xs
xsm
sm
md
lg

เวนเจอร์เทคทุ่มงบ200ล้าน แจ้งเกิดโรตีแช่แข็งลงตลาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เวนเจอร์ฯ เทเม็ดเงินกว่า 200 ล้านบาท มุ่งมั่นปั้นน้องใหม่ ฮิปโปโรตีแช่แข็งรายแรกในไทย ฝันหวาน 3 ปี ยอดขาย 500 ล้านบาท

นายวอลเตอร์ ลี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เวนเจอร์เทค มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแช่แข็ง ปูอัดคานิแฟมิลี่ เปิดเผยว่า บริษัทฯได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นโรตีสำเร็จรูปแช่แข็ง ภายใต้ยี่ห้อ ฮิปโปโรตี ซึ่งนับว่าเป็นรายแรกของประเทศไทย ที่เข้ามาทำตลาด

ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้บริษัทฯแตกไลน์ใหม่ เนื่องจากปัจจุบันตลาดอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานเป็นตลาดที่ใหญ่และมีการเติบโตมาได้ด้วยดีมาโดยตลอด และคิดว่าปีนี้จะมีมูลค่าหลายล้านบาท สำหรับการเข้ามาจับตลาดแช่แข็งบริษัทมองว่าจะเป็นการสร้างโอกาสและเป็นการเพิ่มยอดรายได้มากขึ้น จากเดิมที่ทำอาหารแช่แข็งปูอัด แบรน์คานิแฟมิลี่ การเพิ่มไลน์สินค้าไปยัง "ฮิปโปโรตี"คาดว่าจะสามารถทำตลาดและสร้างความแปลกใหม่กับคนที่ชื่นชอบความสะดวกสบายได้เป็นอย่างดี

สำหรับผลิตภัณฑ์ "ฮิปโปโรตี"ที่จำหน่ายอยู่ในขณะนี้มีชื่อว่า โรตีเมดิดิวเรเซียน เกิดจากการพัฒนาสไตล์ 3 อารยธรรม อาทิ เมดิเตอร์เรเนียน ยุโรป และเอเชีย โดยแบ่งเป็นโรตี 3 สูตร 3 รส ประกอบด้วย สูตรต้นตำหรับ รสเนยกระเทียม รสซาวครีมและหัวหอม ที่สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารพร้อมรับประทานหลากหลายสไตล์ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาว หวาน หรือแม้กระทั่งอาหารหลัก ที่พร้อมทานได้ใน 2 นาที

ด้านการทำตลาดเบื้องต้นบริษัทฯได้วางงบประมาณสำหรับการทำตลาด 3 ปีแรก ไว้จำนวน 200 ล้านบาท คาดหวังยอดขาย 500 ล้านบาท โดยจะเน้นจุดขายสินค้า โฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้ตราสินค้า (แบรนด์) ผ่านสื่อโทรทัศน์ การจัดรายการทำอาหาร รวมทั้งทีมโปรโมชั่นตามห้างสรรพสินค้าและตลาดสดทั่วไป โดยเฉพาะกับตัวแทนจำหน่าย (เอเย่นต์) อาหารแช่แข็งสำเร็จรูปที่มีกว่า 30 รายทั่วประเทศ

ที่ผ่านมาในช่วงระยะเวลา 1 ปี บริษัทฯได้เริ่มทดลองจำหน่ายฮิปโปโรตี และพบว่า ได้ผลตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค โดยมียอดขายถึง 20 ล้านบาท ซึ่งปีนี้จะรุกตลาดมากขึ้น พร้อมกับการส่งออกสินค้าไปยังประเทศไปยังประเทศออสเตรเลีย และเอเชียมากขึ้น แม้ว่าปัจจุบันจะมีการส่งออกไปบ้างแล้วในประเทศเหล่านี้ รวมถึงบางประเทศในแถบยุโรป และสหรัฐอเมริกา โดยปัจจุบันบริษัทฯส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งของประมาณ 30 ประเทศทั่วโลก

สำหรับผลประกอบการคาดว่าบริษัทฯ จะมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกประมาณ 20% และจำหน่ายในประเทศประมาณ 80% อย่างไรก็ตาม ในปี 2550 จากการที่เปิดตัวสินค้าใหม่ จะส่งผลให้บริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้หลักมาจากปูอัดคานิแฟมิลี่ประมาณ 50% วาซาบิ 40% และฮิปโปโรตี 10%



กำลังโหลดความคิดเห็น