xs
xsm
sm
md
lg

สหพัฒน์ฯคว้าสิทธิ์ขายจักรเอลน่า แยกทีมขายหวั่นทับซ้อน“จาโนเม่”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“วีน” หน้าบาน เหตุ “จาโนเม่ กรุ๊ป” วางใจให้ขายจักรเย็บผ้า “เอลน่า” อีกแบรนด์ หลังประสบความสำเร็จคว้ายอดขายจักรเย็บผ้า “จาโนเม่” ไปกว่า 5 พันตัวในปี 49 เร่งวางยุทธศาสตร์เจาะลูกค้าคนละกลุ่มกัน แยกทีมขายคนละทีม มั่นใจสิ้นปีผลักยอดขายเอลน่าได้กว่า 2,000 ตัว ส่วนจาโนเม่ขยับขึ้นอีก 10%

นางสาวศิริวรรณ วิลาสศักดานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีน จำกัด ในเครือสหกรุ๊ป ผู้แทนจำหน่ายจักรเย็บผ้า “จาโนเม่” จากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า จากเดิมที่บริษัทฯเป็นผู้แทนจำหน่ายจักรเย็บผ้าแบรนด์ “จาโนเม่” จากบริษัท จาโนเม่ กรุ๊ป มากว่า 8 ปี ในปีนี้ทางบริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากจาโนเม่ กรุ๊ป อีกครั้ง ให้เป็นผู้แทนจำหน่ายจักรเย็บผ้า เอลน่า (Elna) เพียงผู้เดียวในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ หลังจากที่จาโนเม่ กรุ๊ป ได้ทำการซื้อกิจการของเอลน่า จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ไม่นานมานี้

“ที่ผ่านมา แบรนด์เอลน่าและจาโนเม่ ถือเป็นแบรนด์จักรเย็บผ้าที่คนไทยให้ความสนใจมากพอๆกัน แต่หลังจากบริษัทฯได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แทนจำหน่ายจักรเย็บผ้าแบรนด์ เอลน่า ครั้งนี้ มองว่าจากเดิมที่เป็นคู่แข่งกัน ต่อไปจะเป็นแบรนด์ที่ส่งเสริมกันในการสร้างรายได้ต่อไป โดยใช้ทีมขายคนละทีมในการขาย”

เนื่องจากบริษัทฯเตรียมวางกลยุทธ์ทางการตลาดสำหรับแบรนด์เอลน่าไว้แตกต่างจากจาโนเม่ โดยจะเป็นการจับกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม ระดับราคาตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป แต่ทางบริษัทฯจะเลือกทำตลาดในรุ่นที่มีราคาอยู่ในช่วง 4-5 หมื่นบาทเป็นหลัก เบื้องต้นจะมีจำหน่ายทั้งหมด 5 รุ่น โดย 2 รุ่นจะเป็นการผลิตในประเทศ ภายใต้สวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ที่โรงงานเดียวกันกับจักรเย็บผ้าจาโนเม่ ที่ทางเครือสหพัฒน์ถือหุ้นอยู่

“กลุ่มเป้าหมายของจักรเย็บผ้าเอลน่า จะเป็นกลุ่มพรีเมียม ที่ชื่นชอบในเรื่องของงานปักลายต่างๆสไตล์ยุโรป ส่วนจาโนเม่ จะเป็นลูกค้าทั่วไป ที่มุ่งเน้นทางด้านการตัดเย็บเป็นหลัก ดังนั้นจึงเชื่อว่าการวางกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันนี้ จะช่วยขยายฐานกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น จากเดิมเอลน่าจะเปรียบเสมือนคู่แข่ง”

สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดในการนำเอลน่าเข้าสู่ตลาดครั้งนี้ คาดว่าจะใช้งบประมาณทางการตลาดมากกว่าจาโนเม่ 1 เท่าตัว หรือประมาณ 2 ล้านบาท โดยจะมุ่งเน้นบริการหลังการขายและบริการเสริมต่างๆ เช่น จะมีการทำโรงเรียนไว้สอนลูกค้าเกี่ยวกับการปักลายต่างๆ มั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะต้องมียอดขายของเอลน่าประมาณ 1,000-2,000 ตัว

ส่วนจาโนเม่ ปีนี้ใช้งบการตลาด 1 ล้านบาท มุ่งทำการตลาดในลักษณะบีโลว์เดอะไลน์เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น การจัดอบรมอาจารย์ รวมไปถึงจัดดิสเพลย์สาธิตการใช้งาน ผ่านช่องทางจำหน่ายต่างๆ เช่น เซ็นทรัลทุกสาขา โรบินสัน ตั้งฮั่วเส็ง และร้านขายส่ง 30-40 รายทั่วประเทศ รวมไปถึงศูนย์บริการอีก 20 แห่ง ที่บริษัทฯดูแลอยู่

นางสาวศิริวรรณ กล่าวต่อว่า จากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีนี้ ได้ส่งผลให้ตลาดเครื่องจักรเย็บผ้าดูเหมือนจะไม่เติบโตเท่าที่ควร เพราะผู้บริโภคจะใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯต้องหันมาให้ความสำคัญกับการขายผ่านระบบเงินผ่อนอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้นในปีนี้ โดยได้ร่วมกับสถาบันการเงินต่างๆ เช่น อิออน, เฟิร์ทสชอยส์ ในการให้บริการลูกค้าที่ต้องการซื้อผ่านระบบเงินผ่อน

นอกจากนี้บริษัทฯจึงต้องมองหากลุ่มเป้าหมายใหม่ๆอีก เช่น กลุ่มสถานศึกษาหรือนักศึกษาที่สนใจทางด้านแฟชั่นดีไซน์ โดยบริษัทฯได้ร่วมกับสถาบันแฟชั่นหลายแห่ง สำหรับจัดโปรแกรมการขายพิเศษ สำหรับนักศึกษา คาดว่าจะช่วยเสริมให้จักรเย็บผ้าจาโนเม่มียอดขายเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาอีกอย่างน้อย 10% จาก 5,000 ตัวในปีที่ผ่านมา

ปัจจุบันตลาดรวมจักรเย็บผ้าแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ 1. ตลาดรวมจักรเย็บผ้าครัวเรือน มีความต้องการอยู่ที่ 12,000 ตัวต่อปี ซึ่งจาโนเม่ เป็นผู้นำในตลาดกลุ่มนี้ ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 50% 2. ตลาดรวมจักรเย็บผ้าอุตสาหกรรม ที่คาดว่าตลาดน่าจะมีความต้องการต่อปีอยู่ในระดับแสนตัวขึ้นไป
กำลังโหลดความคิดเห็น