ทวิสตี้ โหนกระแสตลาดโลก ผู้บริโภคต้องการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ ระเบิดกลยุทธ์ทรีดีมาร์เก็ตติ้งตลาดขนมขึ้นรูป อัดฉีด 30 ล้านบาท จัดกิจกรรมอินเทอร์แอคทีฟ นำร่องด้วยโครงการประกวดคลิปวิดีโอ หวังกระตุ้นยอดโตตัวเลขสองหลัก พร้อมปรับแพคเกจจิ้งใหม่รอบ 4 ปี ปั้นรสชาติใหม่เสริมทัพ สิ้นปีตั้งเป้ายอดพุ่ง 10%
นางจันทร์วิภา พิพัฒนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด-อาหาร บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมข้าวกรอบทวิสตี้ เปิดเผยว่า แผนการตลาดปีนี้บริษัทได้นำกลยุทธ์"ทรีดีมาร์เก็ตติ้ง" หรือการทำตลาด 3 มิติมาใช้เป็นครั้งแรกในตลาดขนมขบเคี้ยว เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์ตลาดโลกในขณะนี้ ซึ่งพบว่าผู้บริโภคต้องการมีส่วนร่วมกับแบรนด์หรือตัวสินค้ามากขึ้น โดยบริษัทจัดกิจกรรมอินเทอร์แอคทีฟภายใต้แนวคิด "ชีวิตไม่เรียบสิ...เข้มเต็มรสชาติ" เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นหรือคนรุ่นใหม่อายุระหว่าง10-25 ปี
ล่าสุดได้ทุ่มงบ 30 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญการตลาดทรีดีมาร์เก็ตติ้ง นำร่องด้วยการจัดกิจกรรมทำคลิปวิดีโอในแบบของตัวเองภายใต้หัวข้อ "ทำไมทวิสตี้ถึงไม่เรียบ" มาโพสต์บนเว็บไซต์ www.ilovetwisties.net สำหรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปีเข้าประกวดชิงรางวัลมูลค่ากว่า 5 แสนบาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน-31 กรกฎาคม นี้ ทั้งนี้เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง บริษัทได้ส่งภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ "กำเนิดทวิสตี้" เริ่มออกอากาศวันที่ 1 มิถุนายนนี้ รวมทั้งสื่อสนับสนุนต่างๆ อาทิ บนรถไฟฟ้า สื่ออินเทอร์เน็ต เป็นต้น โดยคาดว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าวในระยะ 2 เดือนนี้ จะช่วยกระตุ้นยอดขายทวิสตี้ให้มีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก
พร้อมกันนี้บริษัทยังได้ปรับบรรจุภัณฑ์ทวิสตี้เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ทั้งนี้เพื่อให้ภาพลักษณ์สินค้ามีความทันสมัยสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย และเปิดตัวรสชาติใหม่ ทวิสตี้ รสซีฟูดทอร์นาโด จากเดิมที่มีเพียง 2 รสชาติ ได้แก่ เอ็กซ์ตรีมชีส และรสกุ้งสไปซี่
สำหรับภาพรวมตลาดขนมขบเคี้ยวมูลค่า 10,000 ล้านบาท ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมานี้ มีอัตราการเติบโตกว่า 10% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวไม่ส่งผลกระทบ อีกทั้งยังมาจากผู้ประกอบการกระตุ้นตลาดด้วยการเปิดตัวรสชาติใหม่ และจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าตลาดมันฝรั่งมูลค่า 3,000-4,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตมากที่สุด ตามด้วยขนมขึ้นรูปมูลค่า 3,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตที่ดีเช่นกัน
นางจันทร์วิภา กล่าวว่า รายได้หลักของบริษัทมาจากมันฝรั่งทอดกรอบเลย์ ขนมขึ้นรูปตะวัน ตามด้วย ทวิสตี้ และชีโตส สำหรับยอดขายทวิสตี้สิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 10% โดยปัจจุบันทวิสตี้เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในลำดับต้นๆ ในเซกเมนต์ขนมขึ้นรูป ส่วนหนึ่งจากการเปิดตัวบรรจุภัณฑ์รูปแบบชอต ส่งผลให้ทวิสตี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น
นางจันทร์วิภา พิพัฒนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด-อาหาร บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมข้าวกรอบทวิสตี้ เปิดเผยว่า แผนการตลาดปีนี้บริษัทได้นำกลยุทธ์"ทรีดีมาร์เก็ตติ้ง" หรือการทำตลาด 3 มิติมาใช้เป็นครั้งแรกในตลาดขนมขบเคี้ยว เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์ตลาดโลกในขณะนี้ ซึ่งพบว่าผู้บริโภคต้องการมีส่วนร่วมกับแบรนด์หรือตัวสินค้ามากขึ้น โดยบริษัทจัดกิจกรรมอินเทอร์แอคทีฟภายใต้แนวคิด "ชีวิตไม่เรียบสิ...เข้มเต็มรสชาติ" เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นหรือคนรุ่นใหม่อายุระหว่าง10-25 ปี
ล่าสุดได้ทุ่มงบ 30 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญการตลาดทรีดีมาร์เก็ตติ้ง นำร่องด้วยการจัดกิจกรรมทำคลิปวิดีโอในแบบของตัวเองภายใต้หัวข้อ "ทำไมทวิสตี้ถึงไม่เรียบ" มาโพสต์บนเว็บไซต์ www.ilovetwisties.net สำหรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปีเข้าประกวดชิงรางวัลมูลค่ากว่า 5 แสนบาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน-31 กรกฎาคม นี้ ทั้งนี้เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง บริษัทได้ส่งภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ "กำเนิดทวิสตี้" เริ่มออกอากาศวันที่ 1 มิถุนายนนี้ รวมทั้งสื่อสนับสนุนต่างๆ อาทิ บนรถไฟฟ้า สื่ออินเทอร์เน็ต เป็นต้น โดยคาดว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าวในระยะ 2 เดือนนี้ จะช่วยกระตุ้นยอดขายทวิสตี้ให้มีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก
พร้อมกันนี้บริษัทยังได้ปรับบรรจุภัณฑ์ทวิสตี้เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ทั้งนี้เพื่อให้ภาพลักษณ์สินค้ามีความทันสมัยสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย และเปิดตัวรสชาติใหม่ ทวิสตี้ รสซีฟูดทอร์นาโด จากเดิมที่มีเพียง 2 รสชาติ ได้แก่ เอ็กซ์ตรีมชีส และรสกุ้งสไปซี่
สำหรับภาพรวมตลาดขนมขบเคี้ยวมูลค่า 10,000 ล้านบาท ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมานี้ มีอัตราการเติบโตกว่า 10% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวไม่ส่งผลกระทบ อีกทั้งยังมาจากผู้ประกอบการกระตุ้นตลาดด้วยการเปิดตัวรสชาติใหม่ และจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าตลาดมันฝรั่งมูลค่า 3,000-4,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตมากที่สุด ตามด้วยขนมขึ้นรูปมูลค่า 3,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตที่ดีเช่นกัน
นางจันทร์วิภา กล่าวว่า รายได้หลักของบริษัทมาจากมันฝรั่งทอดกรอบเลย์ ขนมขึ้นรูปตะวัน ตามด้วย ทวิสตี้ และชีโตส สำหรับยอดขายทวิสตี้สิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 10% โดยปัจจุบันทวิสตี้เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในลำดับต้นๆ ในเซกเมนต์ขนมขึ้นรูป ส่วนหนึ่งจากการเปิดตัวบรรจุภัณฑ์รูปแบบชอต ส่งผลให้ทวิสตี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น