องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย ถูกเรียกขานว่าเป็น แดนสนธยาของวงการสื่อ เพราะศักยภาพของการทำหน้าที่สื่อสารมวลชนที่เหนือกว่ากรมประชาสัมพันธ์แบบฝีมือคนละชั้น ทั้งด้านการทำหน้าที่สื่อ ที่มีบุคลากรที่มีความสามารถสูงกว่า มีเครือข่ายในการส่งสัญญาณกว้างไกล สมบูรณ์และชัดเจนกว่า รวมถึงการหารายได้ที่ทำได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยกว่า ทำให้ผู้มีอำนาจในการบริหารประเทศเข้ามาครอบงำการทำงานมาทุกยุคทุกสมัย

การถูกใช้เป็นกระบอกเสียงของฝ่ายรัฐในการต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามมีให้เห็นในทุกรัฐบาล การหาประโยชน์ด้านรายได้ของผู้มีอำนาจ สมัยหนึ่งเคยถูกเปลี่ยนชื่อองค์กร เป็น องค์การส่งเสริมมิวสิควิดีโอแห่งประเทศไทย ด้วยผู้บริหารยุคนั้นมอบเวลาให้ค่ายเพลงดังผลิตรายการส่งเสริมการขายอย่างเต็มที่ จนถึงเหตุรุนแรงที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ท่านหนึ่งถูกฆาตกรรมจากการเข้าขวางการหาผลประโยชน์ของสัมปทานที่ไม่ชอบมาพากล

ผู้บริหารคนก่อนหน้า มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ แม้เป็นผู้เข้ามาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับ อสมท ลบภาพแดนสนธยา กำหนดแนวคิด สังคมอุดมปัญญา ขึ้นใหม่ นำรายการสาระความรู้เข้าสู่สถานี พร้อมปฏิวัติสื่อที่มีอยู่อย่างสถานีวิทยุ อสมท สำนักข่าวไทย จนถึงสื่ออินเทอร์เน็ต ให้เป็นที่ได้รับความนิยมจากประชาชนได้มากขึ้น แต่จุดจบของผู้บริหารที่ได้รับความนับถือสูงสุดท่านหนึงขององค์กรแห่งนี้ ก็ยังวนเวียนอยู่กับการถูกครอบงำโดยผู้บริหารประเทศเหมือนเช่นเดิม แถมรายได้ที่จะกลับเข้ามาไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิดกัน

ผังรายการสังคมอุดมปัญญา ผลักดันให้ส่วนแบ่งผู้ชมรายการของโมเดิร์นไนน์ ที่เอซีนีลเส็นสำรวจ ขยับหนีไอทีวี และช่อง 5 ขึ้นมาอยู่อันดับ 3 รองจากช่อง 7 และช่อง 3 แต่หากมองจากส่วนแบ่งการตลาด รายได้ของโมเดิร์นไนน์ กลับตกลงไปอยู่อันดับ 5 น้อยกว่าแม้กระทั่งช่อง 5

ประมาณการรายได้ของ อสมท เมื่อ 2 ปีก่อนในยุคที่มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ บริหารอย่างเต็มตัว พบว่า รายได้ราว 3,000 ล้านบาท หักรายได้จากสถานีวิทยุราว 800 ล้านบาท รายได้จากค่าสัมปทานเคเบิลทีวี 500 ล้านบาท และรายได้จากการรับงานประชาสัมพันธ์ให้กับหน่วยงานรัฐ และเอกชน อีกราว 600 ล้านบาท จะเหลือเป็นรายได้ที่มาจากการทำงานของโมเดิร์นไนน์ เพียงพันล้านบาทเท่านั้น เทียบเท่ากับบริษัทอย่าง จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ที่มีรายการโทรทัศน์อยู่ไม่กี่รายการ

สะท้อนถึงการทำงานของมิ่งขวัญ ที่มีจุดเด่นด้านการประชาสัมพันธ์สร้างภาพพจน์ แต่ในด้านยอดขายทีมการตลาด ทีมขายกลับไม่มีความแข็งแรง มุ่งขายแต่ช่วงเวลาไพร์มไทม์ 3-4 ชั่วโมงต่อวัน ละเลยการหารายได้จากช่วงเวลาอื่น เสียโอกาสไปอย่างมหาศาล

ขณะที่ผู้บริหารคนใหม่ วสันต์ ภัยหลีกลี้ วางแนวทางการบริหารว่า ต้องใช้ศักยภาพที่ อสมท มีอยู่อย่างเต็มที่ นำโปรดักส์ที่มีอยู่ในมือมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

"ผมคิดว่าเราเป็นองค์กรที่มีโอกาสในงานด้านสื่อสารมวลชนมากที่สุดองค์กรหนึ่ง เรามีโอกาสในการทดลองนำสื่อต่าง ๆ มาใช้ ด้วยเพราะเรามีสื่ออยู่มาก สามารถทดลองและนำมาใช้ รวมถึงสามารถซินเนอยี่สื่อต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์ได้มหาศาล"

ตั้ง "เขมทัตต์" ลุยสร้างรายได้
จับมือ ทรูวิชั่นส์ - ช่อง 3 เสริมความแข็งแกร่ง


งานแรก ๆ ของ อสมท ที่วสันต์เข้ามาปรับเปลี่ยนจึงเป็นเรื่องของการตลาด การขาย ที่จะสร้างรายได้จากการโฆษณาให้มีความสัมพันธ์กับส่วนแบ่งผู้ชมที่อยู่ในระดับแนวหน้า

วสันต์กล่าวยอมรับว่า รายได้ของ อสมท ไม่เป็นไปในแนวทางที่ควรเป็นจริง ขาดผู้รับผิดชอบ จึงมีการปรับทีมตลาดทันที แต่งตั้งผู้ดูแลอย่างชัดเจนและให้เป็นผู้ตัดสินใจเพียงคนเดียว โดยมอบหมายให้เขมทัตต์ พลเดช ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท ซึ่งมีประสบการณ์ในการสร้างรายได้จากสถานีวิทยุ อสมท มาเป็นผู้รับตำแหน่งดูแลงานด้านการตลาด พร้อมมีการเสริมบุคลากรสร้างทีมงานดูแลด้านกลยุทธการตลาด และการวิจัยการตลาด โดยดึงผู้มีประสบการณ์ทั้งจากบริษัทโฆษณา และสถานีโทรทัศน์ เข้ามาร่วมงาน พร้อมเสริมทีมขายให้เพิ่มมากขึ้น และทำงานอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

"นโยบายของเราคือดูโครงสร้างภายในแล้วมอบหมายคนดูแลให้ชัดเจน เสริมกลยุทธ์การตลาดให้แข็งแกร่งขึ้น เสริมทีมขายขึ้นมา เชื่อมั่นว่า เวลาข้างหน้าการขายจะเข้มแข็งขึ้น และเรายังมีช่องทางที่จะเพิ่มรายได้อีกพอสมควร ทั้งจากรายการที่แข็งแรงขึ้น และจากการมีทีมขายที่มากขึ้น แข็งแกร่งขึ้นด้วย"

เขาเชื่อว่า อสมท มีโอกาสเปิดกว้างอยู่อย่างมหาศาลในหลายด้าน ทั้งในแง่การที่จะนำสื่อมาใช้อย่างเต็มที่มากขึ้น โอกาสที่จะบูรณาการสื่อในเครือเข้ามาร่วมกันสร้างความแข็งแกร่ง ทั้งโมเดิร์นไนน์ สำนักข่าวไทย สถานีวิทยุ อสมท เว็บไซต์ MCOT รวมถึงสื่อสัมปทานอย่าง ไทยทีวีสีช่อง 3 และ ทรูวิชั่นส์ เคเบิลทีวี ที่วสันต์ตั้งเป้าว่าจะสร้างความร่วมมือให้เห็นอย่างชัดเจน

"วันนี้เรามองผู้รับสัมปทานจาก อสมท เป็นในเชิงพาร์ทเนอร์ และในเชิงการบริหารสัญญามากขึ้นว่า ทำอย่างไรจึงจะบริหารให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อ อสมท ผู้ถือหุ้น และผู้ชม การร่วมมือกันผลิตรายการอะคาเดมี แฟนเทเชีย ซีซั่น 4 ก็ถือเป็นโครงการหนึ่ง ซึ่งคิดว่ายังมีอีกหลายโครงการที่สามารถร่วมมือกันได้ เช่น การถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2007/2008 ผมคิดว่าทรูวิชั่นส์มีศักยภาพเช่นเดียวกับ อสมท เมื่อนำมาผนวกกันจะสร้างความแข็งแกร่งของทั้ง 2 องค์กรยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับช่อง 3 หากมีโครงการที่ทำร่วมกันแล้วเป็นประโยชน์ต่อสังคม ทั้ง อสมท และช่อง 3 ก็คงร่วมมือกันทำแน่นอน"

จัดทัพนิวมีเดีย ชิงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่

นอกเหนือจากการจัดทัพกับสื่อหลักให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ในส่วนของสื่อใหม่ ๆ วสันต์ก็มีแผนการในการสร้างความแข็งแกร่งเพื่อรองรับพฤติกรรมการรับสื่อของคนรุ่นใหม่อีกด้วย โดยเริ่มจากสื่ออินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ MCOT.NET ที่แม้จะเป็นเว็บไซต์สถานีโทรทัศน์ที่มีผู้เข้าชมสูงสุดแล้ว ก็มีการปรับหน้าตาของเว็บให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ ในส่วนของคอนเทนต์จะเสริมทีมงานเพื่ออัพเดทข่าวอยู่ตลอดเวลา เพื่อความกระฉับกระเฉง รวดเร็วขึ้น นอกจากนั้นจะปรับรูปแบบให้ User Friendly มากขึ้น จากนั้นจะมีการนำเว็บไซต์นี้ซินเนอยี่เข้ากับสื่อวิทยุ และโทรทัศน์ เพื่อให้เว็บไซต์ MCOT.NET ที่มีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ได้รับความสนใจจากผู้ชมมากขึ้น และต่อไปก็จะเป็นช่องทางสร้างรายได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยของ อสมท อีกทาง

นอกจากนี้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ อสมท จะเปิดให้บริการสื่อใหม่ อย่าง การบริการส่ง SMS ข่าวประจำวัน จากสำนักข่าวไทย รวมถึงบริการทีวี ออน โมบาย ที่วสันต์มั่นใจว่า ศักยภาพของ อสมท ในการให้บริการด้านสื่อใหม่นี้ มีอยู่ไม่ด้อยกว่าใครแน่นอน

สู่เป้าหมายสื่อมืออาชีพ
"วิน-วิน-วิน" อสมท - ผู้ผลิต - ประชาชน

วสันต์ ยืนยันแนวคิดในการบริหาร อสมท ว่า จะนำเสนอรายการที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ชมอย่างแท้จริง ปราศจากการครอบงำจากกลุ่มบุคคลใด ๆ มุ่งไปในทางที่เห็นว่าถูกต้อง ตามแนวคิด "คิดดี ทำดี ดูดี" โดยลักษณะของรายการไม่จำเป็นต้องเป็นข่าวสาร หรือสาระเท่านั้น อาจเป็นรายการ Edutainment หรือ Entertainment ก็ได้ แต่ต้องเป็นรายการที่ดี สร้างสรรค์

"เราใฝ่ดี มุ่งไปในทางที่ดี คิดดีทำดี และขอให้ดูดี ไม่ใช่ทำรายการแล้วไม่มีคนดู หรือทำรายการยัดเยียด เวลาคุยกับผู้ผลิตก็ขอให้เป็น วิน-วิน และวิน คือ อสมท วินในเรื่องเรตติ้ง และรายได้ ทั้งเงิน ทั้งกล่อง ขณะที่ผู้ผลิตรายการกับเราก็ได้รับไปด้วย สุดท้ายผู้ชม สังคมก็ต้องได้ด้วย"
กำลังโหลดความคิดเห็น