xs
xsm
sm
md
lg

ช่อง3ไม่หวั่น อสมท สู่สถานีข่าว ยันเหตุ“เอเจนซี่-คนดู”คนละกลุ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายใหญ่ช่อง 3 ไม่หวั่นแม้ อสมท ประกาศขึ้นเป็นผู้นำสถานีข่าว เหตุวิธีการนำเสนอรายการข่าวแตกต่างกัน มั่นใจรักษารายได้ไว้อย่างเหนียวแน่น ล่าสุดขยับขึ้นเป็น 20% ของสัดส่วนรายได้ทั้งหมดแล้ว ส่วนกรณีผู้จัดรายการเริ่มหันหลังให้ทีไอทีวีหาที่ซบอกใหม่นั้น เชื่อช่อง3 ไม่ได้รับอานิสงส์แน่นอน

นายประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการบริหาร บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เปิดเผยว่า จากการที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. อสมท ได้ประกาศว่าจะทำให้ช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ ทีวี ขึ้นเป็นผู้นำทางด้านข่าวสาร เช่นเดียวกับที่ไอทีวีได้เคยทำไว้นั้น มองว่ารายการข่าวของทางช่อง3 จะไม่ได้ผลกระทบแต่อย่างใด โดยเฉพาะในเรื่องของรายได้โฆษณาจากรายการข่าว คาดว่าจะไม่หนีหายไปยังช่อง 9 แน่นอน

“ถึงแม้ว่าช่อง 9 จะประกาศตัววางโพซิชั่นนิ่งใหม่ ที่ต้องการเป็นผู้นำด้านการนำเสนอข่าวสารนั้น ส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่ส่งผลกระทบต่อช่อง3แน่นอน ถึงแม้ว่าทางช่อง3 เอง ก็ได้ให้ความสำคัญกับรายการข่าวมากขึ้นเช่นเดียวกัน จนกลายมาเป็น “ครอบครัวข่าว 3”ในครั้งนี้ แต่หากสังเกตดูจะพบว่า รูปแบบรายการข่าวและวิธีที่นำเสนอของทั้ง 2 ช่องมีความแตกต่างกันค่อนข้างชัดเจน จึงทำให้มีกลุ่มคนดูคนละกลุ่มกันด้วย ขณะเดียวกันในส่วนของเอเจนซีเองที่จะลงโฆษณาของทั้ง 2 ช่องนั้น ต่างก็มีกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันตามไปด้วย จึงมองว่าเม็ดเงินโฆษณาจากรายการข่าวทางช่อง 3 ยังคงอยู่เช่นเดิม”

ทั้งนี้ช่อง 3 มีนโยบายการนำเสนอรายการข่าวในรูปแบบไม่เครียด ดูมีความเป็นกันเอง ส่วนทางช่อง 9โมเดิร์นไนน์ ทีวี จะเน้นการนำเสนอข่าวแบบจริงจัง ให้มีความน่าเชื่อถือมากกว่า ทำให้มองว่าทางช่อง3 ไม่จำเป็นต้องปรับตัวหรือปรับเปลี่ยนรายการข่าวเพื่อหาทางรับมือกับการที่ช่อง9 จะมุ่งเป็นผู้นำด้านการนำเสนอข่าวครั้งนี้แต่อย่างใด แต่ทางช่อง 3 จะมุ่งเน้นทำให้รูปแบบรายการข่าวที่มีอยู่ มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มเรตติ้งให้ช่วงเวลาดังกล่าวซึ่งส่วนใหญ่เป็นนอนไพร์มไทม์ ในการที่จะช่วยผลักดันรายได้ให้มีการเติบโตเป็นไปตามเป้าที่วางไว้

โดยปัจจุบัน ช่อง3 มีรายการข่าวรวมกว่า 12 ชั่วโมงต่อวัน (เฉพาะวันจันทร์ถึงศุกร์) หรือกว่าครึ่งหนึ่งของรายการที่นำเสนอตลอดทั้งวัน และส่วนใหญ่เป็นช่วงนอนไพร์มไทม์โดยเฉพาะช่วงเช้า ซึ่งตั้งแต่ได้ปรับผังรายการครั้งล่าสุดนั้น รายการข่าวในช่วงเวลาดังกล่าว มีอัตราการเติบโตของรายได้ดีขึ้นเรื่อยๆ หรือสร้างรายได้ให้กว่า 20% ของรายการที่นำเสนอทั้งหมด แล้วในวันนี้ ขณะที่รายการข่าวที่มีเรตติ้งสูงสุด คือ เรื่องเล่าเช้านี้

อย่างไรก็ตามช่อง 3 ยังมีแผนที่จะเพิ่มรายการข่าวให้มากขึ้นอีก เพราะปัจจุบันคนไทยให้ความสำคัญกับการรับรู้ข่าวสารมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ช่อง3 ยังได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของเด็กและเยาวชน จึงมีแผนที่จะมุ่งเน้นนำเสนอรายการเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนอีกส่วนหนึ่งด้วย มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้จัดรายการ รวมไปถึงเอเจนซี่ที่จะมาลงโฆษณา รวมไปถึงกลุ่มคนดูอีกส่วนหนึ่งด้วย

ช่อง3 ไม่ได้อานิสงส์ จากทีไอทีวี
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวออกมาว่า ทางผู้จัดรายการและเอเจนซีของทางสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวีในขณะนี้ ที่เริ่มเดือดร้อน พร้อมหาเวลาลงใหม่ในสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นๆ จนหลายฝ่ายออกมาคาดการณ์กันว่า ช่อง 3 และช่อง 7 จะได้รับอานิสงค์มากที่สุดแน่นอนนั้น

นายประวิทย์ ได้กล่าวว่า ยอมรับว่ามีผู้จัดบางรายเข้ามาทาบทามจริง แต่ถือเป็นจำนวนที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับจำนวนผู้จัดรายการทั้งหมดของทีไอทีวี ขณะเดียวกันทางช่อง 3 เอง ก็ไม่สามารถจัดหาเวลาลงให้ได้เช่นกัน เนื่องจากต้องให้ความสำคัญกับผู้จัดรายการที่มีอยู่เดิมก่อน ดังนั้นจึงมองว่าช่อง3 ไม่ได้รับอานิสงส์แน่นอน แต่น่าจะเป็นสื่ออื่นมากกว่าที่สามารถทดแทนสื่อเดิมได้มากกว่า ที่จะได้รับอานิสงส์ครั้งนี้แทน เนื่องจากมองว่าผู้จัดรายการเหล่านี้ส่วนใหญ่จะผลิตรายการที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนละกลุ่มกับทางช่อง3 หากนำรายการมาออกอากาศทางช่อง3แล้ว อาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีก็เป็นได้ จึงน่าจะมองหาสื่ออื่นทดแทนสื่อเดิมมากกว่า ที่จะเป็นทางออกได้ดีที่สุด โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสื่อโทรทัศน์ก็ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น