ซีอาร์จี เทงบ 400 ล้านบาท เร่งเครื่องขยายสาขาร้านอาหารในเครือ 32 สาขา พร้อมลอนซ์แบรนด์ใหม่กลุ่ม เฮฟวี่ มีล เตรียมบุกต่างประเทศโฟกัสเวียดนาม ตามรอยศูนย์การค้าเครือเซ็นทรัล ด้านอานตี้แอนส์อัดงบ 40 ล้านบาท ขยายเพิ่มอีก 10 แห่ง พร้อมรีแบรนด์ดิ้งใหม่
นายประดิษฐ์ ภิญโญภาสกุล ผู้ช่วยกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดภายใต้แบรนด์ มิสเตอร์โดนัท ,เคเอฟซี,บาสกิ้นรอบบิ้น,อานตี้ แอนส์ และพิซซ่าฮัท เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2550 ว่า บริษัทฯจะใช้งบประมาณกว่า 400 ล้านบาท สำหรับใช้ขยายสาขาร้านอาหารจานด่วน(ฟาสฟู๊ด)ในเครือทุกแบรนด์จำนวน 32 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยกว่าปีที่แล้ว
สาเหตุเนื่องมาจากข้อจำกัดในเรื่องของการหาทำเล แต่หากบริษัทฯสามารถหาทำเลที่มีความเหมาะสมในการขยายสาขาได้เชื่อว่าภาพรวมของจำนวนสาขาร้านอาหารในเครือน่าจะมีจำนวนไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาที่ขยายสา ขาใหม่ได้มากถึง 60 สาขา ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีจำนวนสาขาร้านอาหารในเครืออยู่ที่ประมาณ 463 สาขา
พร้อมกันนี้บริษัทฯยังเตรียมขยายธุรกิจด้วยการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ในกลุ่ม เฮฟวี่ มีล หรือ อาหารหนัก ซึ่งการดำเนินธุรกิจแบรนด์ใหม่ดังกล่าวเป็นไปได้ทั้ง 2 รูปแบบ คือ 1.พัฒนาผลิตภัณฑ์แบรนด์เอง และ 2.ซื้อลิขสิทธิ์เพื่อบริหาร ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาอยู่ยังไม่สามารถเปิดเผย แต่เชื่อว่าจะสามารถเปิดให้บริการภายในปี 2550 นี้ได้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้บริษัทฯยังเตรียมขยายสาขาร้านอาหารในเครือออกไปขยายตลาดต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรอการอนุมัติการเข้าไปขยายสาขาในประเทศต่างๆ จากที่ประชุมบอร์ด โดยประเทศแรกที่บริษัทฯคาดว่าจะเข้าไปดำเนินการขยายสาขาในอีกประมาณ 1-2 ปีนับจากนี้น่าจะเป็นประเทศเวียดนาม และต่อจากนั้นบริษัทฯจะขยายสาขาไปยังประเทศจีน และอินเดีย โดยการเข้าไปขยายสาขาต่างประเทศดังกล่าว บริษัทฯจะเข้าไปควบคู่กับการเปิดให้บริการศูนย์การค้าในเครือที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจในแต่ละประเทศอยู่
ล่าสุดบริษัทฯได้เตรียมงบประมาณจำนวน 40 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายสาขาใหม่ของร้านอานตี้ แอนส์ ซึ่งในปีนี้มีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มอีกประมาณ 10 สาขา จากปัจจุบันที่เปิดให้บริการไปแล้วจำนวน 80 สาขา ในขณะเดียวกันบริษัทฯยังได้มีการปรับภาพลักษณ์ของร้านอานตี้ แอนส์ใหม่ในรอบ 9 ปีที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ซึ่งสาขาที่ได้มีการปรับปรุงรูปแบบร้านใหม่ไปแล้วประกอบด้วยสาขาที่ เซ็นทรัลลาดพร้าว และเซ็นทรัลพระราม 2 โดยคาดว่าภายในสิ้นปีหน้าจะทำการปรับปรุงสาขาเก่าได้ครบทุกสาขา
ทั้งนี้คาดว่าภายในสิ้นปีนี้บริษัทฯจะมีรายได้รวมเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ 10% จากรายได้รวมปีที่แล้วประมาณ 4,100 ล้านบาท
ด้านนายสุชีพ ธรรมาชีพเจริญ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมารายได้ของอานตี้ แอนส์ มีรายได้เติบโตอยู่ที่ประมาณ 8% ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ประมาณ 20% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดพื้นที่โดยรอบของกรุงเทพฯ ส่งผลให้รายได้ของร้านอานตี้ แอนส์ ในเดือน ม.ค.ลดลง 20-30% แต่พอถึงเดือนก.พ.เริ่มปรับตัวดีขึ้นและมีอัตราการเติบโตเป็นบวกที่ 20% ทำให้บริษัทฯมั่นใจว่ารายได้ในไตรมาส 2 น่าจะเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่ 15% เนื่องจากบริษัทฯใช้งบการตลาดเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่ใช้ไปเพียง 20 ล้านบาทเท่านั้น
นายประดิษฐ์ ภิญโญภาสกุล ผู้ช่วยกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดภายใต้แบรนด์ มิสเตอร์โดนัท ,เคเอฟซี,บาสกิ้นรอบบิ้น,อานตี้ แอนส์ และพิซซ่าฮัท เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2550 ว่า บริษัทฯจะใช้งบประมาณกว่า 400 ล้านบาท สำหรับใช้ขยายสาขาร้านอาหารจานด่วน(ฟาสฟู๊ด)ในเครือทุกแบรนด์จำนวน 32 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยกว่าปีที่แล้ว
สาเหตุเนื่องมาจากข้อจำกัดในเรื่องของการหาทำเล แต่หากบริษัทฯสามารถหาทำเลที่มีความเหมาะสมในการขยายสาขาได้เชื่อว่าภาพรวมของจำนวนสาขาร้านอาหารในเครือน่าจะมีจำนวนไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาที่ขยายสา ขาใหม่ได้มากถึง 60 สาขา ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีจำนวนสาขาร้านอาหารในเครืออยู่ที่ประมาณ 463 สาขา
พร้อมกันนี้บริษัทฯยังเตรียมขยายธุรกิจด้วยการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ในกลุ่ม เฮฟวี่ มีล หรือ อาหารหนัก ซึ่งการดำเนินธุรกิจแบรนด์ใหม่ดังกล่าวเป็นไปได้ทั้ง 2 รูปแบบ คือ 1.พัฒนาผลิตภัณฑ์แบรนด์เอง และ 2.ซื้อลิขสิทธิ์เพื่อบริหาร ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาอยู่ยังไม่สามารถเปิดเผย แต่เชื่อว่าจะสามารถเปิดให้บริการภายในปี 2550 นี้ได้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้บริษัทฯยังเตรียมขยายสาขาร้านอาหารในเครือออกไปขยายตลาดต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรอการอนุมัติการเข้าไปขยายสาขาในประเทศต่างๆ จากที่ประชุมบอร์ด โดยประเทศแรกที่บริษัทฯคาดว่าจะเข้าไปดำเนินการขยายสาขาในอีกประมาณ 1-2 ปีนับจากนี้น่าจะเป็นประเทศเวียดนาม และต่อจากนั้นบริษัทฯจะขยายสาขาไปยังประเทศจีน และอินเดีย โดยการเข้าไปขยายสาขาต่างประเทศดังกล่าว บริษัทฯจะเข้าไปควบคู่กับการเปิดให้บริการศูนย์การค้าในเครือที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจในแต่ละประเทศอยู่
ล่าสุดบริษัทฯได้เตรียมงบประมาณจำนวน 40 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายสาขาใหม่ของร้านอานตี้ แอนส์ ซึ่งในปีนี้มีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มอีกประมาณ 10 สาขา จากปัจจุบันที่เปิดให้บริการไปแล้วจำนวน 80 สาขา ในขณะเดียวกันบริษัทฯยังได้มีการปรับภาพลักษณ์ของร้านอานตี้ แอนส์ใหม่ในรอบ 9 ปีที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ซึ่งสาขาที่ได้มีการปรับปรุงรูปแบบร้านใหม่ไปแล้วประกอบด้วยสาขาที่ เซ็นทรัลลาดพร้าว และเซ็นทรัลพระราม 2 โดยคาดว่าภายในสิ้นปีหน้าจะทำการปรับปรุงสาขาเก่าได้ครบทุกสาขา
ทั้งนี้คาดว่าภายในสิ้นปีนี้บริษัทฯจะมีรายได้รวมเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ 10% จากรายได้รวมปีที่แล้วประมาณ 4,100 ล้านบาท
ด้านนายสุชีพ ธรรมาชีพเจริญ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมารายได้ของอานตี้ แอนส์ มีรายได้เติบโตอยู่ที่ประมาณ 8% ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ประมาณ 20% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดพื้นที่โดยรอบของกรุงเทพฯ ส่งผลให้รายได้ของร้านอานตี้ แอนส์ ในเดือน ม.ค.ลดลง 20-30% แต่พอถึงเดือนก.พ.เริ่มปรับตัวดีขึ้นและมีอัตราการเติบโตเป็นบวกที่ 20% ทำให้บริษัทฯมั่นใจว่ารายได้ในไตรมาส 2 น่าจะเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่ 15% เนื่องจากบริษัทฯใช้งบการตลาดเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่ใช้ไปเพียง 20 ล้านบาทเท่านั้น