xs
xsm
sm
md
lg

“บรรณวิทย์” ลั่น! โครงการแอร์พอร์ตลิงก์ต้องไม่เสียค่าโง่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“บรรณวิทย์ เก่งเรียน” ระบุโครงการแอร์พอร์ตลิงก์หากต่อสัญญาแล้วเสียค่าโง่ก็ไม่ต่อสัญญากับเอกชน แต่จะหาคนผิดที่สั่งให้ รฟท.ทำสัญญามารับผิดชอบให้ได้ ส่วนการเช่าที่ของเซ็นทรัลที่จะหมดสัญญาลงในเดือนธันวาคม 2551 จะต้องเปิดประกวดราคาใหม่เท่านั้น ส่วนปัญหาการบุกรุกที่ดินในจังหวัดบุรีรัมย์ก็จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า

พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ว่า การเดินทางมา รฟท. นับเป็นการทำงานในรูปลักษณ์ใหม่ที่ รฟท. สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ รฟท. และคณะกรรมาธิการฯ จะทำงานร่วมกัน โดยมีเป้าหมายให้ รฟท.ได้ประโยชน์สูงสุด

พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวว่า โครงการที่กำลังจะมีปัญหาขึ้นมาคือ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าที่เรียกว่า Airport Rail Link ที่มีข่าวว่าจะมีการต่อสัญญานั้น เรื่องนี้ อาจต้องทำให้ รฟท.ต้องเสียค่าโง่ให้กับเอกชนผู้รับเหมาก่อสร้างได้ ซึ่งเมื่อพิจารณาจากข้อมูลที่มีอยู่แล้ว พบว่าปัญหาที่เกิดขึ้น น่าจะเป็นความผิดที่เกิดจากนักการเมืองในอดีตได้สั่งการให้ทำโครงการนี้ขึ้นมาโดยที่ รฟท.ไม่พร้อม ซึ่งเรื่องนี้ จะได้ให้ทางฝ่ายกฎหมายทั้งของคณะกรรมาธิการฯ และฝ่ายกฎหมายของ รฟท.ทำงานร่วมกันเพื่อหาผู้กระทำผิดมารับผิดชอบ เพราะทราบอยู่แล้วว่า การทำสัญญาจ้างให้เอกชนก่อสร้างโครงการ โดยมีกำหนดให้ รฟท. ต้องส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนผู้รับเหมาก่อสร้างภายใน 90 วัน ทำไม่ได้อยู่แล้ว แต่ก็ยังมีการทำสัญญา

พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวว่า โครงการ Airport Rail Link หาก รฟท.ต้องต่อสัญญาให้กับเอกชนผู้รับเหมาก่อสร้าง คณะกรรมาธิการฯ กำลังพิจารณาว่า หากต่อสัญญาแล้วเสียค่าโง่ก็ไม่ต่อสัญญากับเอกชน แต่จะหาวิธีการที่ดีที่สุดแทน โดยหาตัวผู้กระทำผิดก่อน ก็จะทำให้ รฟท.ก็ไม่ต้องเสียค่าโง่ ส่วนประเด็นที่ในสัญญาจ้างเอกชนก่อสร้างโครงการกำหนดให้ รฟท.ต้องส่งมอบที่ดินให้ทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายใน 90 วันนั้น เป็นการบังคับ เร่งรัดให้ทำเกินไป ซึ่งเรื่องนี้จะต้องตรวจสอบให้แน่นอนเลยว่า ใครบังคับใครทำให้เกิด 90 วัน เพราะรู้อยู่แล้วว่า 90 วันทำไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันที่เดินหน้าทำโครงการนี้ให้แล้วเสร็จและไม่เสียค่าโง่ด้วย ซึ่งจะได้หารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในสัปดาห์หน้า

ส่วนกรณีการเช่าที่ของ รฟท.บริเวณถนนพหลโยธินของเซ็นทรัลที่จะหมดสัญญาลงในเดือนธันวาคม 2551 นั้น ทางคณะกรรมาธิการฯ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ รฟท. และผู้บริหาร รฟท. มีความเห็นร่วมกันว่า จะต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติร่วมทุนฯ ปี 2535 คือ จะต้องประมูลเท่านั้น เพราะใน พ.ร.บ.ได้กำหนดไว้ชัดเจนว่าระเบียบใด ๆ มติคณะรัฐมนตรีใด ๆ หรือ พ.ร.บ.ใด ๆ ที่ขัด พ.ร.บ.นี้ให้ใช้ พ.ร.บ.นี้แทน

พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวด้วยว่า กรณีสัญญาเช่าที่ดิน รฟท.ของเซ็นทรัล หากมีการต่อสัญญาหรือขยายสัญญาให้เซ็นทรัล ก็จะทำให้สิ่งปลูกสร้างทั้งหมดตกเป็นของบริษัทเซ็นทรัลตามเดิม บริษัทสามารถเอาไปเป็นหลักทรัพย์ได้ เพราะฉะนั้น จะต้องประกวดราคาอย่างเดียว ซึ่งจะทำให้ รฟท.มีรายได้ 60,000 ล้านบาท ที่สามารถนำมาใช้หนี้ และปรับปรุงบริการรถไฟ้ชั้น 3 ให้ดีขึ้นได้

ในขณะที่การเช่าที่ดินบริเวณพหลโยธินของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.) ปตท.ได้ตั้งคณะกรรมการร่วมกับ รฟท. และกระทรวงคมนาคม ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ เป็นผู้จัดการประชุม ที่ผู้ประชุมจะมีการตกลงแบ่งผลประโยชน์กันเอง

พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวถึงกรณีปัญหาเอกชนที่จังหวัดบุรีรัมย์บุกรุกที่ดินของ รฟท.ว่า จะดำเนินการฟ้องร้องแน่นอน โดยจะได้เร่งดำเนินการเรื่องให้จบภายในสัปดาห์หน้า เพราะคณะกรรมาธิการฯ จะเชิญอธิบดีกรมที่ดิน ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาประชุมที่คณะกรรมาธิการฯ เพื่อจะได้ทราบว่า ฝ่ายใดที่ทำให้เรื่องล่าช้า เป็นกรมที่ดิน หรือ รฟท. ซึ่งวันนี้เป็นที่ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่า น่าจะเป็นกรมที่ดินที่ล่าช้า จึงต้องรีบทำให้จบโดยเร็ว และจากการฟังเสียงในการเยี่ยม รฟท. พบว่าปัญหาการบุกรุกที่ดินที่จังหวัดบุรีรัมย์ต้องล่าช้า เพราะกลัวอิทธิพล ทั้งนี้ ที่ดินของ รฟท.ถูกบุกรุกก็ทนไม่ไหวอยู่แล้ว แต่ยิ่งทำหนักข้อยิ่งขึ้นคือ มีการนำที่ดินที่บุกรุกจาก รฟท.ไปออกโฉนดและนำไปจำนอง ดังนั้น จะต้องหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้โดยเร็วในระยะเวลาอันสั้นภายใน 2-3 เดือนนี้ โดยจะมีมติออกมาว่าจะส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หรือส่งให้คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น