ส.การค้าส่ง-ปลีกไทย ชี้ระบบการค้าโมเดิร์นเทรดยันโชวห่วยวิกฤติหนัก ยอดขายวูบสินค้าค้างสต๊อกอื้อ ล่าสุดโมเดิร์นเทรดปรับตัวหั่นราคาสินค้าขายส่ง 10% ตัดหน้าซัปพลายเออร์ หวังเร่งระบายสต็อก ยี่ปั๊ว-ซาปั๊วแห่ซื้อมาขายปลีกฟันกำไรเพิ่ม พร้อมปรับตัวลดสต๊อก สั่งซื้อสินค้าท็อปทู ผู้นำตลาดจำหน่าย ด้านส.การค้าส่ง-ปลีกไทย ชะลอทำกิจกรรมหวั่นใช้งบสูญเปล่า
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าส่ง-ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า จากที่ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยหดตัวลง ผู้บริโภคระดับกลางมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ขณะที่กำลังซื้อระดับรากหญ้าไม่มี ทำให้ขณะนี้กลุ่มโมเดิร์นเทรดได้รับผลกระทบอย่างมาก กระทั่งมีสินค้าล้นสต๊อกเป็นจำนวนมาก ล่าสุดกลุ่มโมเดิร์นเทรดนำสินค้าจากซัปพลายเออร์มาจำหน่ายในราคาส่งโดยลดราคา 10% เพื่อเป็นการระบายสตีอกสินค้า ขณะเดียวกันเป็นการเร่งสร้างยอดขายให้เข้าไป ซึ่งมีกลุ่มยี่ปั๊ว-ซาปั๊วหันมาซื้อสินค้าจากโมเดิร์นเทรดแทนที่จะซื้อจากซัปพลายเออร์มากขึ้น
“ขณะนี้ซัปพลายเออร์จะเป็นผู้ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็น การถูกเก็บค่าแรกเข้าจากโมเดิร์นเทรดที่เพิ่มขึ้น หรือในทางอ้อมที่โดนโมเดิร์นเทรดจำหน่ายสินค้าราคาส่งตัดราคา อีกทั้งยังต้องเสียงบการทำโปรโมชันเป็นจำนวนมาก ทั้งในส่วนของโมเดิร์นเทรด เพื่อกระตุ้นการซื้อ ณ จุดขาย หรือการทำเทรดโปรโมชันให้กับยี่ปั๊ว-ซาปั๊วเพื่อเชียร์สินค้า ผมว่าซัปพลายเออร์ใช้อย่างเต็มที่แล้ว คงไม่มีรายใดทำอะไรไปมากกว่านี้”
สำหรับภาพรวมของการค้าส่ง-ปลีกไทย ได้รับผลกระทบจากภาวะการเมืองที่ไม่นิ่ง และสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมาแล้ว ยอดขายลดลงอย่างต่อเนื่องกระทั่งอยู่ในภาวะทรงตัวแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นสถานการณ์ที่วิกฤติหนักเมื่อเทียบกับปี 2540 สำหรับยอดขายในช่วง 6 เดือนของยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว คาดว่าอยู่ในภาวะทรงตัว อย่างไรก็ตาม หากในครึ่งปีหลังการเมืองยังไม่มีความชัดเจน ไม่มีการเลือกตั้ง มีกระแสข่าวลือด้านลบต่างๆ นานา คาดว่าภาพรวมการค้าส่ง-ปลีกไทยจะได้รับผลกระทบมากยิ่งขึ้น
“ท่ามกลางที่มีปัจจัยลบมากมาย แต่ยังมีปัจจัยบวกที่เอื้อให้ยี่ปั๊ว-ซาปั๊วยังมีข้อได้เปรียบโมเดิร์นเทรด จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาซื้อสินค้าใกล้บ้านแทนที่จะไปซื้อโมเดิร์นเทรด โดยขณะนี้โมเดิร์นเทรดอัดโปรโมชันอย่างหนัก เพื่อสร้างยอดขาย แต่ในทางกลับกันแสดงให้เห็นว่าขณะที่มีการลดราคาอย่างมาก แต่โมเดิร์นเทรดเหล่านี้ยังมีกำไรอยู่”
ปรับตัวซื้อท็อปทูขายเพื่อลดสต๊อก
นายสมชาย กล่าวถึงการปรับตัวของยี่ปั๊ว-ซาปั๊วว่า ขณะนี้ร้านค้าเริ่มสั่งซื้อสินค้าระดับแค่ท็อปทูหรือสินค้าเป็นที่แบรนด์อันดับหนึ่งหรือสองเข้ามาทำตลาดเท่านั้น จากเดิมยี่ปั๊ว-ซาปั๊วจะสั่งซื้อสินค้าในระดับท็อปทรีมาจำหน่าย และในบางกลุ่มสินค้า อาจจะมีการสั่งซื้อสินค้าที่เป็นอันดับหนึ่งของตลาดเท่านั้น ทั้งนี้การปรับตัวดังกล่าว เพื่อเป็นการบริหารสต๊อกสินค้าให้มีอยู่อย่างจำกัด แม้ว่าภายในร้านค้าจะขาดความหลากหลายไป แต่ในภาวะอย่างนี้ยอมเลือกแบรนด์ที่ขายได้คล่องจำหน่ายได้เท่านั้น
สมาคมฯชะลอจัดกิจกรรมบูมโชวห่วย
สำหรับการเคลื่อนไหวของสมาคมการค้าส่งและปลีกไทย หลังจากมีการจัดทำเพลงปลูกจิตสำนึกร้านค้าคนไทย 2 เพลง จัดทำบรรจุภัณฑ์ใส่สินค้าภายใต้ชื่อพลังการค้าไทย โดยมีตราสัญลักษณ์เป็นรูปนก 2 ตัว ทั้งนี้เพื่อสร้างความเป็นเอกภาพของผู้ประกอบการค้าส่งและค้าปลีกไทย รวมทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย โดยจะทำรายการสินค้าเดียวกับของโมเดิร์นเทรดที่ทำโปรโมชัน โดยจะเลือกเพียง 1 รายการ แต่ของทางสมาคมฯ จะมีราคาถูกกว่า 1 บาท จะเริ่มหลังจากที่โมเดิร์นเทรดออกโฆษณาลดราคาสินค้า 1 วัน ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค แต่สำหรับแผนความร่วมมือจากสมาชิก 70 ราย ขณะนี้คงต้องชะลอไปก่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัว การทำกิจกรรมหรือประชาสัมพันธ์ไม่ได้ช่วยกระตุ้นอารมณ์สภาพจิตใจของผู้บริโภคให้หันมาจับจ่ายใช้สอยมากนัก
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าส่ง-ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า จากที่ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยหดตัวลง ผู้บริโภคระดับกลางมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ขณะที่กำลังซื้อระดับรากหญ้าไม่มี ทำให้ขณะนี้กลุ่มโมเดิร์นเทรดได้รับผลกระทบอย่างมาก กระทั่งมีสินค้าล้นสต๊อกเป็นจำนวนมาก ล่าสุดกลุ่มโมเดิร์นเทรดนำสินค้าจากซัปพลายเออร์มาจำหน่ายในราคาส่งโดยลดราคา 10% เพื่อเป็นการระบายสตีอกสินค้า ขณะเดียวกันเป็นการเร่งสร้างยอดขายให้เข้าไป ซึ่งมีกลุ่มยี่ปั๊ว-ซาปั๊วหันมาซื้อสินค้าจากโมเดิร์นเทรดแทนที่จะซื้อจากซัปพลายเออร์มากขึ้น
“ขณะนี้ซัปพลายเออร์จะเป็นผู้ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็น การถูกเก็บค่าแรกเข้าจากโมเดิร์นเทรดที่เพิ่มขึ้น หรือในทางอ้อมที่โดนโมเดิร์นเทรดจำหน่ายสินค้าราคาส่งตัดราคา อีกทั้งยังต้องเสียงบการทำโปรโมชันเป็นจำนวนมาก ทั้งในส่วนของโมเดิร์นเทรด เพื่อกระตุ้นการซื้อ ณ จุดขาย หรือการทำเทรดโปรโมชันให้กับยี่ปั๊ว-ซาปั๊วเพื่อเชียร์สินค้า ผมว่าซัปพลายเออร์ใช้อย่างเต็มที่แล้ว คงไม่มีรายใดทำอะไรไปมากกว่านี้”
สำหรับภาพรวมของการค้าส่ง-ปลีกไทย ได้รับผลกระทบจากภาวะการเมืองที่ไม่นิ่ง และสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมาแล้ว ยอดขายลดลงอย่างต่อเนื่องกระทั่งอยู่ในภาวะทรงตัวแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นสถานการณ์ที่วิกฤติหนักเมื่อเทียบกับปี 2540 สำหรับยอดขายในช่วง 6 เดือนของยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว คาดว่าอยู่ในภาวะทรงตัว อย่างไรก็ตาม หากในครึ่งปีหลังการเมืองยังไม่มีความชัดเจน ไม่มีการเลือกตั้ง มีกระแสข่าวลือด้านลบต่างๆ นานา คาดว่าภาพรวมการค้าส่ง-ปลีกไทยจะได้รับผลกระทบมากยิ่งขึ้น
“ท่ามกลางที่มีปัจจัยลบมากมาย แต่ยังมีปัจจัยบวกที่เอื้อให้ยี่ปั๊ว-ซาปั๊วยังมีข้อได้เปรียบโมเดิร์นเทรด จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาซื้อสินค้าใกล้บ้านแทนที่จะไปซื้อโมเดิร์นเทรด โดยขณะนี้โมเดิร์นเทรดอัดโปรโมชันอย่างหนัก เพื่อสร้างยอดขาย แต่ในทางกลับกันแสดงให้เห็นว่าขณะที่มีการลดราคาอย่างมาก แต่โมเดิร์นเทรดเหล่านี้ยังมีกำไรอยู่”
ปรับตัวซื้อท็อปทูขายเพื่อลดสต๊อก
นายสมชาย กล่าวถึงการปรับตัวของยี่ปั๊ว-ซาปั๊วว่า ขณะนี้ร้านค้าเริ่มสั่งซื้อสินค้าระดับแค่ท็อปทูหรือสินค้าเป็นที่แบรนด์อันดับหนึ่งหรือสองเข้ามาทำตลาดเท่านั้น จากเดิมยี่ปั๊ว-ซาปั๊วจะสั่งซื้อสินค้าในระดับท็อปทรีมาจำหน่าย และในบางกลุ่มสินค้า อาจจะมีการสั่งซื้อสินค้าที่เป็นอันดับหนึ่งของตลาดเท่านั้น ทั้งนี้การปรับตัวดังกล่าว เพื่อเป็นการบริหารสต๊อกสินค้าให้มีอยู่อย่างจำกัด แม้ว่าภายในร้านค้าจะขาดความหลากหลายไป แต่ในภาวะอย่างนี้ยอมเลือกแบรนด์ที่ขายได้คล่องจำหน่ายได้เท่านั้น
สมาคมฯชะลอจัดกิจกรรมบูมโชวห่วย
สำหรับการเคลื่อนไหวของสมาคมการค้าส่งและปลีกไทย หลังจากมีการจัดทำเพลงปลูกจิตสำนึกร้านค้าคนไทย 2 เพลง จัดทำบรรจุภัณฑ์ใส่สินค้าภายใต้ชื่อพลังการค้าไทย โดยมีตราสัญลักษณ์เป็นรูปนก 2 ตัว ทั้งนี้เพื่อสร้างความเป็นเอกภาพของผู้ประกอบการค้าส่งและค้าปลีกไทย รวมทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย โดยจะทำรายการสินค้าเดียวกับของโมเดิร์นเทรดที่ทำโปรโมชัน โดยจะเลือกเพียง 1 รายการ แต่ของทางสมาคมฯ จะมีราคาถูกกว่า 1 บาท จะเริ่มหลังจากที่โมเดิร์นเทรดออกโฆษณาลดราคาสินค้า 1 วัน ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค แต่สำหรับแผนความร่วมมือจากสมาชิก 70 ราย ขณะนี้คงต้องชะลอไปก่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัว การทำกิจกรรมหรือประชาสัมพันธ์ไม่ได้ช่วยกระตุ้นอารมณ์สภาพจิตใจของผู้บริโภคให้หันมาจับจ่ายใช้สอยมากนัก