ผู้จัดการรายสัปดาห์ - โซนี่วางกลยุทธ์หลัก FEEL Your Own Style นำร่อง ผนึกเอสบี เฟอร์นิเจอร์ สร้าง Emotional Benefit เนรมิตบรรยากาศในการรับชมโฮมเธียเตอร์ หวังขายยกชุดแอลซีดีทีวีพ่วงเครื่องเสียงภายใต้คอนเซ็ปต์ บราเวีย เธียเตอร์ ปะทะซัมซุงที่เดินเกมขายพ่วงด้วยโปรแกรมมิกซ์แอนด์แมตช์
การแข่งขันในธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ยังไม่สามารถหลุดพ้นจากสงครามราคา ส่งผลให้บรรดาแบรนด์เนมปรับกลยุทธ์ตั้งแต่การส่งไฟติ้งโมเดลออกมาชนกับคู่แข่ง การสร้างแบรนด์ลอยัลตี้เพื่อให้ผู้บริโภคยึดติดกับแบรนด์ โดยมีทั้งการขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มใหม่ การกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาใช้สินค้าของแบรนด์นั้นๆในผลิตภัณฑ์หลายๆกลุ่มด้วยการดำเนินกลยุทธ์แบบโซลูชั่นเพื่อสร้างประสบการณ์ และสร้างบรรยากาศให้ผู้บริโภคเห็นถึงรูปแบบการใช้งานร่วมกันอย่างเป็นระบบเพื่อให้เกิดอรรถรสในการบริโภคสินค้านั้นอย่างสมบูรณ์แบบ
รูปแบบการสร้างโซลูชั่นในต่างประเทศคือการสร้างโลกแห่งยูบิควิตัสหรือการเชื่อมโยงการใช้งานสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆทั้งในบ้านและนอกบ้านให้เชื่อมโยงคำสั่งถึงกันซึ่งต้องอาศัยระบบบอร์ดแบนและการสื่อสารแบบ 3G ซึ่งตลาดเมืองไทยยังขาดความพร้อม ดังนั้นหลายๆค่ายจึงพยายามสร้างแคมเปญการตลาดที่ให้ผลในลักษณะของการสร้างยอดขายแบบโซลูชั่น โดยในปีที่ผ่านมาโซนี่ได้ชูนโยบาย HD World พร้อมกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในหมวดภาพที่ให้สัญญาณระดับ Full HD ซึ่งมีความละเอียดสูงสุดในปัจจุบัน
แต่การจะรับชมสัญญาณภาพระดับ Full HD ได้จะต้องเริ่มตั้งแต่การบันทึกต้นฉบับไปถึงเครื่องรับปลายทาง แต่เนื่องจากระบบออกอากาศในบ้านเรายังไม่ใช่รูปแบบของระบบดิจิตอล ดังนั้นการรับชมรายการทีวีทั่วไปจึงยังไม่สามารถให้ภาพในระดับ Full HD โซนี่จึงสร้างรูปแบบให้ผู้บริโภคได้บันทึกภาพเองด้วยกล้องวิดีโอแฮนดิแคม Full HD การนำเครื่องเล่นบลูเรย์ดิสก์พร้อมแผ่นบลูเรย์ซึ่งให้สัญญาณ Full HD พร้อมกับแอลซีดีทีวีบราเวีย Full HD เข้ามาทำตลาดเป็นโซลูชั่นเพื่อสร้างยอดขายให้กับสินค้าหลายๆรายการพร้อมกัน นอกจากนี้ยังมีไวโอ้ เวิลด์ และกล้องดิจิตอลที่มีการทำการตลาดแบบโซลูชั่น
ล่าสุดโซนี่เดินสเต็ปต่อด้วย บราเวีย เธียเตอร์ เพื่อสนองไลฟ์สไตล์ความบันเทิงภายในบ้านซึ่งผู้บริโภคนิยมดูทีวีจอใหญ่ 40 นิ้วขึ้นไป และเพื่อให้ได้ความบันเทิงที่ดีต้องมีระบบเสียงที่ดีด้วย ดังนั้นโซนี่จึงพยายามทำให้ผู้บริโภคได้เห็นถึงความบันเทิงที่สมบูรณ์จากการใช้แอลซีดีทีวีบราเวีย และโฮมเธียเตอร์ของโซนี่
ปัจจุบันการขายสินค้าแบบเดี่ยวๆเป็นเรื่องยาก จำเป็นที่จะต้องสร้างคุณค่า เพิ่มความน่าสนใจ สร้างความพอใจให้กับผู้บริโภค เช่นการทำอินทิเกรเต็ดหรือนำสินค้ามาผสมผสานการใช้งานให้น่าสนใจ ตลอดจนการร่วมกับพันธมิตรเพื่อให้เกิดอิมแพกในวงกว้างซึ่งดีกว่าการทำการตลาดโดยลำพัง
ดังนั้นโซนี่จึงร่วมกับ เอสบี เฟอร์นิเจอร์เพื่อขยาย อิมเมจ แชนแนล ในการสร้างประสบการณ์ และอารมณ์แห่งความบันเทิงด้วยการทำบรรยากาศในร้านให้เหมือนรูปแบบการใช้งานจริงในบ้าน โดยมีการนำเฟอร์นิเจอร์ของเอสบี มาเป็นองค์ประกอบในการจัดวางโซนี่ บราเวีย เธียเตอร์ ซึ่งมีทั้งแอลซีดีทีวีและเครื่องเสียงโฮมเธียเตอร์ เช่นเดียวกันที่ร้านเอสบี เฟอร์นิเจอร์ก็จะมีการนำชุดบราเวียเธียเตอร์ของโซนี่ไปใส่เข้ากับชุดเฟอร์นิเจอร์ของร้านเอสบี
"เราให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเพื่อพัฒนาเฟอร์นิเจอร์ให้สอดคล้องกับรูปแบบการใช้งาน ซึ่งปัจจุบันลูกค้าให้ความสำคัญกับการตกแต่งบ้านมากขึ้นโดยเฉพาะในห้องนั่งเล่นที่มีความต้องการรูปแบบที่รองรับโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์มากขึ้น 30% ซึ่งเอสบีได้มีการพัฒนาระบบ Design Plus ที่สามารถปรับเปลี่ยนต่อเติมได้ตามความต้องการของลูกค้า และเรายังมีการออกแบบเฟอร์นิเจอร์เพื่อรองรับแอลซีดีทีวีโดยคำนึงระบบปลั๊กไฟและสายต่างๆให้มีการซ่อนเพื่อความสวยงาม โดยเฉพาะเมื่อมีการติดตั้งแอลซีดีทีวีแบบแขวนซึ่งมักมีสายไฟห้อยลงมาไม่สวยงาม สำหรับการร่วมมือกับโซนี่ในครั้งนี้ก็เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีไปสู่ลูกค้าโดยเราจะมีบริการออกแบบให้กับลูกค้าของโซนี่ฟรี" ธนทัต ชวาลดิฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ เอสบี อุตสาหกรรมเครื่องเรือน กล่าว
"ตลาดโฮมเธียเตอร์มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วโดยผู้บริโภคนิยมดูหนังฟังเพลงในบ้านมากขึ้น ขณะที่ทีวีจอใหญ่อย่างแอลซีดีทีวีมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วโดยมีการเติบโตกว่า 300% ซึ่งจอขนาด 40 นิ้วเป็นรุ่นได้รับความนิยมมากที่สุดโดยมีสัดส่วนสูงถึง 40% ของตลาด ขณะเดียวกันความบันเทิงในรูปแบบของดีวีดีพร้อมด้วยโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ต่างๆก็เติบโตเช่นกันส่งผลให้ธุรกิจต่างๆที่เกี่ยวข้องเช่นการออกแบบที่อยู่อาศัย เฟอร์นิเจอร์มีการพัฒนารูปแบบดีไซน์ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ความบันเทิงในบ้านมากขึ้น การร่วมมือระหว่างโซนี่และเอสบีจึงถือเป็นการผสานความแข็งแกร่งเข้าด้วยกันเพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกสสรค์ไลฟ์สไตล์ความบันเทิงในแบบของตัวเอง" คาซูโอะ ซูยาม่า กรรมการผู้จัดการ โซนี่ ไทย กล่าว
FEEL Your Own Style เป็นคอนเซ็ปต์ที่โซนี่วางไว้เป็นกลยุทธ์หลักในการทำการตลาดเพื่อสร้าง New Experience @ Home เช่นในการทำโซลูชั่น บราเวีย เธียเตอร์ จะประกอบไปด้วย แอลซีดีทีวีบราเวีย ชุดเครื่องเสียงโฮมเธียเตอร์ และ การออกแบบบรรยากาศเช่นรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ที่ช่วยสร้างอารมณ์แห่งความบันเทิง ทั้งนี้โซนี่ตั้งเป้าว่าจะสามารถสร้างการเติบโตให้กับยอดขายในกลุ่มโฮมเธียเตอร์ในปีนี้ได้ 20% คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้นจากที่มีกว่า 30 % เป็น 40% ในปีนี้โดยตลาดโฮมเธียเตอร์มีดีมานด์อยู่ที่ 85,000 เครื่องซึ่งโซนี่ยังคงความเป็นผู้นำในตลาด ขณะที่ตลาดแอลซีดีทีวีปัจจุบันโซนี่มีส่วนแบ่งอยู่ 28% อยู่อันดับที่ 2 แต่ปีนี้คาดว่าจะสามารถชิงส่วนแบ่งได้มากกว่า 35% ขึ้นเป็นผู้นำตลาด โดยในการลอนช์บราเวีย เธียเตอร์ โซนี่ได้ลอนช์แอลซีดีทีวีรุ่นใหม่ 5 รุ่น และจะมีรุ่นใหม่ออกมารวมแล้วตลอดทั้งไปไม่ต่ำกว่า 10 รุ่นเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกรุ่นได้ตรงตามความต้องการมากขึ้น
การร่วมมือระหว่างโซนี่และเอสบีเป็นเพียงการขยายช่องทางเพื่อสร้างการรับรู้ไปสู่ผู้บริโภคเท่านั้น มิได้เป็นการขยายช่องทางจำหน่ายใหม่ๆซึ่งกันและกัน หากใครต้องการซื้อก็ต้องไปซื้อยังอีกร้าน เป็นการแลกเปลี่ยนลูกค้าซึ่งกันและกัน ซึ่งต่างจากซัมซุงที่มีการทำแคมเปญ Total Solution Provider โดยร่วมกับพันธมิตรกลุ่มต่างๆเพื่อขยายฐานลูกค้าและใช้พันธมิตรเหล่านั้นเป็นช่องทางจำหน่ายรูปแบบใหม่ๆ เช่น การร่วมกับร้านเฟอร์นิเจอร์เพื่อให้บริการออกแบบแก่ลูกค้าที่ซื้อสินค้าของซัมซุงแบบโซลูชั่น ซึ่งได้แก่ Bed Room Solution, Kitchen Solution, Living Room Solution ซึ่งแต่ละห้องจะมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดที่สอดคล้องกับห้องนั้นๆ
ทั้งนี้ซัมซุงตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากร้านค้าพิเศษที่เป็นพันธมิตรเหล่านี้สูงถึง 30% นอกจากนี้ซัมซุงก็ยังมีการทำโปรโมชั่นมิกซ์แอนด์แมตช์เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้งานและขยายฐานลูกค้าด้วยการแบ่งสินค้าเป็น 4 กลุ่มคือ หมวดภาพและเสียง หมวดเครื่องไฟฟ้าในครัวเรือน โทรศัพท์มือถือ และหมวดไอที โดยลูกค้าที่ซื้อสินค้าหลายหมวดพร้อมกันจะได้ส่วนลดหรือสิทธิพิเศษที่มากกว่าการซื้อสินค้าชิ้นเดียว ล่าสุดซัมซุงได้ร่วมกับธุรกิจเวดดิ้งเพื่อขยายตลาดคนรุ่นใหม่โดยมีโปรโมชั่นและส่วนลดเป็นตัวดึงดูดให้ลูกค้าซื้อสินค้าแบบยกเซ็ต นอกจากนี้ยังเป็นความพยายามในการสร้างแบรนด์ลอยัลตี้ไปสู่ผู้บริโภครุ่นใหม่เนื่องจากผู้บริโภครุ่นเก่าคุ้นเคยและผูกพันธ์กับแบรนด์ญี่ปุ่นมานานจึงเป็นเรื่องยากที่จะชิงลูกค้าของคู่แข่งที่มีแบรนด์ลอยัลตี้สูง ดังนั้นซัมซุงจึงเน้นการขยายฐานคนรุ่นใหม่