“เจบิก” เตือนไทยระมัดระวังการก่อสร้างส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน โดยขอให้แยกการเชื่อมต่อโครงการออกจากกัน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และเท่าเทียมกันระหว่างผู้รับสัมปทานรายเดิม-รายใหม่
วันนี้ (28 พ.ค.) ผู้บริหารกระทรวงการคลัง โดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงการพัฒนารถไฟฟ้าของไทย เช่น การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ร่วมหารือกับผู้แทนธนาคารเพื่อความร่วมมือแห่งประเทศญี่ปุ่น (เจบิก) เพื่อพิจารณากรอบการขอกู้เงิน เพื่อลงทุนก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) และสายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง-บางแค, บางซื่อ-ท่าพระ)
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า จะยืนยันความพร้อมของโครงการรถไฟฟ้าทั้งสองเส้นทาง ทั้งการเตรียมการประกวดราคา การออกแบบรายละเอียด รวมถึงการจัดทำผลศึกษา ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ซึ่งหลังจากนี้ การดำเนินการจะขึ้นกับขั้นตอนในการเจรจาเพื่อหาเงินลงทุนระหว่างการกระทรวงการคลังและเจบิกต่อไป
นายประภัสร์ กล่าวว่า ในการทำงานร่วมกับผู้แทนเจบิกที่เข้าสำรวจโครงการก่อนหน้านี้ ทางเจบิกได้ตั้งข้อสังเกตและแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หัวลำโพง-บางแค, บางซื่อ-ท่าพระ ซึ่งโครงการดังกล่าว มีการเปิดให้บริการไปแล้ว 1 เส้นทางคือ หัวลำโพง-บางซื่อ และมีเอกชนของไทยคือ บริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ เป็นผู้บริหาร โดยทางเจบิกตั้งข้อสังเกต และขอให้ไทยดูแลการเปิดประมูลจัดจ้างหาผู้ก่อสร้าง และบริหารระบบเดินรถ โดยคำถึงความโปร่งใส ไม่ให้มีการเสียเปรียบ ระหว่างผู้บริหารรายใหม่ กับผู้ประกอบการรายเดิมที่ดำเนินการอยู่ โดยขอให้แยกการเชื่อมต่อของโครงการออกจากกัน ซึ่งแม้ว่าจะทำให้ผู้โดยสารจะได้รับความไม่สะดวกบ้าง กับการต้องเดินเท้าระหว่างรอยเชื่อมต่อของสถานีเดิมและสถานีใหม่ แต่ก็เป็นปัญหาเพียงเล็กน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับการดูแลให้เกิดความโปร่งใสในโครงการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแผนการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงและน้ำเงิน หลังจากกระทรวงการคลังได้หารือกับเจบิกจนได้ข้อสรุปแล้ว คาดว่า รฟม. และกระทรวงคมนาคม จะนำเสนอแผนการก่อสร้างรถสายสีม่วง เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือนมิถุนายน ก่อนจะประกวดราคาเดือนสิงหาคม
วันนี้ (28 พ.ค.) ผู้บริหารกระทรวงการคลัง โดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงการพัฒนารถไฟฟ้าของไทย เช่น การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ร่วมหารือกับผู้แทนธนาคารเพื่อความร่วมมือแห่งประเทศญี่ปุ่น (เจบิก) เพื่อพิจารณากรอบการขอกู้เงิน เพื่อลงทุนก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) และสายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง-บางแค, บางซื่อ-ท่าพระ)
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า จะยืนยันความพร้อมของโครงการรถไฟฟ้าทั้งสองเส้นทาง ทั้งการเตรียมการประกวดราคา การออกแบบรายละเอียด รวมถึงการจัดทำผลศึกษา ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ซึ่งหลังจากนี้ การดำเนินการจะขึ้นกับขั้นตอนในการเจรจาเพื่อหาเงินลงทุนระหว่างการกระทรวงการคลังและเจบิกต่อไป
นายประภัสร์ กล่าวว่า ในการทำงานร่วมกับผู้แทนเจบิกที่เข้าสำรวจโครงการก่อนหน้านี้ ทางเจบิกได้ตั้งข้อสังเกตและแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หัวลำโพง-บางแค, บางซื่อ-ท่าพระ ซึ่งโครงการดังกล่าว มีการเปิดให้บริการไปแล้ว 1 เส้นทางคือ หัวลำโพง-บางซื่อ และมีเอกชนของไทยคือ บริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ เป็นผู้บริหาร โดยทางเจบิกตั้งข้อสังเกต และขอให้ไทยดูแลการเปิดประมูลจัดจ้างหาผู้ก่อสร้าง และบริหารระบบเดินรถ โดยคำถึงความโปร่งใส ไม่ให้มีการเสียเปรียบ ระหว่างผู้บริหารรายใหม่ กับผู้ประกอบการรายเดิมที่ดำเนินการอยู่ โดยขอให้แยกการเชื่อมต่อของโครงการออกจากกัน ซึ่งแม้ว่าจะทำให้ผู้โดยสารจะได้รับความไม่สะดวกบ้าง กับการต้องเดินเท้าระหว่างรอยเชื่อมต่อของสถานีเดิมและสถานีใหม่ แต่ก็เป็นปัญหาเพียงเล็กน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับการดูแลให้เกิดความโปร่งใสในโครงการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแผนการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงและน้ำเงิน หลังจากกระทรวงการคลังได้หารือกับเจบิกจนได้ข้อสรุปแล้ว คาดว่า รฟม. และกระทรวงคมนาคม จะนำเสนอแผนการก่อสร้างรถสายสีม่วง เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือนมิถุนายน ก่อนจะประกวดราคาเดือนสิงหาคม