กลุ่มดุสิตธานี โชว์ศักยภาพโรงแรมสายเลือดไทย ทุ่มกว่าหมื่นล้านบาท สยายปีกคลุมกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และอีกหลายประเทศทั่วโลก เผยแผนธุรกิจ 4 ปี เปิดโรงแรมเพิ่มอีก 4 แห่ง ในดูไบ และ กรุงอาบูดาบี ใช้งบลงทุนเฉียดหมื่นล้านบาท พร้อมเตรียมเปิดรับพนักงานคนไทย 3 พันคนในปี 2553 ประจำการในต่างประเทศ เผยกลยุทธ์การทำตลาด เน้นบริการอย่างไทยแท้โดยคนไทยมัดใจนักท่องเที่ยว
นายแซม อีลิค รุทท์มานน์ (Sam-Erik Ruttmann) Regional Vice President,Middle East กลุ่มโรงแรมดุสิตธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกลุ่มโรงแรมดุสิตธานี มีแผนที่จะลงทุนสร้างโรงแรมที่พักในรัฐดูไบ และ กรุงอาบูดาบี ประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวม 4 แห่ง ภายใน 4 ปีนับจากนี้ไป ซึ่งมูลค่าการลงทุนยังสรุปไม่ได้ชัดเจนว่าจะเป็นเท่าใด แต่คาดว่าน่าจะหลายร้อนล้านเหรียญสหรัฐ หรือนับหมื่นล้านบาท และเมื่อโรงแรมสร้างเสร็จพร้อมให้บริการได้ในปี 2553 โรงแรมก็จะต้องการรับพนักงานเพื่อเข้ามาทำงานที่โรงแรมทั้ง 4 แห่งรวมไม่น้อยกว่า 3,000 คน โดย 25% จะรับจากนักเรียนที่จบจากวิทยาลัยการโรงแรมของโรงแรมดุสิตเอง อีกส่วนหนึ่งจะเปิดกว้างให้แก่ผู้สนใจ ซึ่งแรงงานที่เราสนใจมากที่สุดคืนคนไทย
“โรงแรมในเครือดุสิตทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทย หรือ สาขาที่ไปเปิดในต่างประเทศเราจะเลือกรับพนักงานที่เป็นคนไทยก่อน ล่าสุดที่เราเปิดโรงแรมดุสิต ดูไบในขณะนี้ก็ใช้บุคลากรที่เป็นคนไทยกว่า 70% เพราะเราต้องการส่งเสริมการให้บริการแบบไทยโดยคนไทย สไตล์ฮอตเพอร์ทูนิตี้สู่เวทีโลก และโรงแรมดุสิตเองก็เชื่อว่าการให้บริการแบบไทยนี้เองคือเสน่ห์ที่ต่างชาติชื่นชอบ และถือเป็นจุดขายที่สำคัญในด้านบริการของโรงแรมดุสิตทั่วโลก ซึ่งขณะนี้มีอยู่กว่า 18 แห่ง กระจายอยู่ในประเทศต่างๆ”
ทั้งนี้รายละเอียดของโรงแรมที่จะเปิด 4 แห่งได้แก่ 1.ดุสิต เรสซิเดนท์ สร้างที่รัฐดูไบ จำนวน 150 ห้อง เป็นลักษณะบูติกเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ เริ่มทยอยเปิดให้บริการแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมาจำนวน 48 ห้อง อัตราเข้าพักขณะนี้กว่า 70% ลูกค้าหลักคือนักธุรกิจ และ นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ และยุโรป 2. โรงแรมดุสิต รีสอร์ท เทวารัญ จำนวน 120 ห้อง เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ตั้งอยู่ในโครงการปาล์ม จูบีรา บีช ดูไบ โครงการนี้เป็นการร่วมลงทุนระหว่างกลุ่มโรงแรมดุสิต กับพันธมิตรนักลงทุนจากประเทศคูเวต
3.โครงการดุสิต อพาร์ทเมนต์ดูไบ มารีนา จำนวน 150 ห้อง ตั้งอยู่ในโครงการ ปาล์ม จูบีรา บีช เช่นกัน โดยร่วมลงทุนกับกลุ่มข้าราชการเกษียณในรัฐดูไบ และ 4.โครงการ โรงแรมดุสิต อาบูดาบี ขนาด 500 ห้อง และเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์อีก 400 ห้อง ตั้งอยู่ในกรุงอาบูดาบี ใกล้กับศูนย์การประชุมและ สนามบิน โครงการนี้ถือเป็นการลงทุนครั้งแรกของกลุ่มโรงแรมดุสิต ในกรุงอาบูดาบี โดยร่วมลงทุนกับกลุ่มรอยัลแฟมิลี่แห่งนครสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
อย่างไรก็ตาม นอกจากการลงทุน ใน ดูไบ และ อาบูดาบี แล้ว กลุ่มโรงแรมดุสิต ยังมีพันธมิตรและยังมีแผนที่จะเข้าร่วมลงทุนในอีกหลายประเทศ เช่น จีน อินเดีย และ ออสเตรเลีย คาดว่าภายในปี 2553 โรงแรมดุสิตจะมีห้องพักกระจายอยู่ในสถานที่ต่างๆทั่วโลกเพิ่มอีกมากกว่า 1,000 ห้อง โดยทุกประเทศที่เราเข้าไปตั้งโรงแรม จะนำแรงงานจากไทยไปเป็นพนักงานของโรงแรม เพื่อชูเอกลักษณ์ความเป็นไทย ส่วนสาเหตุที่เลือกลงทุนในดูไบ และ อาบูดาบี หลายโครงการ เพราะเห็นศักยภาพการเติบโตของเมือง และความต้องการของตลาด โดยทั้ง 2 เมืองดังกล่าว เป็นเมืองหลวง และ เมืองท่องเที่ยวของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จึงมีกำลังซื้อสูง
ล่าสุดรายงานข่าวจาก บริษัท ซีบีเอส ทราเวล จำกัด ซึ่งลงทุนสร้างระบบการจองแบบออนไลน์ ระบุว่า ในงาน อารเบียน ทราเวลมาร์ทที่ผ่านมา บริษัทได้คู่ค้าเพิ่ม เป็นบริษัทนำเที่ยวรายใหญ่ ในกรุงดูไบ โดยสัญญาครั้งนี้ บริษัทดังกล่าวจะส่งนักท่องเที่ยวจากดูไบเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยซึ่งจากที่คำนวณเบื้องต้นขณะนี้ บริษัทดังกล่าวจะนำนักท่องเที่ยวเข้ามาในปีนี้หลายพันคน
นายแซม อีลิค รุทท์มานน์ (Sam-Erik Ruttmann) Regional Vice President,Middle East กลุ่มโรงแรมดุสิตธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกลุ่มโรงแรมดุสิตธานี มีแผนที่จะลงทุนสร้างโรงแรมที่พักในรัฐดูไบ และ กรุงอาบูดาบี ประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวม 4 แห่ง ภายใน 4 ปีนับจากนี้ไป ซึ่งมูลค่าการลงทุนยังสรุปไม่ได้ชัดเจนว่าจะเป็นเท่าใด แต่คาดว่าน่าจะหลายร้อนล้านเหรียญสหรัฐ หรือนับหมื่นล้านบาท และเมื่อโรงแรมสร้างเสร็จพร้อมให้บริการได้ในปี 2553 โรงแรมก็จะต้องการรับพนักงานเพื่อเข้ามาทำงานที่โรงแรมทั้ง 4 แห่งรวมไม่น้อยกว่า 3,000 คน โดย 25% จะรับจากนักเรียนที่จบจากวิทยาลัยการโรงแรมของโรงแรมดุสิตเอง อีกส่วนหนึ่งจะเปิดกว้างให้แก่ผู้สนใจ ซึ่งแรงงานที่เราสนใจมากที่สุดคืนคนไทย
“โรงแรมในเครือดุสิตทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทย หรือ สาขาที่ไปเปิดในต่างประเทศเราจะเลือกรับพนักงานที่เป็นคนไทยก่อน ล่าสุดที่เราเปิดโรงแรมดุสิต ดูไบในขณะนี้ก็ใช้บุคลากรที่เป็นคนไทยกว่า 70% เพราะเราต้องการส่งเสริมการให้บริการแบบไทยโดยคนไทย สไตล์ฮอตเพอร์ทูนิตี้สู่เวทีโลก และโรงแรมดุสิตเองก็เชื่อว่าการให้บริการแบบไทยนี้เองคือเสน่ห์ที่ต่างชาติชื่นชอบ และถือเป็นจุดขายที่สำคัญในด้านบริการของโรงแรมดุสิตทั่วโลก ซึ่งขณะนี้มีอยู่กว่า 18 แห่ง กระจายอยู่ในประเทศต่างๆ”
ทั้งนี้รายละเอียดของโรงแรมที่จะเปิด 4 แห่งได้แก่ 1.ดุสิต เรสซิเดนท์ สร้างที่รัฐดูไบ จำนวน 150 ห้อง เป็นลักษณะบูติกเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ เริ่มทยอยเปิดให้บริการแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมาจำนวน 48 ห้อง อัตราเข้าพักขณะนี้กว่า 70% ลูกค้าหลักคือนักธุรกิจ และ นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ และยุโรป 2. โรงแรมดุสิต รีสอร์ท เทวารัญ จำนวน 120 ห้อง เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ตั้งอยู่ในโครงการปาล์ม จูบีรา บีช ดูไบ โครงการนี้เป็นการร่วมลงทุนระหว่างกลุ่มโรงแรมดุสิต กับพันธมิตรนักลงทุนจากประเทศคูเวต
3.โครงการดุสิต อพาร์ทเมนต์ดูไบ มารีนา จำนวน 150 ห้อง ตั้งอยู่ในโครงการ ปาล์ม จูบีรา บีช เช่นกัน โดยร่วมลงทุนกับกลุ่มข้าราชการเกษียณในรัฐดูไบ และ 4.โครงการ โรงแรมดุสิต อาบูดาบี ขนาด 500 ห้อง และเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์อีก 400 ห้อง ตั้งอยู่ในกรุงอาบูดาบี ใกล้กับศูนย์การประชุมและ สนามบิน โครงการนี้ถือเป็นการลงทุนครั้งแรกของกลุ่มโรงแรมดุสิต ในกรุงอาบูดาบี โดยร่วมลงทุนกับกลุ่มรอยัลแฟมิลี่แห่งนครสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
อย่างไรก็ตาม นอกจากการลงทุน ใน ดูไบ และ อาบูดาบี แล้ว กลุ่มโรงแรมดุสิต ยังมีพันธมิตรและยังมีแผนที่จะเข้าร่วมลงทุนในอีกหลายประเทศ เช่น จีน อินเดีย และ ออสเตรเลีย คาดว่าภายในปี 2553 โรงแรมดุสิตจะมีห้องพักกระจายอยู่ในสถานที่ต่างๆทั่วโลกเพิ่มอีกมากกว่า 1,000 ห้อง โดยทุกประเทศที่เราเข้าไปตั้งโรงแรม จะนำแรงงานจากไทยไปเป็นพนักงานของโรงแรม เพื่อชูเอกลักษณ์ความเป็นไทย ส่วนสาเหตุที่เลือกลงทุนในดูไบ และ อาบูดาบี หลายโครงการ เพราะเห็นศักยภาพการเติบโตของเมือง และความต้องการของตลาด โดยทั้ง 2 เมืองดังกล่าว เป็นเมืองหลวง และ เมืองท่องเที่ยวของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จึงมีกำลังซื้อสูง
ล่าสุดรายงานข่าวจาก บริษัท ซีบีเอส ทราเวล จำกัด ซึ่งลงทุนสร้างระบบการจองแบบออนไลน์ ระบุว่า ในงาน อารเบียน ทราเวลมาร์ทที่ผ่านมา บริษัทได้คู่ค้าเพิ่ม เป็นบริษัทนำเที่ยวรายใหญ่ ในกรุงดูไบ โดยสัญญาครั้งนี้ บริษัทดังกล่าวจะส่งนักท่องเที่ยวจากดูไบเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยซึ่งจากที่คำนวณเบื้องต้นขณะนี้ บริษัทดังกล่าวจะนำนักท่องเที่ยวเข้ามาในปีนี้หลายพันคน