xs
xsm
sm
md
lg

เอ็มโพเรียม-พารากอน อัด 100 ล.ผุดแคมเปญเพิ่มฐานลูกค้า ตปท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

การเมืองคลี่คลาย ส่งผลกำลังซื้อดีขึ้น เอ็มโพเรียม-พารากอน เดินหน้าอัดงบ 100 ล้านบาท ผุด 2 แคมเปญ “Beyond Voyage” และ “Bon Voyage Limousine Service” เอาใจนักท่องเที่ยว หลัง 5 เดือนแรกมีรายได้รวมแตะ 9,200 ล้านบาท จากเป้า 18,500 ล้านบาท ในปีนี้

นางณัฐศมน วงศ์กิตติพัฒน์ ผู้จัดการใหญ่สายการตลาด เอ็มโพเรียม/พารากอน ดีพาร์ตเมนต์ สโตร์  เปิดเผยว่า หลังการเมืองเริ่มคลี่คลายมาได้ 3-4 วันที่ผ่านมานี้ ยังไม่สามารถบอกได้ว่า ลูกค้าจะเข้ามาใช้จ่ายมากขึ้นหรือไม่อย่างไร เพราะยังเร็วเกินไป แต่เชื่อมั่นว่า อารมณ์ของการจับจ่ายกำลังกลับมาอย่างแน่นอน

ล่าสุด ช่วงครึ่งปีหลังนี้ ทางห้างได้จัดแคมเปญขึ้น 2 แคมเปญ สำหรับกลุ่มลูกค้าต่างชาติโดยเฉพาะ ได้แก่ “Beyond Voyage” กับการรับคูปองส่วนลดทันที 10-30% ระหว่างวันที่ 4 มิถุนายน -25 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ พร้อมลุ้นรางวัลใหญ่ รถยนต์วอลโว่ และรับสิทธิพิเศษจาก เอไอเอส ของทั้ง 2 ห้างสรรพสินค้า คือ ดิเอ็มโพเรียม และ สยามพารากอน

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการขยายกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น ทางห้างสรรพสินค้าดิเอ็มโพเรียม ร่วมกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) จัดแคมเปญ Bon Voyage Limousine Service มอบสิทธิพิเศษ ด้วยบริการรถลีมูซีน จาก ดิเอ็มโพเรียม ไปสนามบินสุวรรณภูมิ เพียงซื้อสินค้าตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน - 30 กันยายน นี้

“ทั้งสองแคมเปญนี้ ทางบริษัทได้ใช้งบประมาณไปกว่า 100 ล้านบาท แบ่งเป็นโฆษณาประชาสัมพันธ์ 20 ล้านบาท และอีก 80 ล้านบาท เป็นส่วนของจำนวนคูปองที่แจกออกไป คาดว่า ทั้ง 2 แคมเปญจะสร้างยอดขายได้กว่า 2,000 ล้านบาท”

นางณัฐศมน กล่าวต่อว่า สำหรับรายได้ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมานั้น ยังถือว่าเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ กล่าวคือ สำหรับ ดิ เอ็มโพเรียม มีรายได้อยู่ที่ 3,700 ล้านบาท โตขึ้นประมาณ 5% ส่วนสยามพารากอน มีรายได้ 5,500 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10% หรือมีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 9,200 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้ หรือทั้งปีคาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 18,500 ล้านบาท มาจาก ดิ เอ็มโพเรียม 7,500 ล้านบาท และสยามพารากอน อีก 11,000 ล้านบาท

“สำหรับรายได้ช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ คาดว่า น่าจะทำได้ตามเป้าที่วางไว้ เนื่องจากมองว่าสถานการณ์ต่างๆ หลังจากนี้ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว เพราะปัญหาทางการเมืองเริ่มคลี่คลายนั้นเอง จึงมองว่า บรรยากาศของการซื้อจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง ทั้งนี้ สำหรับ ดิ เอ็มโพเรียมและสยามพารากอน ถือได้ว่าเป็นห้างสรรพสินค้าที่แทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจแต่อย่างไร จึงมั่นใจว่าครึ่งปีหลังจากนี้จะต้องมีรายได้เติบโตขึ้นอีกอย่างแน่นอน”
กำลังโหลดความคิดเห็น