อินเทนเนียขยายไลน์ธุรกิจ คว้าสิทธิ์นำเข้าจัดจำหน่ายเครื่องเสียงแบรนด์ T+A จากเยอรมันทำตลาดในไทย เจาะกลุ่มไฮเอนด์ มั่นใจแบรนด์แกร่งนักเล่นรู้จักดี ปีแรกลุยสร้างชื่อก่อน
นายอภิณัฐ อัศวเรืองชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทนเนีย จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯได้รับสิทธิ์ในการนำเข้าและจำหน่ายเครื่องเสียงระดับไฮเอนด์แบรนด์ T+A รายเดียวในไทย โดยจะจำหน่ายผ่านช่องทางร้านของบริษัทฯที่ชื่อว่า “Int Hi-End Music Boutique Shop” ชั้น 4 เซ็นทรัลเวิลด์ที่เพิ่งเปิดบริการเช่นกัน โดยลงทุนไปกว่า 4-5 ล้านบาท
โดยในปีนี้คาดว่าจะมีการแต่งตั้งร้านค้าเป็นตัวแทนจำหน่ายเพิ่มอีกประมาณ 2-3 รายในกรุงเทพฯ ส่วนต่างจังหวัดยังไม่ได้ขยายไป และตั้งงบการตลาดในการประชาสัมพันธ์รวมกว่า 10 ล้านบาท เน้นหนักทางด้านโรดโชว์ การจัดกิจกรรม การแนะนำให้กลุ่มเป้าหมายได้รับรู้
สำหรับราคาจำหน่ายของเครื่องเสียง T+A นั้น มีราคาค่อนข้างสูง เพราะนำเข้าจากเยอรมันโดยตรงทั้งหมด อีกทั้งเจาะกลุ่มระดับบน โดยมีทั้งการขายเป็นชิ้นและเป็นชุด ตั้งแต่หลักแสนขึ้นไปจนถึงมากกว่า 2 ล้านบาทต่อชุด
อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทฯยังไม่ได้ตั้งเป้าหรือคาดหวังยอดขายมากนัก เพราะเป็นปีแรก สิ่งที่ต้องเน้นหนักคือ การพยายามสร้างให้ตลาดได้รับรู้แบรนด์นี้ว่ามีเข้ามาจำหน่ายในไทยแล้วอย่างเป็นทางการ คาดว่าในปีหน้าจะสามารถวางเป้าหมายยอดขายได้แน่นอน
นอกจากนั้น บริษัทฯยังนำเข้าหูฟัง ERGO จากประเทศสวิสแลนด์ และสินค้าอื่นๆที่เป็นตัวแทนจำหน่าย อาทิ Projector Sanyo, Infocus จอภาพ Stewart, Da-lite , OS-Screen และจำหน่ายอุปกรณ์ประกอบหลากหลายชนิด อาทิ สายลำโพง สายสัญญาณ สายไฟและปลั๊กสำหรับใช้กับเครื่องเสียงโดยเฉพาะอีกด้วย
นายอภิณัฐกล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทฯมี 2 ธุรกิจหลักคือ 1.เครื่องเสียง ที่เพิ่งเริ่มดำเนินการปีนี้ คาดว่า จะมีรายได้ในกลุ่มนี้ประมาณ 20-30 ล้านบาท และอีกกลุ่มหนึ่งเป็นธุรกิจเดิมคือ 2.อุปกรณ์การแพทย์ เช่น เครื่องปั๊มนมแบรนด์อะเมด้า และลิลลี่แพค และจะมีแบรนด์ใหม่อีกเข้ามาทำตลาด คาดว่ากลุ่มนี้ปีนี้จะมีรายได้ประมาณ 20 ล้านบาท โดยคาดว่าทั้งปีมีรายได้รวมประมาณ 40-50 ล้านบาท
นายอภิณัฐ อัศวเรืองชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทนเนีย จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯได้รับสิทธิ์ในการนำเข้าและจำหน่ายเครื่องเสียงระดับไฮเอนด์แบรนด์ T+A รายเดียวในไทย โดยจะจำหน่ายผ่านช่องทางร้านของบริษัทฯที่ชื่อว่า “Int Hi-End Music Boutique Shop” ชั้น 4 เซ็นทรัลเวิลด์ที่เพิ่งเปิดบริการเช่นกัน โดยลงทุนไปกว่า 4-5 ล้านบาท
โดยในปีนี้คาดว่าจะมีการแต่งตั้งร้านค้าเป็นตัวแทนจำหน่ายเพิ่มอีกประมาณ 2-3 รายในกรุงเทพฯ ส่วนต่างจังหวัดยังไม่ได้ขยายไป และตั้งงบการตลาดในการประชาสัมพันธ์รวมกว่า 10 ล้านบาท เน้นหนักทางด้านโรดโชว์ การจัดกิจกรรม การแนะนำให้กลุ่มเป้าหมายได้รับรู้
สำหรับราคาจำหน่ายของเครื่องเสียง T+A นั้น มีราคาค่อนข้างสูง เพราะนำเข้าจากเยอรมันโดยตรงทั้งหมด อีกทั้งเจาะกลุ่มระดับบน โดยมีทั้งการขายเป็นชิ้นและเป็นชุด ตั้งแต่หลักแสนขึ้นไปจนถึงมากกว่า 2 ล้านบาทต่อชุด
อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทฯยังไม่ได้ตั้งเป้าหรือคาดหวังยอดขายมากนัก เพราะเป็นปีแรก สิ่งที่ต้องเน้นหนักคือ การพยายามสร้างให้ตลาดได้รับรู้แบรนด์นี้ว่ามีเข้ามาจำหน่ายในไทยแล้วอย่างเป็นทางการ คาดว่าในปีหน้าจะสามารถวางเป้าหมายยอดขายได้แน่นอน
นอกจากนั้น บริษัทฯยังนำเข้าหูฟัง ERGO จากประเทศสวิสแลนด์ และสินค้าอื่นๆที่เป็นตัวแทนจำหน่าย อาทิ Projector Sanyo, Infocus จอภาพ Stewart, Da-lite , OS-Screen และจำหน่ายอุปกรณ์ประกอบหลากหลายชนิด อาทิ สายลำโพง สายสัญญาณ สายไฟและปลั๊กสำหรับใช้กับเครื่องเสียงโดยเฉพาะอีกด้วย
นายอภิณัฐกล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทฯมี 2 ธุรกิจหลักคือ 1.เครื่องเสียง ที่เพิ่งเริ่มดำเนินการปีนี้ คาดว่า จะมีรายได้ในกลุ่มนี้ประมาณ 20-30 ล้านบาท และอีกกลุ่มหนึ่งเป็นธุรกิจเดิมคือ 2.อุปกรณ์การแพทย์ เช่น เครื่องปั๊มนมแบรนด์อะเมด้า และลิลลี่แพค และจะมีแบรนด์ใหม่อีกเข้ามาทำตลาด คาดว่ากลุ่มนี้ปีนี้จะมีรายได้ประมาณ 20 ล้านบาท โดยคาดว่าทั้งปีมีรายได้รวมประมาณ 40-50 ล้านบาท