เนสท์เล่เทงบรุกสปอนเซอร์หนัง อาร์เอสปลื้มโมเดลหนังใหม่ฉลุย

เนสท์เล่ จับมือ อาร์เอส ร่วมเป็นสปอนเซอร์หลักในภาพยนตร์ “รักนะ 24 ชั่วโมง” หวังเจาะสื่อใหม่ๆหวังเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น พร้อมทุ่มงบ 30 ล้านบาท ผุดแคมเปญ ส่งชิ้นส่วนชิงโชค ลุ้นทองคำ เอาใจคอกาแฟตามแบบในหนัง มั่นใจมีรายได้เติบโตขึ้นกว่า 20% ช่วงจัดแคมเปญ หรือทั้งปีมีรายได้เติบโตขึ้น 30% ตามเป้าที่วางไว้ ด้านอาร์เอสปลื้มโมเดลหนังใหม่ติดลมบน โกยรายได้ 3 เรื่อง ครึ่งปีแรกตามเป้าหมาย

นางสาวทิพย์วัลย์ วรุณเทพรักษ์ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ เนสกาแฟ 3 อิน 1 มายคัพ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากสภาพเศรษฐกิจและการเมืองที่ไม่ค่อยดีในปีนี้นั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อยอดขายของเนสกาแฟ 3 อิน 1 มายคัพ แต่อย่างไร เนื่องจากกาแฟถือเป็นเครื่องดื่มที่กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำไปแล้ว ดังนั้นสำหรับยอดขายของเนสท์เล่ตั้งแต่ 3-4 ปีที่ผ่านมา จึงมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องที่ 30% ทุกๆปี และในปีนี้มั่นใจว่าจะมีการเติบโตในอัตราดังกล่าวเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม จากภาวะเศรษฐกิจดังกล่าว ทางบริษัทฯได้มีการปรับแผนการทำตลาด จากเดิมที่จะเน้นใช้สื่อโฆษณาทางโทรทัศน์อย่างที่ผ่านมา ปีนี้ทางบริษัทฯยังได้ร่วมกับทาง บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ในการเข้ามาเป็นสปอนเซอร์หลักให้กับภาพยนตร์เรื่อง รักนะ 24 ชั่วโมง พร้อมกับทำกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดร่วมกัน คือ “เนสกาแฟ 3 อิน 1 มาย คัพ ชวนดูหนังรัก 24 ชั่วโมง กับ เมเจอร์ซ๊นีเพล็กซ์” ชวนคู่รักจำนวน 120 คู่ มาดูหนังรักตลอด 24 ชั่วโมง ลุ้นเงินรางวัล 40,000 บาท ในวันที่ 23-24 มิถุนายน ที่จะถึงนี้

“การหันมาใช้สื่อทางด้านมูฟวี่ มาร์เก็ตติ้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของทางเนสกาแฟ จากเดิมที่จะมุ่งเน้นทางด้านสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ เป็นหลัก ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเพิ่มสื่อใหม่ๆที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบันได้มากยิ่งขึ้น จากการที่ผู้บริโภคเริ่มมีไลฟส์ไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นเอง ดังนั้นการที่จะใช้เฉพาะสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์เพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพออีกต่อไป”

นอกจากนี้ทางบริษัทฯได้วางงบทางการตลาดไว้อีกกว่า 30 ล้านบาท สำหรับการจัดแคมเปญขึ้นมาเองอีก 1 รายการ โดยเป็นแคมเปญที่ต่อเนื่องมาจากภาพยนตร์เรื่อง รักนะ 24 ชั่วโมง กับการหยิบเอาแคมเปญนำชิ้นส่วนของเนสกาแฟมาชิงโชคเพื่อลุ้นรางวัล ทองคำ ที่มีอยู่ในภาพยนตร์ มาทำเป็นแคมเปญให้เกิดขึ้นจริงอีกด้วย โดยจะเริ่มแคมเปญดังกล่าวตั้งแต่เดือนมิถุนายน- ตุลาคมที่จะถึงนี้ คาดว่าระหว่างการจัดแคมเปญดังกล่าวจะมียอดขายเติบโตขึ้นอีกอย่าง 20% เทียบกับช่วงเวลาปกติ อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ ทางเนสกาแฟ จะมีการจัดแคมเปญส่งเสริมการขายขึ้นอีก อย่างน้อย 2 แคมเปญ

รักนะ 24 ชั่วโมง หวัง 70 ล้านบาท
นายพรชัย ว่องศรีอุดมพร ผู้ช่วยผู้อำนวยการจัดจำหน่ายและบริหารสื่อ ณ โรงภาพยนตร์ สายงาน ภาพยนตร์ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพยนตร์เรื่อง รักนะ 24 ชั่วโมง ถือเป็น ภาพยนตร์เรื่องที่ 3 ที่อยู่ในโมเดลธุรกิจใหม่ ที่มีการนำเอา มูฟวี่ มาร์เก็ตติ้งเข้ามาใช้ โดยมีพันธมิตรรวมทั้งสิ้น 3 ราย คือ 1.เนสกาแฟ 2.เซเว่น อีเลฟเว่น และ3. จักรยานยนต์ ยามาฮ่า จากเดิมที่วางไว้ 4 ราย แต่เนื่องจากสินค้าของอีก 1 ราย ไม่ตรงกับภาพยนตร์ดังกล่าว จึงได้ถอนตัวออกไป

“จากการมีพันธมิตรเข้ามาร่วมในภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตภาพยนตร์ลดลงกว่า 30% จาก 30 ล้านบาท ซึ่งในขณะนี้ถือว่าภาพยนตร์ดังกล่าวสร้างรายได้ก่อนเข้าโรงฉายเท่ากับต้นทุนไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเมื่อเริ่มเข้าฉายในโรงภาพยนตร์เมื่อใด นั้นถือเป็นกำไรที่เกิดขึ้นจากภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ทางบริษัทฯตั้งเป้ารายได้กว่า 70 ล้านบาท จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์เฉพาะในกรุงเทพฯ ภายในระยะเวลา 4 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป จากงบประมาณทางการตลาดกว่า 35 ล้านบาท (ไม่รวมของพันธมิตร)

อย่างไรก็ตาม สำหรับรายได้รวมจากธุรกิจภาพยนตร์ครึ่งปีแรกนี้ คาดว่าเป็นไปตามเป้าที่วางไว้กว่า 170 ล้านบาท จาก 350 ล้านบาท ที่วางไว้ตลอดทั้งปี โดยครึ่งปีแรกมีภาพยนตร์เข้าฉายทั้งหมด 3 เรื่อง ภายใต้โมเดลธุรกิจใหม่ทั้งหมด ได้แก่ 1. ผีไม้จิ้มฟัน ทำรายได้ 25 ล้านบาท พลาดเป้าที่วางไว้ที่ 35 ล้านบาท 2. เมล์นรก หมวยยกล้อ ทำรายได้ไป 80 ล้านบาท และ 3. รักนะ 24 ชั่วโมง ตั้งเป้ารายได้ 70 ล้านบาท

ส่วนในครึ่งปีหลังเตรียมภาพยนตร์เข้าฉายอีก 3 เรื่อง ได้แก่ 1.บ้านผีสิง เข้าฉาย เดือนสิงหาคม 2. โปงลางสอิ้งฯ เข้าฉาย ตุลาคม และ3. แรกบิน เข้าฉาย พฤศจิกายน โดยทั้ง 3 เรื่องอยู่ในขั้นตอนการเจรจาในการหาพันธมิตร