xs
xsm
sm
md
lg

ปัญหา 2 สนามบิน-ขาดเที่ยวบินตรง เรื่องด่วนที่ต้องแก้ไข หากไทยต้องการรายได้จากการท่องเที่ยว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ต้องขอชม ททท. ถึงการจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย และงาน ไทยแลนด์ ทราเวล มาร์ท พลัส 2007 หรือ งานTTM Plus 2007 ถือเป็นความสำเร็จของ ททท.อีกขั้นหนึ่งในการจัดงานขนาดใหญ่ โดยไม่ใช้บริษัทออกาไนซ์ และใช้งบประมาณเพียง 58 ล้านบาทจัดได้ถึง 2 งาน หากเมื่อเปรียบเทียบกับหลายงานที่ผ่านๆมาในรูปแบบเดียวกัน จะใช้งบไม่น้อยกว่า 30-50 ล้านบาทต่องาน หรืออาจถึงหลักร้อยล้านบาท หากเป็นอีเว้นต์ใหญ่ๆ อย่างเทศกาลสงกรานต์

หากพูดถึงผลการจัดงาน ซึ่งต้องแบ่งให้ชัดเจน เพราะงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย คือ งานคอนซูเมอร์แฟร์ ที่จัดให้แก่คนไทย ได้มาเดินชมและเลือกซื้อสินค้าทางการท่องเที่ยว อาทิ แพกเกจทัวร์ โรงแรม ที่พัก ตลอดจนสายการบิน  ซึ่งพร้อมใจกันมาออกบูทกว่า 300 ราย มอบส่วนลดและเงื่อนไขพิเศษให้มากมาย กระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซั่นปีนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งททท.คาดหวังว่าจะมีเงินสะพัดของคนไทยที่เข้ามาชอปปิ้งในงานนี้ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท ขณะที่ผู้ประกอบการที่มาร่วมออกบูทเองต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มีผู้คนให้ความสนใจมาเดินเลือกซื้อแพกเกจทัวร์กันเกินกว่าที่คาดคิด ช่วยให้งานคึกคักตั้งแต่วันแรกของการจัดงาน

อย่างไรก็ตามแนวคิด ของ ผู้ว่าการ ททท. นางพรศิริ มโนหาญ  ที่นำการแสดง 4 ภาคของประเทศไทย คือเหนือ กลาง อีสาน และใต้ มาจัดแสดงประเพณี วัฒนธรรม โดยมีการละเล่นต่างๆ มาร่วมแสดงตลอด 4 วัน ของการจัดงาน ช่วยให้ผู้เข้ามาเดินงาน มีกิจกรรมให้ชมมากขึ้น เกิดความสนุกสนาน และจะโยงไปถึงการสร้างอารมณ์ให้เกิดอยากเดินทางท่องเที่ยวไปชมการละเล่นของจริงในช่วงที่เป็นเทศกาลงานบุญของจังหวัดนั้นจริงๆก็เป็นได้

สำหรับงาน TTM Puls 2007 ที่จัดอยู่ข้างๆ กัน แม้บรรยากาศจะแตกต่างกันบ้าง โดยงานจะดูขรึมกว่า เนื่องจากเป็นงานเทรด คือ การเชิญผู้ซื้อมาพบผู้ขาย เพื่อเจรจาและตกลงกันทางด้านการค้า และธุรกิจ ซึ่งปีนี้ ททท.ได้เชิญผู้ซื้อจากตลาดใหม่ๆ เข้ามาอย่าง สเปน  และตะวันออกกลาง เป็นต้น  ส่วนหนึ่งก็เพื่อต้องการให้ตลาดใหม่ๆ เหล่านี้ เข้ามาทดแทน หรือเสริม ตลาดที่หดหายไปในกลุ่มประเทศเอเชีย อันเนื่องมาจากสถานการณ์ทางการเมืองของไทย ซึ่งบายเออร์จะพูดไปในแนวทางเดียวกันว่า ต้อง ให้เวลา และสถานการณ์เป็นเครื่องตัดสิน เพราะหากประเทศไทยไม่เกิดเหตุร้าย ตลาดนี้ก็จะกลับมาเอง แต่ในส่วนของตลาดยุโรป ก็ยังคงนิยมเดินทางเข้ามาพักผ่อนที่ประเทศไทย

เสียงสะท้อนของบายเออร์ หรือผู้ซื้อที่มาจากหลายประเทศทั่วโลกกว่า 500 ราย ส่วนใหญ่จะกล่าวถึงปัญหาการจัดการสนามบิน และ ปัญหาเที่ยวบินตรง  โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระยะไกลที่เป็นตลาดหลัก อย่าง ยุโรป เยอรมัน รัสเซีย และกลุ่มสแกนดิเนเวีย กล่าวคือ ผู้ซื้อซึ่งในที่นี้คือบริษัทนำเที่ยว ต่างให้ความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า การมี 2 สนามบิน ของประเทศคือ สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง เป็นเรื่องที่ดี และหลายประเทศในโลกนี้ก็เป็นเช่นนี้ แต่สิ่งที่รัฐบาลไทยต้องทำให้อย่างเร่งด่วนคือ  การจัดการในระบบเส้นทางคมนาคมขนส่งที่วิ่งระหว่าง 2 สนามบินดังกล่าวให้รวดเร็วขึ้น  เพราะปัจจุบันนักท่องเที่ยวต้องเสียเวลาในการต่อเครื่องเป็นเวลานาน เกือบทั้งวันสูญเสียเวลาที่เขาจะท่องเที่ยวอย่างมีความสุข หรือไม่ก็ควรจัดสรรให้มีเส้นทางบินตรงจากต่างประเทศมาลงยังแหล่งท่องเที่ยวได้เลย เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย เป็นต้น

ทั้งนี้มีรายงานระบุว่า ปัจจุบันการมีสองสนามบินของประเทศไทย แต่ขาดเรื่องระบบการขนส่งที่ดี ได้ส่งผลกระทบไปถึงธุรกิจแอร์คาร์โก้แล้ว เพราะสินค้าประเภทอาหารสด จากภูมิภาคอินโดจีน จะใช้ไทยเป็นฮับในการส่งต่อสินค้าจากประเทศตัวเอง ส่งไปยังประเทศลูกค้าที่สั่งซื้อทั่วโลก แต่การที่ต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนเครื่องนาน เพราะสินค้าสดที่ส่งผ่านชายแดนไทยเพื่อขึ้นเครื่องบินภายในประเทศมาต่อเครื่องบินในเส้นทางต่างประเทศใช้เวลานานของสดก็เน่าเสียหาย หากไม่รีบแก้ไขธุรกิจคาร์โก้ของไทยอาจต้องเสียประโยชน์ไปให้ประเทศคู่แข่งอย่างสิงคโปร์ก็เป็นได้

นอกจากนั้น  บายเออร์หลายราย  ทั้งจากประเทศออสเตรเลีย เยอรมัน และ กลุ่มสแกน ต่างยอมรับว่า ประเทศเวียดนาม เป็นอีกหนึ่งเดสติเนชั่นที่มีการเติบโตด้านการท่องเที่ยวสูงมาก จำนวนนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวมีจำนวนมากขึ้น ตรงนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลไทย และ ททท.ไม่ควรที่จะมองข้ามหรือประมาท  แม้ว่าหากมองถึงจำนวนนักท่องเที่ยวของไทยเทียบกับเวียดนาม ยังคงอีกหลายปีที่เวียดนามจะตามไทยได้ แต่หากเราไม่เร่งถีบตัวหนีเขาก็จะตามเราทันได้เร็วขึ้น

จากแนวคิดของ ททท. ที่ว่า การขายเดสติเนชั่นลุ่มแม่น้ำโขง ไทย ลาว กัมพูชา และพม่าจะช่วยให้การท่องเที่ยวของประเทศไทยขยายตัวมากขึ้นก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะในสถานการณ์เช่นนี้ เราก็ควรมีแนวคิดที่ว่า ให้นักท่องเที่ยวมาบ้านเราบ้าง และแวะไปเที่ยวประเทศอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียงเราบ้าง แม้จะทำให้วันพักของนักท่องเที่ยวในประเทศไทยลดลง ของการเที่ยวในแต่ละครั้ง ก็ยังดีกว่าที่เขาจะไม่แวะเข้ามาเที่ยวประเทศไทยเสียเลย ดังนั้นสิ่งที่เราต้องพัฒนาต่อเนื่อง คงจะหนีไม่พ้นด้านบริการ และกิจกรรมเสริมให้เป็นจุดต่างที่หาไม่ได้ในประเทศเพื่อนบ้านของเรา  เช่น สปา กอล์ฟ บริการด้านการแพทย์และสุขภาพ ตลอดจนมิตรภาพ และคุณภาพด้านบุคลากร และสิ่งสำคัญต้องเป็นการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนตามแนวนโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบัน
กำลังโหลดความคิดเห็น