ผู้ค้าน้ำมันเตรียมหารือ สนพ. ในช่วงบ่ายวันนี้ (16 พ.ค.) เพื่อกำหนดค่าการตลาดให้ชัดเจน โดยผู้ค้าเห็นว่าควรอยู่ที่ 1.50-2 บาทต่อลิตร เพราะต้นทุนการบริหารงานเพิ่มสูงขึ้น ทั้งค่าแรง ค่าไฟฟ้า และการบริหารงาน
นายธีรพจน์ วัชราภัย ประธานกรรมการ บริษัทเชลล์ ในประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายและสถาบันปิโตรเลียม จะเข้าหารือกับผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เกี่ยวกับเรื่องค่าการตลาดในระบบของไทย เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งผู้ค้าเห็นว่าควรอยู่ที่ 1.50-2.00 บาทต่อลิตร ไม่ใช่ 1.10-1.20 บาทต่อลิตร เพราะต้นทุนการบริหารงานขณะนี้เพิ่มสูงขึ้น ทั้งค่าแรง ค่าไฟฟ้า การบริหารงานด้านต่าง ๆ ซึ่งหากกระทรวงพลังงานยังยืนยันที่จะใช้หลักเกณฑ์เดิมในการดูแลกลไกราคาน้ำมัน อาจกระทบต่อผู้ค้าน้ำมันต่างประเทศ ต้องหนีหายไปจากตลาดไทยเหมือนกับ เจท และ คิวเอท เพราะขณะนี้ปั๊มน้ำมันต่าง ๆ ได้ชะลอการลงทุนหรือพัฒนาปั๊มเพิ่มเติม เพราะ 2-3 ปีที่ผ่านมา ค่าการตลาดอยู่ในระดับต่ำมาก และในปี 2549 ค่าการตลาดอยู่ที่ 60-70 สตางค์ต่อลิตร ทำให้ผู้ค้าน้ำมันขาดทุน
นายธีรพจน์ วัชราภัย ประธานกรรมการ บริษัทเชลล์ ในประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายและสถาบันปิโตรเลียม จะเข้าหารือกับผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เกี่ยวกับเรื่องค่าการตลาดในระบบของไทย เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งผู้ค้าเห็นว่าควรอยู่ที่ 1.50-2.00 บาทต่อลิตร ไม่ใช่ 1.10-1.20 บาทต่อลิตร เพราะต้นทุนการบริหารงานขณะนี้เพิ่มสูงขึ้น ทั้งค่าแรง ค่าไฟฟ้า การบริหารงานด้านต่าง ๆ ซึ่งหากกระทรวงพลังงานยังยืนยันที่จะใช้หลักเกณฑ์เดิมในการดูแลกลไกราคาน้ำมัน อาจกระทบต่อผู้ค้าน้ำมันต่างประเทศ ต้องหนีหายไปจากตลาดไทยเหมือนกับ เจท และ คิวเอท เพราะขณะนี้ปั๊มน้ำมันต่าง ๆ ได้ชะลอการลงทุนหรือพัฒนาปั๊มเพิ่มเติม เพราะ 2-3 ปีที่ผ่านมา ค่าการตลาดอยู่ในระดับต่ำมาก และในปี 2549 ค่าการตลาดอยู่ที่ 60-70 สตางค์ต่อลิตร ทำให้ผู้ค้าน้ำมันขาดทุน