ESPADA ปรับภาพลักษณ์ใหม่ เน้นออกแบบเสื้อผ้าแนวแฟชั่น เพิ่มไลน์สินค้ากลุ่ม Women Casual – Accessories ขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่
นางสาวชัชฎา เพชรสัมฤทธิ์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ ESPADA บริษัท แอล เอ็ม อี จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ปรับภาพลักษณ์สินค้าใหม่เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้น จากเดิมที่เน้นเฉพาะเสื้อผ้าผู้หญิงวัยทำงาน (Women Collection) ที่สามารถสวมใส่ในวันจันทร์-ศุกร์ โดยมีการปรับเปลี่ยนแนวทางการออกแบบใหม่ที่เน้นความเป็นแฟชั่นและเพิ่มไลน์เสื้อผ้าให้แต่งได้ทั้ง 7 วันมากขึ้น ทำให้สามารถนำมาแต่งกายได้ในสไตล์ลำลองวันหยุด (Women Casual) พร้อมทั้งยังเพิ่มกลุ่มสินค้าเครื่องประดับสำหรับการตกแต่งเครื่องแต่งกาย เช่น สร้อย กระเป๋า เข็มขัด เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์การแต่งตัวในลักษณะ Mix & Match
“เสื้อผ้าของ ESPADA จะนำเสนอจุดขายในแบบที่ตอบสนองของทุกกิจกรรมของสาวรุ่นใหม่ที่ต้องการความสง่าและการยอมรับของสังคม โดยจะเน้นไปที่กลุ่มผู้หญิงวัยทำงาน อายุ 25-35 ปี มีรายได้ประมาณ 25,000-40,000 บาท มีสไตล์การแต่งตัวที่มีบุคลิก โก้ เท่ห์ และนิยมเลือกซื้อสินค้าที่แบรนด์เนม”
นางสาวชัชฎา เปิดเผยถึงแผนการทำตลาดในปีนี้ว่า ถึงแม้ ESPADA จะเป็นแบรนด์ที่อยู่ในประเทศไทยมานานกว่า 20 ปี จนได้รับการยอมรับจากลูกค้าในวงกว้าง บริษัทฯก็ยังต้องการนำเสนอสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ ที่เปลี่ยนไปตามโลกที่เปลี่ยนไปมากขึ้น โดยในปีนี้บริษัทฯจะมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทั้งในเรื่องการจัด Workshop เพื่อให้ได้ข้อมูลผู้บริโภคเชิงลึก และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีด้วยการนำกลยุทธ์ CRM (Customer Relation Management) มาใช้กับกลุ่มลูกค้าประจำโดยการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องแฟชั่น การแต่งตัว และการเลือกใช้สินค้าที่เหมาะสมกับบุคลิกของแต่ละคน
นอกจากนี้บริษัทฯยังมีขยายการรับรู้ไปยังกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดมากขึ้นด้วยการจัดกิจกรรมโปรโมชั่นต่างๆ ร่วมกับห้างสรรพสินค้าในต่างจังหวัดใหญ่ๆ ในแต่ละภูมิภาค
“ESPADA จะมีการออก Collection ใหม่ๆ ทุก 3 เดือน เพื่อนำสินค้าใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติมให้ผู้หญิงที่หลงใหลแฟชั่น โดยปัจจุบันมีวางจำหน่ายอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ,โรบินสัน,เดอะมอลล์ ,เอ็มโพเรียม, สยามพารากอน, Zen และห้างสรรพสินค้าชั้นนำในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด รวมถึงการขยายตลาดต่างประเทศ อาทิ ฟิลิปปินส์ กัมพูชา พม่า โดยในปีนี้ บริษัทฯได้วางแผนการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10 สาขา ซึ่งจะทำให้มีช่องทางจำหน่ายสินค้ารวมทั้งสิ้นกว่า 90 สาขา” นางสาวชัชฎากล่าว