xs
xsm
sm
md
lg

ช่อง 3 สวดยับเรตติ้งรายการใหม่ทำวุ่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ช่อง 3 หวั่นจัดเรตติ้งรายการ ประเภท น. ไว้หลัง 2 ทุ่ม มองเห็นผลเสียมากกว่าดี คาดกระทบเชิงธุรกิจมาก ส่วนสื่อทีวี 5 เดือนที่ผ่านมาติดลบในรอบหลายปี แต่ช่อง3ยังดีอยู่โต 8.4%  เหตุมีรายการที่ได้รับความนิยมหลายรายการ

นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ในเครือกลุ่มบริษัท บีอีซีเวิลด์ เปิดเผยว่า ตามที่ภาครัฐกำหนดให้สื่อโทรทัศน์ ต้องนำรายการที่มีเรตติ้งประเภท น. ที่ออกอากาศอยู่ในระหว่างเวลา 13.00น.-16.00น. ให้ไปออกอากาศหลัง 20.00 น. เป็นต้นไปนั้น ในภาคปฏิบัติแล้ว มองว่าทำได้ยาก เพราะบางรายการมีเนื้อหาเพียงบางส่วนที่จัดอยู่ในประเภท น. จริง แต่เมื่อดูในภาพรวมแล้วรายการนั้นอาจจะจัดอยู่ในประเภท ท. ก็เป็นได้

อีกทั้งในแง่ของคนดู ช่วงระหว่างเวลาดังกล่าว ส่วนใหญ่กว่า 90% อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป และในจำนวน 90% นี้ กลุ่มคนดูมากที่สุด คือ ช่วงอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ในกลุ่มแม่บ้านและเกษียณอายุราชการ ซึ่งมีเพียง 10-14% เท่านั้นที่เป็นกลุ่มเด็ก และส่วนใหญ่เป็นเด็กในต่างจังหวัดมากกว่าในกรุงเทพฯ ที่มานั่งดูรายการต่างๆในช่วงเวลาดังกล่าว

หากจะต้องนำรายการที่มีเรตติ้งประเภท น. ที่ออกอากาศช่วง 13.00-16.00น. ไปอยู่หลัง 20.00น.เป็นต้นไป แล้วต้องมาผลิตรายการที่มีเนื้อหาสาระจัดอยู่ในประเภท ท แทน ในเชิงธุรกิจ อาจจะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เพราะจะกลายเป็นรายการที่ไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ส่งผลให้เอเจนซี่อาจจะลงโฆษณาในช่วงดังกล่าวลดน้อยลง

“ช่วงเวลาระหว่าง 13.00-16.00น. ของทางช่อง 3 ส่วนใหญ่ จะเป็นการรีรันรายการมากกว่า เช่น ละครก่อนบ่าย ละครจีน ละครเหตุเกิดในครอบครัว ถึงแม้จะต้องปรับรายการใหม่จริง ในแง่รายได้จากเม็ดเงินโฆษณาอาจจะไม่กระทบมากนัก เพราะช่วงเวลาดังกล่าวสร้างรายได้ให้บริษัทฯค่อนข้างน้อย แต่บริษัทฯห่วงเรื่องของกลุ่มผู้จัด และเอเจนซี่โฆษณา ที่จะต้องนำรายการมาลงเวลาดังกล่าวที่มีเนื้อหาประเภท ท หรือรองรับสำหรับกลุ่มเด็กนั้น แต่ในความเป็นจริงคนดูส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไป และเป็นกลุ่มแม่บ้าน เชิงธุรกิจมองว่าอาจจะได้รับผลกระทบ”

ช่วงเวลาที่น่าจะได้รับผลกระทบมากสุดจะเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 –19.00น. เพราะคนดูเริ่มดูทีวีมากขึ้น ตามข้อมูลจาก เอ.ซี นีลสัน มีจำนวนถึง 8-9 ล้านคน ทั่วประเทศ และมากที่สุดอยู่ที่ 15 ล้านบาท ช่วง 19.00-20.00น.  ขณะที่รายได้กว่า 50% ของช่อง 3 มาจากช่วงเวลา 20.00-22.00น. ดังนั้นแทนที่จะมีการกำหนดเรตติ้งรายการในช่วงเวลาดังกล่าว น่าจะส่งเสริมหรือสอนให้เด็กได้รู้ว่าสื่อไหนควรดูหรือไม่ควรดูมากกว่า

สำหรับช่อง 3 ยังไม่เปลี่ยนแปลงผังรายการขณะนี้ เนื่องจากข้อบังคับดังกล่าวยังอยู่ในช่วงที่ต้องการให้แต่ละสถานีร่วมตั้งข้อสังเกตว่า จะมีผลดีละผลเสียอย่างไร  โดยให้นำข้อมูลดังกล่าวรวบรวมเพื่อนำไปหาข้อสรุปต่อไปร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม หากข้อบังคับนี้เกิดขึ้นจริง ทางช่อง 3 ก็พร้อมที่จะดำเนินการ เพราะตามแผนของช่อง 3 เอง ได้ให้ความสำคัญในการผลิตรายการเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนอยู่แล้ว แต่หลังจากนี้ต้องวางแผนให้ดีว่าจะผลิตรายการออกมาในรูปแบบใด เพื่อให้ได้รับความนิยมในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะที่คนดูส่วนใหญ่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของรายการ

นายสุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า มีความเป็นไปได้ว่า หากมีการจัดเรตติ้งครั้งนี้ อาจจะทำให้เอเจนซี่โฆษณา ต้องการลงโฆษณาในช่วงหลัง 20.00น. มากขึ้น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง ก็ถือเป็นผลดีของสถานีแต่ละช่องไป เนื่องจากเวลาในการลงโฆษณาเรายังคงเดิม แต่มีความต้องการมากขึ้นแบบนี้ ก็อาจจะส่งผลให้เกิดการขึ้นราคาค่าโฆษณาได้ ถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะสามารถชดเชยรายได้ที่จะสูญเสียไประหว่างเวลา 13.00-16.00น.แทน

สำหรับรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ยังคงมีเรตติ้งกว่า 50% ถึงแม้จะขาดผู้ดำเนินรายการไปหนึ่งคน ส่วยการปรับผังรายการของช่อง3 ยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง ล่าสุดในเดือนกรกฎาคมนี้ จะมีรายการใหม่เข้ามาอย่างน้อยอีก 2 รายการ เป็นประเภทวาไรตี้และรายการเพลง

สื่อทีวีติดลบในรอบหลายปี
จากสภาพเศรษฐกิจและการเมืองที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ 5 เดือนที่ผ่านมา อุตสาหกรรมสื่อโทรทัศน์ มีอัตราการเติบโตติดลบ 1.4% ในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยแต่ละสถานีส่วนใหญ่ต่างมีรายได้ติดลบเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะช่อง 9 และ ทีไอทีวี ส่วนช่อง 3 นั้น มีอัตราการเติบโตมากสุด ประมาณ 8.4%

โดยปกติ อุตสาหกรรมสื่อโทรทัศน์ จะโตมากสุดในเดือน เม.ย.-มิ.ย. แต่สำหรับปีนี้ค่อนข้างแย่  ซึ่งเป็นปีแรกที่อุตสาหกรรมสื่อโทรทัศน์เติบโตน้อยกว่า อุตสาหกรรมโฆษณาเป็นปีแรก เพราะปกติโฆษณาจะโตตามโทรทัศน์มาตลอด

ทั้งนี้มองว่าครึ่งปีหลังนี้น่าจะมีการเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นจริงในเดือนก.ค.ที่จะถึงนี้ เพราะจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในภาคเอกชนในการลงทุนต่างๆ และจะทำให้ตลาดโฆษณาเติบโตตามไปด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น