บางไทร ฮอสปิเฮ้าส์ จัดแคมเปญช่วยเหลือลูกกตัญญู ปูทางศูนย์ดูแลผู้สูงอายุครบวงจร ถูก และดี เนิร์สซิ่งโฮม อันดับ 1 ประเทศ ภายใต้ชื่อ เวลเนสเนิร์สซิ่งโฮม ชูจุดแข็ง 3 ประการหลัก
น.พ. บุญชัย อิศราพิสิษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บางไทร ฮอสปิเฮ้าส์ จำกัด โครงการพักอาศัยของผู้สูงอายุที่มีบริการครบวงจรทั้งเรื่องการรักษาพยาบาล และการดูแลสุขภาพ จังหวัดอยุธยา กล่าวว่า ปีนี้ บริษัทฯ ได้จัดโครงการพิเศษชื่อว่า โครงการลูกกตัญญู โดยจะเปิดรับสมัครลูกที่ต้องดูแลพ่อ หรือแม่ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โดยต้องดูแลใกล้ชิดจนทำให้ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ มีฐานะครอบครัวยากจน ได้มีโอกาสทำงานใน บริษัทฯ ในตำแหน่งพนักงานดูแลผู้ป่วย โดยบริษัทฯ จะมอบสวัสดิการพิเศษ โดยการเลี้ยงดูพ่อหรือแม่ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เป็นการช่วยให้ลูกกตัญญูได้มีโอกาสแสดงความกตัญญูและประกอบอาชีพได้ในคราวเดียวกัน
สำหรับโครงการ เวลเนส เนิร์สซิ่งโฮม เป็นโครงการให้เช่ารายเดือน ประกอบด้วย อาคาร 3 หลัง แต่ละหลังจะรับดูแลผู้สูงอายุได้ 50 ราย โดยบริษัทฯ จะจัดงบประมาณช่วยเหลือสังคมในโครงการลูกกตัญญู 10% ของเตียงที่มี คือ 5 เตียงต่อ 1 หลัง รวมอาคาร 3 หลัง จะเปิดรับช่วยลูกกตัญญูได้ทั้งหมด 15 ราย
การก่อสร้างมีความพิเศษกว่า เนิร์สซิ่งโฮม ที่มีอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร 3 ประการ คือ 1. เน้นคุณภาพในการดูแลผู้ป่วยมาอันดับหนึ่ง 2. มีสภาพแวดล้อมในการพักอาศัยที่ดีมาก โดยได้มีการออกแบบให้เป็นอาคารชั้นเดียวมี และมีสวนหย่อมและลานโล่งอยู่ตรงกลาง และ 3. ราคาประหยัด สำหรับค่าบริการของ เวลเนสเนิร์สซิ่งโฮม ถูกกว่าในเขตกรุงเทพมหานคร ประมาณ 10,000 – 15,000 บาท ต่อเดือน เมื่อเปรียบเทียบกับที่พักระดับเดียวกัน ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายประจำของบุตรที่ต้องจ่ายเพื่อดูแลพ่อแม่ลงได้มาก ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าจะใช้เงินทั้งสิ้นกว่า 150 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 8 เดือน และตั้งเป้าลูกค้าน่าจะเช่าเต็มทุกห้อง ภายในระยะเวลา 2 เดือน หลังก่อสร้างเสร็จ
อนึ่ง บริษัท เวลเนสซิตี้ จำกัด เป็นบริษัทแม่ของ บริษัท บางไทรฮอสปิเฮ้าส์ จำกัด ได้จัดทำแผนงานเมืองสุขภาพดี (Wellness City) อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื้อที่โครงการ 1,200 ไร่ โดยเริ่มโครงการในปี 2547 จัดเป็นที่พักอาศัยของผู้สูงอายุที่มีบริการครบทั้งเรื่องการรักษาพยาบาล การดูแลสุขภาพ การให้ความสะดวกสบายในการพักอาศัย ทั้งเรื่องการทำความสะอาดบ้าน การบริการอาหาร การบริการผู้ดูแลผู้สูงอายุ การจัดทำกิจกรรมชุมชน เพื่อให้สมาชิกได้มีสังคมร่วมกับเพื่อนบ้าน โดยมีเป้าหมายในการดำเนินงาน และแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มสุขภาพแข็งแรง จะพักอาศัยในหมู่บ้าน เวลเนสโฮม 2.กลุ่มสุขภาพอ่อนแอ จะพักอาศัยในหมู่บ้านฮอสปิเฮ้าส์ และ 3. กลุ่มที่ต้องดูแลใกล้ชิด จะพักอาศัยใน Nursing Home
สำหรับการดำเนินโครงการ บริษัทฯ ได้เริ่มทำหมู่บ้านสำหรับผู้สูงอายุที่มีสุขภาพอ่อนแอก่อน ในปี 2547 โครงการประสบความสำเร็จดี ใช้ชื่อ หมู่บ้านบางไทร ฮอสปิเฮ้าส์ (Bangsai Hospi house) สามารถจำหน่ายบ้านไปแล้วมากกว่า 200 หลัง โดยกลุ่มลูกค้าเป็นผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และผู้ที่กลับจากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นกลุ่มลูกค้าหลัก และในปี 2549 ได้เริ่มโครงการ เรียกว่า หมู่บ้าน เวลเนสโฮม (Wellness Home สำหรับกลุ่มที่มีสุขภาพแข็งแรง ที่ต้องการบ้านที่มีบริเวณกว้างขวางเป็นพิเศษ ซึ่งได้ผลตอบรับดีเช่นกัน สามารถจำหน่ายได้แล้วประมาณ 50 หลัง สำหรับปี 2550 เน้นกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องดูแลใกล้ชิด ทางบริษัทจะจัดสร้างเป็นอาคาร ขนาดใหญ่ 3 หลัง แต่ละหลังดูแลผู้สูงอายุได้ 50 คน ทำเป็น เนิร์สซิ่งโฮม ที่รองรับผู้สูงอายุได้ 150 คน ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินงาน
น.พ. บุญชัย อิศราพิสิษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บางไทร ฮอสปิเฮ้าส์ จำกัด โครงการพักอาศัยของผู้สูงอายุที่มีบริการครบวงจรทั้งเรื่องการรักษาพยาบาล และการดูแลสุขภาพ จังหวัดอยุธยา กล่าวว่า ปีนี้ บริษัทฯ ได้จัดโครงการพิเศษชื่อว่า โครงการลูกกตัญญู โดยจะเปิดรับสมัครลูกที่ต้องดูแลพ่อ หรือแม่ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โดยต้องดูแลใกล้ชิดจนทำให้ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ มีฐานะครอบครัวยากจน ได้มีโอกาสทำงานใน บริษัทฯ ในตำแหน่งพนักงานดูแลผู้ป่วย โดยบริษัทฯ จะมอบสวัสดิการพิเศษ โดยการเลี้ยงดูพ่อหรือแม่ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เป็นการช่วยให้ลูกกตัญญูได้มีโอกาสแสดงความกตัญญูและประกอบอาชีพได้ในคราวเดียวกัน
สำหรับโครงการ เวลเนส เนิร์สซิ่งโฮม เป็นโครงการให้เช่ารายเดือน ประกอบด้วย อาคาร 3 หลัง แต่ละหลังจะรับดูแลผู้สูงอายุได้ 50 ราย โดยบริษัทฯ จะจัดงบประมาณช่วยเหลือสังคมในโครงการลูกกตัญญู 10% ของเตียงที่มี คือ 5 เตียงต่อ 1 หลัง รวมอาคาร 3 หลัง จะเปิดรับช่วยลูกกตัญญูได้ทั้งหมด 15 ราย
การก่อสร้างมีความพิเศษกว่า เนิร์สซิ่งโฮม ที่มีอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร 3 ประการ คือ 1. เน้นคุณภาพในการดูแลผู้ป่วยมาอันดับหนึ่ง 2. มีสภาพแวดล้อมในการพักอาศัยที่ดีมาก โดยได้มีการออกแบบให้เป็นอาคารชั้นเดียวมี และมีสวนหย่อมและลานโล่งอยู่ตรงกลาง และ 3. ราคาประหยัด สำหรับค่าบริการของ เวลเนสเนิร์สซิ่งโฮม ถูกกว่าในเขตกรุงเทพมหานคร ประมาณ 10,000 – 15,000 บาท ต่อเดือน เมื่อเปรียบเทียบกับที่พักระดับเดียวกัน ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายประจำของบุตรที่ต้องจ่ายเพื่อดูแลพ่อแม่ลงได้มาก ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าจะใช้เงินทั้งสิ้นกว่า 150 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 8 เดือน และตั้งเป้าลูกค้าน่าจะเช่าเต็มทุกห้อง ภายในระยะเวลา 2 เดือน หลังก่อสร้างเสร็จ
อนึ่ง บริษัท เวลเนสซิตี้ จำกัด เป็นบริษัทแม่ของ บริษัท บางไทรฮอสปิเฮ้าส์ จำกัด ได้จัดทำแผนงานเมืองสุขภาพดี (Wellness City) อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื้อที่โครงการ 1,200 ไร่ โดยเริ่มโครงการในปี 2547 จัดเป็นที่พักอาศัยของผู้สูงอายุที่มีบริการครบทั้งเรื่องการรักษาพยาบาล การดูแลสุขภาพ การให้ความสะดวกสบายในการพักอาศัย ทั้งเรื่องการทำความสะอาดบ้าน การบริการอาหาร การบริการผู้ดูแลผู้สูงอายุ การจัดทำกิจกรรมชุมชน เพื่อให้สมาชิกได้มีสังคมร่วมกับเพื่อนบ้าน โดยมีเป้าหมายในการดำเนินงาน และแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มสุขภาพแข็งแรง จะพักอาศัยในหมู่บ้าน เวลเนสโฮม 2.กลุ่มสุขภาพอ่อนแอ จะพักอาศัยในหมู่บ้านฮอสปิเฮ้าส์ และ 3. กลุ่มที่ต้องดูแลใกล้ชิด จะพักอาศัยใน Nursing Home
สำหรับการดำเนินโครงการ บริษัทฯ ได้เริ่มทำหมู่บ้านสำหรับผู้สูงอายุที่มีสุขภาพอ่อนแอก่อน ในปี 2547 โครงการประสบความสำเร็จดี ใช้ชื่อ หมู่บ้านบางไทร ฮอสปิเฮ้าส์ (Bangsai Hospi house) สามารถจำหน่ายบ้านไปแล้วมากกว่า 200 หลัง โดยกลุ่มลูกค้าเป็นผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และผู้ที่กลับจากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นกลุ่มลูกค้าหลัก และในปี 2549 ได้เริ่มโครงการ เรียกว่า หมู่บ้าน เวลเนสโฮม (Wellness Home สำหรับกลุ่มที่มีสุขภาพแข็งแรง ที่ต้องการบ้านที่มีบริเวณกว้างขวางเป็นพิเศษ ซึ่งได้ผลตอบรับดีเช่นกัน สามารถจำหน่ายได้แล้วประมาณ 50 หลัง สำหรับปี 2550 เน้นกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องดูแลใกล้ชิด ทางบริษัทจะจัดสร้างเป็นอาคาร ขนาดใหญ่ 3 หลัง แต่ละหลังดูแลผู้สูงอายุได้ 50 คน ทำเป็น เนิร์สซิ่งโฮม ที่รองรับผู้สูงอายุได้ 150 คน ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินงาน