“โดฟ” อัดฉีด 300 ล้านบาทชิงแชร์แพนทีน ปั้นสูตรใหม่ “โดฟ สเตรท แอดน์ เวทตี้” สร้างขาที่สอง เท 10 ล้านบาท จับมือค่ายวิทยุแกรมมี่ 4 คลื่น เปิดตัวคอนเสิร์ตแดนซ์ "โดฟ พรีเซนตส์ แดร์ ทู แดนซ์" หวังขยายฐานลูกค้าหลากหลาย สิ้นปีดูดแชร์เพิ่มจาก 8.6% เป็น 10%
นางภรณี อึ๊งอาภรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและผลิตภัณฑ์โดฟ บริษัทยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัททุ่มงบการตลาด 300 ล้านบาท สำหรับทำตลาดผลิตภัณฑ์แชมพูยี่ห้อ “โดฟ” เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านผมเสีย ล่าสุดได้ทุ่มงบ 100ล้านบาท สำหรับทำตลาดแชมพูโดฟ สูตรใหม่ “โดฟ สเตรท แอดน์ เวทตี้”สีส้ม สำหรับผู้หญิงไทยที่ต้องการแชมพูเพื่อบำรุงเส้นผมให้เรียบตรงและมีน้ำหนัก สูตรดังกล่าวถือเป็นขาที่สองของผลิตภัณฑ์แชมพูโดฟเพื่อความงาม หรือบิวตี้ จับกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงไทยทั่วไปที่ต้องการดูแลเส้นผม เพิ่มเติมจากขาแรกผลิตภัณฑ์แชมพู โดฟ สีน้ำเงิน ที่ชูภาพลักษณ์เพื่อผมเสีย
พร้อมกันนี้บริษัทฯ ใช้งบประมาณ 10 ล้านบาท ทำตลาดผ่านกิจกรรมคอนเสิร์ตแดนซ์แห่งปี ภายใต้ชื่อ "โดฟ พรีเซนตส์ แดร์ ทู แดนซ์" ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตแรกและคอนเสิร์ตเดียวที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคทุกคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ โดฟ สเตรท แอนด์ เวทตี้ สามารถมาเต้นพร้อมสะบัดผมพริ้วในกิจกรรมดังกล่าว ด้วยการซื้อผลิตภัณฑ์โดฟชนิดใดก็ได้มูลค่า 395 บาทขึ้นไป มารับคูปองเพื่อไปนำแลกรับบัตรคอนเสิร์ตมูลค่า 800 บาทฟรี 1 ใบ หรือรับส่วนลด10% เพื่อนำไปแลกซื้อบัตรคอนเสิร์ตในราคาปกติ
สำหรับกิจกรรมคอนเสิร์ตแดนซ์ในครั้งนี้ ได้จับมือร่วมกับบริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย ผู้บริหาร 4คลื่นวิทยุ คือ คลื่น Hot Wave เอฟเอ็ม 91.5 คลื่นกรีน เวฟ เอฟเอ็ม 106.5 คลื่นอีเอฟเอ็ม 94 และ คลื่นบานาน่า เอฟเอ็ม 89 โดยคลื่นวิทยุแต่ละรายการวางตำแหน่งรายการเพลงที่จับกลุ่มเป้าหมายแตกต่างกันออกไป คือ วัยรุ่น ก่อนวัยรุ่น นักศึกษามหาวิทยาลัย ผู้ใหญ่วัยทำงาน คนบันเทิง และคนฟังเพลงทั่วไป ตามลำดับ ซึ่งบริษัทคาดจะได้รับผลตอบรับดี จากการสร้างการรับรู้แบรนด์และขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่นี้เพิ่มขึ้นด้วย
ปัจจุบันโดฟมีส่วนแบ่ง 8.6% แบ่งออกเป็น โดฟขวดสีขาว 1.3% ขวดสีฟ้า 2% สีน้ำเงิน 4% และ ขวดสีส้ม 1.3% จากมูลค่าตลาดรวม 6.8 พันล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 2% ทั้งนี้จากกิจกรรมการตลาดต่างๆที่จะเกิดขึ้นในปีนี้บริษัทตั้งเป้าโดฟมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มอีก 1-2% หรือ ไม่ต่ำกว่า 10% ของมูลค่าตลาดรวมแชมพู