ไอเดีย เอเวนนู ชี้ช่องว่างโอกาส เอเยนซี่ ระดับกลางเกิด ระบุการเมืองเป็นตัวแปรสำคัญ ประกาศเดินเครื่องรุกขยายจับตลาดใหม่ โฟกัส ธุรกิจ อสังหา ประกันภัย สถาบันศึกษา เครื่องใช้ไฟฟ้า เพิ่มฐานเสริมแกร่ง หวังสิ้นปีกระตุ้นยอดรายได้โตได้อีก 12% คิดเป็นมูลค่ากว่า 420 ล้านบาท
นายยงวัฒน์ พฤกษานุวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเดีย เอเวนนู จำกัด เปิดเผยถึง สภาพของตลาดเอเยนซี่ บริษัทรับจัดทำสื่อโฆษณาให้กับแบรนด์ของลูกค้า ที่มีอยู่ในตลาดว่า ปัจจุบันมีการแข่งขันการทำทำธุรกิจมาโดยตลอด โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงวิกฤตการเมือง ยุคข้าวยากหมากแพง ธุรกิจเอเยนซี่ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นเครื่องมือต่อการสร้างแบรนด์สำหรับธุรกิจของลูกค้า ซึ่งตัวแปรสำคัญในการทำตลาดนั้นคืองบประมาณ
ทั้งนี้บริษัทฯมองว่าเป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับบริษัทเอเยนซี่ระดับกลาง ที่จะสามารถขยายตัวได้ตามวิกฤตเศรษฐกิจการเมืองในปัจจุบันมากที่สุด เนื่องจากธุรกิจไม่กระเตื้องการขยายตัวไม่มีกลุ่มลูกค้ายิ่งต้องเร่งสร้างแบรนด์ ทำสื่อโฆษณาต่างๆทั้งในแง่ของการ ทำทั้งบีโลว์และอะโบฟเดอะไลน์ เรื่องงบประมาณนับว่าเป็นสิ่งสำคัญในทำตลาด เช่นเดียวกันกับช่องว่างในการจัดทำตลาดของบริษัทเอเยนซี่ระดับกลางที่เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาตรงจุดนี้ได้มากกว่าบริษัทฯใหญ่ที่มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า
ดังนั้นเป้าหมายก้าวสู่ปีที่ 5 บริษัทจะรุกทำ 3 ปัจจัยหลัก คือ 1.Creative Focus ทั้งอะโบฟและบีโลว์ เดอะไลน์ ที่มีความแตกต่างจากคู่แข่ง 2. Focus เข้าถึงมุมมอง โฟกัสถึงลูกค้าจริงๆ 3.การขยายฐานลูกค้า โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องเป็นผู้นำในตลาด เบื้องต้นบริษัทฯเตรียมขยายฐานลูกค้าใหม่ ในกลุ่มธุรกิจประกันภัย อสังหาริมทรัพย์ สถาบันการเงิน ตลอดจนผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า อีกด้วย ซึ่งยังไม่สามารถระบุว่าเป็นบริษัทฯใด ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงาน พร้อมจะเปิดตัวได้ ช่วงเดือนมิถุนายนหรือเดือนกรกฎาคม 2550 นี้
จากปัจจุบันบริษัทฯมีลูกค้าหลักๆอยู่ประมาณ 10 ราย ประกอบด้วย อาหารแช่แข็งสุรพลฟู้ดส์ เครื่องดื่มแรงเยอร์ กาแฟกระป๋อง ปลาสวรรค์ทาโร มิสเตอร์โดนัท อานตี้แอนส์เพรทเซล ผลิตภัณฑ์ตราเกษตร ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก พีเจ้น โรงเรียน นานาชาติจีแอลแอลเอส โครงการพิเศษของธนาคารกรุงเทพ และทรูคอร์ปอเรชั่น
ที่ผ่านมาบริษัทฯได้วางกลยุทธ์การสร้างสรรค์งาน ที่ เรียกว่า เอ บี ซี ดี เช่น1.Advertising Is To Sell เป้าหมายหลักคือการช่วยเพิ่มยอดขายให้กับลูกค้า โดยเชื่อว่าโฆษณาที่ดีจะต้องเพิ่มยอดขายให้กับสินค้า 2.Brand Lifecycle การกำหนดวงจรชีวิตแบรนด์ อย่างแม่นยำ 3.Compensation By Results การเสนอเก็บค่าบริการโดยขึ้นอยู่กับผลประกอบการลูกค้า แนวคิดที่จะผูกติดยอดขายของลูกค้าเข้ากับ เอเยนซี่ฟี ที่จะได้รับ 4.Directors Service เข้าถึงลูกค้า ผู้บริหารสามารถทำงานกับลูกค้าโดยตรง สิ่งนี้จะสามารถลดขั้นตอนในการทำงาน งานจะมีความรวดเร็วมากขึ้น
สิ่งนั้นเป็นผลพวงให้บริษัทฯได้รับความไว้วางใจสำหรับกลุ่มลูกค้าอยู่เป็นอย่างดี การเติบโตยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องทุกปี จากยอดบิลลิ่ง 120 ล้านบาท ในปี 2546 เพิ่มขึ้นกว่า 370 ล้านบาท ในปี 2549 ซึ่งนับได้ว่าเป็นตัวเลขของการเติบโตที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยจากการวางแผนการทำตลาดอีกทั้งการวางแผนเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเจาะตามเซ็กเม้นต์ที่ชัดเจน ทั้งสื่อบีโลว์และอะโบฟ เดอะไลน์จากนี้ เชื่อว่าสิ้นปีนี้ยอดรายได้จะสามารถโตได้อีก 10- 12% หรือ คิดเป็นมูลค่า 420 ล้านบาท