ขสมก.จัดประชุมผู้ประกอบการรถร่วมบริการ เพื่อให้รับทราบข้อปฏิบัติการเข้าร่วมเดินรถตามแผนกำกับและดูแลรถร่วมบริการ พ.ศ.2550 ที่ ขสมก.จะประกาศใช้ใหม่ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรวมกลุ่มตั้งนิติบุคคลเพื่อเร่งปรับปรุงบริการ
วันนี้ (6 ก.ค.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้จัดประชุมผู้ประกอบการรถร่วมบริการกว่า 300 ราย ประกอบด้วยผู้ประกอบการ 4 กลุ่ม ทั้งรถร่วมบริการทั่วไป รถมินิบัส รถตู้โดยสาร และรถสองแถวแดง ที่ให้บริการในถนนสายรองหรือตามซอย โดยนายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า การเรียกประชุมผู้ประกอบการวันนี้ เพื่อให้รับทราบและร่วมแสดงความคิดเห็นต่อระเบียบการจัดการและแผนกำกับดูแลรถร่วมบริการ พ.ศ.2550 ที่ ขสมก. กำลังจะประกาศใช้ใหม่ ซึ่งแผนดังกล่าวจะส่งผลดีทั้งผู้ประกอบการเดินรถและประชาชนผู้ใช้บริการ โดยในส่วนของผู้ประกอบการสามารถรวมกลุ่มตั้งนิติบุคคลเพื่อเดินรถในแต่ละเส้นทาง โดย ขสมก. จะให้อายุสัญญาเข้าร่วมเดินรถไม่น้อยกว่า 15 ปี โดยจะช่วยให้ผู้ประกอบการนำสัญญาดังกล่าวไปค้ำประกันเงินกู้กับสถาบันการเงิน เพื่อจัดซื้อรถเอ็นจีวีมาวิ่งให้บริการ
ขณะที่ในส่วนของผู้โดยสารจะได้รับผลดี โดยรถร่วมบริการจะสามารถปรับปรุงบริการให้ดีขึ้น เนื่องจากการรวมตัวเป็นนิติบุคคลและจะต้องมีทุนจดทะเบียนตั้งแต่ 5-20 ล้านบาท ตามประเภทรถทั้ง 4 หมวด จะเป็นหลักประกันให้แก่ผู้โดยสารว่าเมื่อรถเหล่านี้ไปก่ออุบัติเหตุก็จะมีหลักประกันในการชดเชยค่าเสียหาย รวมทั้งจะเป็นการกำหนดให้รถสาธารณะเหล่านี้ทุกคันทำประกันภัยอย่างน้อยประกันภัยชั้น 3 เพื่อช่วยคุ้มครองผู้โดยสาร โดยขั้นตอนในการดำเนินการนั้นหากผู้ประกอบการรถร่วมบริการรายใดสนใจที่จะเข้าร่วมเดินรถตามแผนบริหารจัดการและกำกับดูแลรถร่วมบริการใหม่นี้จะต้องแจ้งขึ้นทะเบียนและยอมรับสภาพหนี้เงินค้างจ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้กับ ขสมก. หลังจากนั้น ขสมก. จะให้ระยะเวลาผ่อนผันชำระหนี้ที่มีอยู่เป็นเวลา 5 ปี ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการมีภาระในการจัดซื้อรถเอ็นจีวีในช่วง 2 ปีแรกมีรายได้นำส่งคืนเงินกู้ในการจัดหารถ
สำหรับแผนการบริหารจัดการกำกับดูแลรถร่วมบริการ พ.ศ.2550 นี้ ฝ่ายบริหาร ขสมก.จะเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับกิจการ ขสมก. ในการประชุมครั้งต่อไปสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้
วันนี้ (6 ก.ค.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้จัดประชุมผู้ประกอบการรถร่วมบริการกว่า 300 ราย ประกอบด้วยผู้ประกอบการ 4 กลุ่ม ทั้งรถร่วมบริการทั่วไป รถมินิบัส รถตู้โดยสาร และรถสองแถวแดง ที่ให้บริการในถนนสายรองหรือตามซอย โดยนายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า การเรียกประชุมผู้ประกอบการวันนี้ เพื่อให้รับทราบและร่วมแสดงความคิดเห็นต่อระเบียบการจัดการและแผนกำกับดูแลรถร่วมบริการ พ.ศ.2550 ที่ ขสมก. กำลังจะประกาศใช้ใหม่ ซึ่งแผนดังกล่าวจะส่งผลดีทั้งผู้ประกอบการเดินรถและประชาชนผู้ใช้บริการ โดยในส่วนของผู้ประกอบการสามารถรวมกลุ่มตั้งนิติบุคคลเพื่อเดินรถในแต่ละเส้นทาง โดย ขสมก. จะให้อายุสัญญาเข้าร่วมเดินรถไม่น้อยกว่า 15 ปี โดยจะช่วยให้ผู้ประกอบการนำสัญญาดังกล่าวไปค้ำประกันเงินกู้กับสถาบันการเงิน เพื่อจัดซื้อรถเอ็นจีวีมาวิ่งให้บริการ
ขณะที่ในส่วนของผู้โดยสารจะได้รับผลดี โดยรถร่วมบริการจะสามารถปรับปรุงบริการให้ดีขึ้น เนื่องจากการรวมตัวเป็นนิติบุคคลและจะต้องมีทุนจดทะเบียนตั้งแต่ 5-20 ล้านบาท ตามประเภทรถทั้ง 4 หมวด จะเป็นหลักประกันให้แก่ผู้โดยสารว่าเมื่อรถเหล่านี้ไปก่ออุบัติเหตุก็จะมีหลักประกันในการชดเชยค่าเสียหาย รวมทั้งจะเป็นการกำหนดให้รถสาธารณะเหล่านี้ทุกคันทำประกันภัยอย่างน้อยประกันภัยชั้น 3 เพื่อช่วยคุ้มครองผู้โดยสาร โดยขั้นตอนในการดำเนินการนั้นหากผู้ประกอบการรถร่วมบริการรายใดสนใจที่จะเข้าร่วมเดินรถตามแผนบริหารจัดการและกำกับดูแลรถร่วมบริการใหม่นี้จะต้องแจ้งขึ้นทะเบียนและยอมรับสภาพหนี้เงินค้างจ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้กับ ขสมก. หลังจากนั้น ขสมก. จะให้ระยะเวลาผ่อนผันชำระหนี้ที่มีอยู่เป็นเวลา 5 ปี ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการมีภาระในการจัดซื้อรถเอ็นจีวีในช่วง 2 ปีแรกมีรายได้นำส่งคืนเงินกู้ในการจัดหารถ
สำหรับแผนการบริหารจัดการกำกับดูแลรถร่วมบริการ พ.ศ.2550 นี้ ฝ่ายบริหาร ขสมก.จะเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับกิจการ ขสมก. ในการประชุมครั้งต่อไปสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้