สคบ.เตรียมฟัน มือปั่น “จตุคาม” โฆษณาอวดอ้างสรรพคุณ ฟันแทงไม่เข้า-มีไว้แล้วจะร่ำรวย เข้าข่ายเวอร์เกินความเป็นจริง เจอคุก 6 เดือน เผยยอดร้องเรียนแค่ 2 เดือน มีเข้ามากว่า 100 เรื่องแล้ว ลั่นจับมือสำนักพุทธฯ ออกกฎควบคุม ฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำทั้งปรับ
นางรัศมี วิศทเวทย์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้บริโภคจำนวนมากร้องเรียนเข้ามา กรณีได้รับความเดือดร้อนจากการเช่าองค์จตุคามรามเทพจากพ่อค้า โดยต้องการคืนสินค้า เนื่องจากของจริงไม่สวยงามเหมือนกับในรูปใบจอง คุณภาพไม่เหมือนกับที่โฆษณา สคบ.จะนำเรื่องนี้เข้าในที่ประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองเรื่องราวร้องทุกข์เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้บริโภคต่อไป
นางรัศมี ระบุว่า ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา พบว่า มีการร้องเรียนเกี่ยวกับจตุคามรามเทพกว่า 100 เรื่อง นอกจากจะเป็นเรื่องคุณภาพแล้วยังเป็นห่วงเรื่องการเก็งกำไรกันหลายต่อ หรือหักหัวคิว เช่น คนที่เก็งกำไรนำไปโฆษณาความสวยงาม หรือคุณภาพที่เกินจริง โดยสั่งจองจากศูนย์มาราคา 1,000 บาท แต่นำใบจองไปขายต่อราคา 1,200 บาท จนผู้ที่ได้รับคนสุดท้ายต้องจ่ายเงินเกือบ 2,000 บาท เมื่อรับไปยังพบว่าไม่เป็นไปตามที่โฆษณา
นายนิโรธ เจริญประกอบ รองเลขาธิการ สคบ.กล่าวว่า สคบ.เตรียมหารือกับสำนักงานพระพุทธศาสนาเพื่อออกข้อกำหนดควบคุมข้อความการโฆษณาของจตุคามรามเทพ เนื่องจากปัจจุบันมีพ่อค้าบางรายมีพฤติกรรมโฆษณาเข้าข่ายผิดกฎหมาย ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจสาระสำคัญว่าหากใครได้ครอบครองจตุคามรามเทพแล้วจะรวย โชคดี ฟันแทงไม่เข้า เบื้องต้นภาครัฐได้ห้ามการใช้ข้อความดังกล่าวแล้ว เพราะไม่สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ หากรายใดไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งจำและปรับ ส่วนสื่อที่ลงโฆษณาได้รับโทษกึ่งหนึ่ง
นายนิโรธ กล่าวว่า ตอนนี้คนกำลังนิยมจตุคามรามเทพกันมาก ทำให้ผู้จัดสร้างจะต้องใช้กลยุทธ์ทางการตลาด เช่น คำโฆษณาและโชว์อภินิหารที่ดูแล้วค่อนข้างจะเกินจริง เพื่อดึงดูดคนให้สนใจรุ่นที่ตนเองสร้างมากที่สุด ดังนั้น สคบ.จะร่วมกับกรมการศาสนาเข้าไปตรวจสอบการโฆษณาให้มากขึ้น ส่วนเรื่องการตั้งราคาจำหน่ายบางรุ่นที่ค่อนข้างสูง สคบ.คงจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว หรือตรวจสอบไม่ได้ เพราะถือเป็นสิทธิของผู้สร้าง และขึ้นอยู่กับศรัทธาส่วนบุคคลของผู้เช่าที่จะต้องพิจารณากันเองว่าเหมาะสมหรือไม่
“การโฆษณาองค์จตุคามรามเทพส่วนใหญ่ไม่ผิดกฎหมาย เพราะบอกชื่อรุ่น เช่น ชื่อรุ่นโคตรรวย รุ่นโคตรเศรษฐี แต่มีเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่เข้าข่ายให้คนเข้าใจผิดโดยใช้ข้อความชวนเชื่อเกินจริง” นายนิโรธ กล่าว
นายนิโรธ กล่าวอีกว่า ในเบื้องต้นภาครัฐได้ห้ามการใช้ข้อความที่ระบุว่า สวมใส่จตุคามแล้วจะรวยหรือโชคดี เนื่องจากไม่สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ ซึ่งหากผู้ค้ารายใดไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งจำและปรับ ส่วนสื่อที่ลงโฆษณาจะต้องได้รับโทษกึ่งหนึ่งของผู้ค้า” นายนิโรธ กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้การโฆษณาจตุคามส่วนใหญ่จะไม่ผิดกฎหมาย เพราะบอกเพียงชื่อรุ่น เช่น รุ่นโคตรรวย รุ่นโคตรเศรษฐี แต่พบว่ามีผู้ค้าที่โฆษณาเข้าข่ายให้ประชาชนเข้าใจผิดด้วยการใช้ข้อความโฆษณาเกินจริง
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคจำนวนมากที่ร้องเรียน ว่า คุณภาพจตุคามที่ได้รับจากผู้ค้าไม่เหมือนกับที่ลงโฆษณา หรือรูปในใบสั่งจอง ซึ่ง สคบ.จะพิจารณาเรื่องนี้ต่อไป
นายปารเมศร์ รัชไชยบุญ ประธานกิตติมศักดิ์ สมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศไทย กล่าวว่า มีการใช้งบลงโฆษณาจตุคามทางหนังสือพิมพ์มากเป็นอันดับ 1 โดยตั้งแต่ต้นปีจน ถึงสิ้นเดือน มิ.ย.มีการใช้งบโฆษณาจตุคามไปแล้วกว่า 300 ล้านบาท