ธุรกิจค้าปลีกร้านสุขภาพและความงามในไทย ถือได้ว่าแข่งขันกันรุนแรงในระดับหนึ่ง จากค่ายใหญ่เพียงไม่กี่ค่ายที่เป็นเชนขนาดใหญ่ เช่น วัตสัน บู้ทส์ นอกนั้นก็เป็นระดับมวยรองที่มีสาขาไม่มากนัก
ร้านวัตสันซึ่งอยู่ในเครือข่ายของกลุ่มเซ็นทรัลก็มีบทรุกที่น่าสนใจ ภายใต้การกุมบังเหียนของชายหนุ่มที่ชื่อว่า “โทบี้ แอนเดอร์สัน”
ในแง่ของพื้นฐานการศึกษา โทบี้จบการศึกษาปริญญาตรีจากยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ เบอร์มิงแฮม (University of Birmingham) เกียรตินิยมอันดับ 2 สาขาพาณิชย์ศาสตร์ นอกจากนั้นแล้ว โทบี้ยังเข้ารับการอบรมการจัดการทั่วไปมากมาย อาทิ London Business school และ Ashridge Management Center ปัจจุบันสมรสแล้วและยังไม่มีบุตร
“โทบี้ แอนเดอร์สัน” เริ่มงานกับบริษัท เซ็นทรัล วัตสัน จำกัด ในตำแหน่งผู้จักการทั่วไป เมื่อเดือนเมษายน 2549โดยมีหน้าที่หลักในการพัฒนาและวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด และการพัฒนาธุรกิจของวัตสันในประเทศไทย นอกจากนั้นแล้ว โทบี้ยังดูแลรับผิดชอบในด้านการเงิน เทคโนโลยีสารสนเทศ การบริหารร้านค้า ซัปพลายเชน และการเลือกทำเลในการขยายสาขา
ก่อนร่วมงานกับวัตสันนั้น โทบี้ ได้ร่วมงานกับ เซนท์เบอร์รี ซูเปอร์มาร์เก็ตสาขาที่ใหญ่เป็นอันดับสองของอังกฤษ เป็นเวลา 11 ปี โดยเริ่มอาชีพการทำงานในประเทศอังกฤษและยุโรป ด้วยการดูและเกี่ยวกับสินค้าอุปโภค อาทิ เครื่องใช้ในบ้าน สินค้าสำหรับเด็ก และสินค้าสำหรับสัตว์
หลังจากนั้น โทบี้ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทั่วไปของเซ็นเบอร์รีด้วยวัยเพียง 27 ปี ซึ่งถือว่าเป็นผู้บริหารที่มีอายุน้อยที่สุด พร้อมกับดูแลจัดการธุรกิจสถานีบริการน้ำมันกว่า 250 สถานี ด้วยเงินหมุนเวียนถึง 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในระยะเวลา 2 ปี
ในช่วงเวลาที่ทำงานในต่างประเทศนั้น โทบี้ได้รับประสบการณ์มากมายอันหาค่ามิได้ พร้อมทำให้เขาได้มีความรู้ความชำนาญเพิ่มขึ้นอีกด้วย อาทิ การดูแลจัดการสร้างเส้นทางจัดซื้อจากฮ่องกงและตะวันออกไกลไปยังอังกฤษ และบริหารโครงการใหญ่ ๆ เพื่อพัฒนาสินค้าทั่วไปให้กับร้านเซ็นต์เบอร์รี
อีกทั้ง โทบี้ยังมีประสบการณ์ในด้านบริหารธุรกิจอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น อินเทอร์เน็ตของเซ็นต์เบอร์รี ช่องทางการจำหน่ายสินค้าเพื่อการอุปโภค บริโภค อาหาร ไวน์ อุปกรณ์เพื่อความบันเทิง ดอกไม้ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และธุรกิจให้เช่าดีวีดี ซึ่งทำให้เซ็นต์เบอร์รีกลายเป็นบริษัทที่จำหน่ายสินค้าอาหารที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
กับมุมมองในการทำธุรกิจที่เมืองไทย เขามองว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่น่าสนใจ มีอะไรที่พิเศษ โดยเฉพาะรูปแบบการทำธุรกิจ แต่ก็ถือว่าเป็นตลาดที่แข่งขันรุนแรงเหมือนกัน ทั้งในด้านการตลาด นวัตกรรม และการหาทำเลเพื่อขยายสาขา
“แต่ผมเชื่อในทีมงานของบริษัทและแผนงานที่เราตั้งขึ้นมาจะสามารถต่อสู้กับคู่แข่งและเป็นผู้ในตลาดได้”
เขาให้ความสำคัญกับการทำสำรวจวิจัยความต้องการของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก เพื่อที่จะได้รู้ถึงความต้องการที่แท้จริงและถูกต้อง และสามารถทำตลาดได้ตรงจุดจริงๆ ซึ่งีปนี้วัตสันก็ได้เพิ่มงบการทำวิจัยมากขึ้นอีก 20% ซึ่งอยู่ในงบลงทุนรวมไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาทในปีนี้ เพื่อการสร้างประสิทธิภาพในการทำตลาดนั่นเอง
อย่างไรก็ตามการขยายสาขาในปีนี้วัตสันเองก็อาจจะขยายในจำนวนที่ไม่มากนัก เนื่องจากปีนี้ต้องการเน้นการวางระบบด้านไอทีให้แข็งแกร่งเพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคตระยะยาว โดยปีนี้คาดว่าจะเปิดสาขาใหม่เพียง 10 แห่งเท่านั้น จากปัจจุบันที่มี 143 สาขาแล้ว โดยให้ความสนใจตลาดต่างจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวเป็นหลัก
“ ในช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดีอย่างที่คิดไว้ เราต้องวางแผนให้รอบคอบมากขึ้น ทำงานมากขึ้น เพื่อที่จะได้เติบโตต่อไปเรื่อยๆ กับเป้าหมายรายได้ปีนี้ที่จะเติบโต 19%” โทบี้กล่าว