“ฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์” เตรียมเชิญ 10 บริษัทรถยนต์มาหารือเกี่ยวกับอัตราภาษีสรรพสามิตรถอีโคคาร์ วันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) เพื่อสรุปรายละเอียดและเสนอให้บอร์ดบีโอไอชี้ขาด พร้อมระบุการพิจารณาต้องรอบคอบ และเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย รวมทั้งไม่กระทบผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นที่ดำเนินการอยู่แล้ว
นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ จะเชิญบริษัทรถยนต์ 10 แห่ง มาหารือเกี่ยวกับการกำหนดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ประหยัดพลังงาน หรือ อีโคคาร์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นและแนวทางที่กระทรวงการคลังกำหนด เพราะการกำหนดอัตราภาษีสรรพสามิตขึ้นมาใหม่ จำเป็นต้องรับฟังผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการรถยนต์ ทั้งผู้ประกอบการที่ต้องการผลิตรถยนต์อีโคคาร์ และผู้ประกอบการที่ไม่ได้ผลิตรถยนต์อีโคคาร์ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แม้ว่ารัฐบาลจะสนับสนุนเรื่องรถยนต์ประหยัดพลังงานอย่างเต็มที่ แต่การพิจารณาอัตราภาษีสรรพสามิตก็ต้องคำนึงถึงผู้ประกอบการรถยนต์อื่น ว่า จะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใดด้วย
“ยังไม่สามารถระบุได้ว่า กระทรวงการคลัง จะกำหนดอัตราภาษีสรรพสามิตตามที่ผู้ประกอบการเรียกร้องหรือไม่ เพราะต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ โดยเฉพาะผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการรายอื่น เพราะภาษีสรรพสามิตเป็นภาษีที่ต้องให้ผู้ประกอบการทุกฝ่ายได้รับความเท่าเทียมกัน โดยยืนยันว่า หลังจากหารือกับผู้ประกอบการทั้ง 10 รายแล้ว จะเร่งพิจารณาเพื่อสรุปรายละเอียดให้เร็วที่สุด” นายฉลองภพ กล่าว
ด้าน นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลัง จะเร่งจัดทำภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์อีโคาร์ให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อเสนอให้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) พิจารณาต่อไป โดยยืนยันว่า ได้เร่งดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่ แต่ต้องพิจารณาให้รอบคอบโดยไม่ให้กระทบกระเทือนกับตลาดรถยนต์ภายในประเทศ เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายกับผู้ผลิตรายอื่น ซึ่งเงื่อนไขหลักที่กระทรวงการคลังกำหนดไว้ คือ ไม่จำเป็นต้องเป็นรถยนต์ที่ต่ำกว่า 1,000 ซีซี แต่อาจสูงกว่านี้ก็ได้ จากเดิมที่กระทรวงอุตสาหกรรม ระบุว่า จะมีขนาดไม่เกิน 1,000 ซีซี แต่ยังไม่สรุปว่าจะจำกัดที่ขนาดกระบอกสูบเท่าใด ซึ่งต้องหารือกับภาคเอกชนก่อน รวมทั้งไม่จำกัดประเภทเชื้อเพลิงว่าต้องเป็นเฉพาะน้ำมันดีเซล หรือน้ำมันเบนซิน เท่านั้น แต่สามารถดำเนินการได้หมดทุกประเภทเชื้อเพลิง
“การพิจารณาเรื่องรถยนต์ประหยัดพลังงานไม่ใช่เรื่องง่ายที่กระทรวงการคลัง จะลดภาษีให้ตามที่ร้องขอมา เพราะการพิจารณาไม่ใช่คำนึงถึงผู้ผลิตแต่เพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงผู้ประกอบการรายอื่น โดยเฉพาะผู้ผลิตรายเดิมที่เข้ามาลงทุนก่อน และสามารถผลิตรถยนต์จนได้รับความนิยมจากผู้บริโภค” นายสมหมาย กล่าว
นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ จะเชิญบริษัทรถยนต์ 10 แห่ง มาหารือเกี่ยวกับการกำหนดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ประหยัดพลังงาน หรือ อีโคคาร์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นและแนวทางที่กระทรวงการคลังกำหนด เพราะการกำหนดอัตราภาษีสรรพสามิตขึ้นมาใหม่ จำเป็นต้องรับฟังผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการรถยนต์ ทั้งผู้ประกอบการที่ต้องการผลิตรถยนต์อีโคคาร์ และผู้ประกอบการที่ไม่ได้ผลิตรถยนต์อีโคคาร์ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แม้ว่ารัฐบาลจะสนับสนุนเรื่องรถยนต์ประหยัดพลังงานอย่างเต็มที่ แต่การพิจารณาอัตราภาษีสรรพสามิตก็ต้องคำนึงถึงผู้ประกอบการรถยนต์อื่น ว่า จะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใดด้วย
“ยังไม่สามารถระบุได้ว่า กระทรวงการคลัง จะกำหนดอัตราภาษีสรรพสามิตตามที่ผู้ประกอบการเรียกร้องหรือไม่ เพราะต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ โดยเฉพาะผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการรายอื่น เพราะภาษีสรรพสามิตเป็นภาษีที่ต้องให้ผู้ประกอบการทุกฝ่ายได้รับความเท่าเทียมกัน โดยยืนยันว่า หลังจากหารือกับผู้ประกอบการทั้ง 10 รายแล้ว จะเร่งพิจารณาเพื่อสรุปรายละเอียดให้เร็วที่สุด” นายฉลองภพ กล่าว
ด้าน นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลัง จะเร่งจัดทำภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์อีโคาร์ให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อเสนอให้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) พิจารณาต่อไป โดยยืนยันว่า ได้เร่งดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่ แต่ต้องพิจารณาให้รอบคอบโดยไม่ให้กระทบกระเทือนกับตลาดรถยนต์ภายในประเทศ เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายกับผู้ผลิตรายอื่น ซึ่งเงื่อนไขหลักที่กระทรวงการคลังกำหนดไว้ คือ ไม่จำเป็นต้องเป็นรถยนต์ที่ต่ำกว่า 1,000 ซีซี แต่อาจสูงกว่านี้ก็ได้ จากเดิมที่กระทรวงอุตสาหกรรม ระบุว่า จะมีขนาดไม่เกิน 1,000 ซีซี แต่ยังไม่สรุปว่าจะจำกัดที่ขนาดกระบอกสูบเท่าใด ซึ่งต้องหารือกับภาคเอกชนก่อน รวมทั้งไม่จำกัดประเภทเชื้อเพลิงว่าต้องเป็นเฉพาะน้ำมันดีเซล หรือน้ำมันเบนซิน เท่านั้น แต่สามารถดำเนินการได้หมดทุกประเภทเชื้อเพลิง
“การพิจารณาเรื่องรถยนต์ประหยัดพลังงานไม่ใช่เรื่องง่ายที่กระทรวงการคลัง จะลดภาษีให้ตามที่ร้องขอมา เพราะการพิจารณาไม่ใช่คำนึงถึงผู้ผลิตแต่เพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงผู้ประกอบการรายอื่น โดยเฉพาะผู้ผลิตรายเดิมที่เข้ามาลงทุนก่อน และสามารถผลิตรถยนต์จนได้รับความนิยมจากผู้บริโภค” นายสมหมาย กล่าว