การ์ตูนไทยวิกฤติ ถูกการ์ตูนจากแดนซากุระแย่งตลาดไปมากกว่า 90% จากมูลค่าตลาดมากกว่าพันล้านบาท อุปนายกสมาคมการ์ตูนไทย ชี้ หากต้องการให้การ์ตูนไทยมีความนิยมขึ้น ต้องพัฒนาบุคลากร พร้อมทั้งเปลี่ยนไลฟ์สไตล์คนอ่าน คาดว่าต้องใช้เวลานานกว่าที่การ์ตูนไทยจะผงาดในตลาดได้
นายศักดา เอียว อุปนายกสมาคมการ์ตูนไทย หรือ “เซีย ไทยรัฐ” เปิดเผยว่า มูลค่าตลาดหนังสือการ์ตูนในประเทศไทยนั้น คาดว่าน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่ามีมูลค่าที่แท้จริงเท่าไร เนื่องจากยังไม่เคยมีหน่วยงานใดทำการเก็บข้อมูลดังกล่าว อย่างไรก็ตามมองว่ามากกว่า 90% เป็นหนังสือการ์ตูนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศญี่ปุ่น รวมไปถึงจากโซนทวีปยุโรปและอเมริกา ขณะที่หนังสือการ์ตูนไทยมีส่วนแบ่งทางการตลาดไม่ถึง 10%
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้หนังสือการ์ตูนไทยมีส่วนแบ่งทางการตลาดน้อยนั้น เนื่องมาจากส่วนหนึ่งการ์ตูนไทยไม่ได้ผลิตกันในรูปอุตสาหกรรม อย่างในประเทศญี่ปุ่น ที่จะมีการวางจำหน่ายในทุกๆสัปดาห์ แต่สำหรับประเทศไทย เนื่องจากผู้เขียน ผู้แต่ง หรือบุคลากรทางด้านนี้มีน้อย กว่าจะออกมาได้แต่ละเล่มหรือแต่ละตอนต้องใช้เวลา จึงทำให้การ์ตูนญี่ปุ่นได้รับความนิยมค่อนข้างสูง แทนที่การ์ตูนไทย
“สำนักพิมพ์ในประเทศไทยที่มีการผลิตและวางจำหน่ายหนังสือการ์ตูนไทย มีอยู่ไม่กี่ราย เช่น ไทยคอมมิกส์, บงกช และ สยามกีฬา แต่การจำหน่ายค่อนข้างมีสัดส่วนน้อย เมื่อเทียบกับหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น กล่าวคือ ในสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง แต่ละเดือนจะมีการวางจำหน่ายหนังสือการ์ตูนอยู่ประมาณ 10 เล่ม แต่อาจจะมีหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นวางจำหน่าย 8 เล่ม อีก 2 เล่มเป็นการ์ตูนไทย ทั้งนี้เกิดจากความล่าช้าในการผลิตงานที่ต้องใช้เวลามากนั่นเอง จึงทำให้ในตลาดมีหนังสือการ์ตูนไทยน้อยมากเมื่อเทียบกับกลุ่มหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น”
ดังนั้นหากต้องการให้การ์ตูนไทยได้รับความนิยม สิ่งสำคัญที่ต้องทำและให้การสนับสนุนคือ ต้องมีการพัฒนาบุคลากรให้มีความสามารถมากขึ้น รวมไปถึงต้องทำออกมาในรูปแบบอุตสาหกรรมมากขึ้น รวมไปถึงสิ่งสำคัญที่สุดนั้นคือ การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ผู้อ่านโดยเฉพาะวัยรุ่นทั่วๆไปให้หันมาสนใจอ่านหนังสือการ์ตูนไทยทดแทนการ์ตูนญี่ปุ่น หรือจากยุโรปและอเมริกาแทน ส่วนระยะเวลาที่คาดว่าจะสามารถทำให้สถานการณ์การ์ตูนไทยมีส่วนแบ่งในตลาดดีขึ้นได้นั้น คาดว่าต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างยาวนานทีเดียว
ขณะที่ในปัจจุบันวัยรุ่นไทยยังคงนิยมอ่านหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นสูงเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมา คือ การ์ตูนจากอเมริกาและยุโรป สุดท้ายคือการ์ตูนไทย ขณะที่วัยรุ่นในกลุ่มผู้หญิงจะนิยมอ่านหนังสือการ์ตูนแนวรัก โรแมนติก ส่วนผู้ชายยังคงนิยมอ่านแนวต่อสู้ และกีฬา
อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่า ปัจจุบันโดยเฉพาะการ์ตูนญี่ปุ่น จะเริ่มเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนิชมาเก็ตมากขึ้น เช่น มีการผลิตและจำหน่ายหนังสือการ์ตูนสำหรับกลุ่มรักร่วมเพศ ซึ่งหนังสือการ์ตูนประเภทดังกล่าว กำลังกลายมาเป็นปัญหาสำคัญในไทย เนื่องจากวัยรุ่นไทยบางกลุ่มหันมานิยมอ่านกันมากขึ้นนั่นเอง
นายศักดา เอียว อุปนายกสมาคมการ์ตูนไทย หรือ “เซีย ไทยรัฐ” เปิดเผยว่า มูลค่าตลาดหนังสือการ์ตูนในประเทศไทยนั้น คาดว่าน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่ามีมูลค่าที่แท้จริงเท่าไร เนื่องจากยังไม่เคยมีหน่วยงานใดทำการเก็บข้อมูลดังกล่าว อย่างไรก็ตามมองว่ามากกว่า 90% เป็นหนังสือการ์ตูนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศญี่ปุ่น รวมไปถึงจากโซนทวีปยุโรปและอเมริกา ขณะที่หนังสือการ์ตูนไทยมีส่วนแบ่งทางการตลาดไม่ถึง 10%
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้หนังสือการ์ตูนไทยมีส่วนแบ่งทางการตลาดน้อยนั้น เนื่องมาจากส่วนหนึ่งการ์ตูนไทยไม่ได้ผลิตกันในรูปอุตสาหกรรม อย่างในประเทศญี่ปุ่น ที่จะมีการวางจำหน่ายในทุกๆสัปดาห์ แต่สำหรับประเทศไทย เนื่องจากผู้เขียน ผู้แต่ง หรือบุคลากรทางด้านนี้มีน้อย กว่าจะออกมาได้แต่ละเล่มหรือแต่ละตอนต้องใช้เวลา จึงทำให้การ์ตูนญี่ปุ่นได้รับความนิยมค่อนข้างสูง แทนที่การ์ตูนไทย
“สำนักพิมพ์ในประเทศไทยที่มีการผลิตและวางจำหน่ายหนังสือการ์ตูนไทย มีอยู่ไม่กี่ราย เช่น ไทยคอมมิกส์, บงกช และ สยามกีฬา แต่การจำหน่ายค่อนข้างมีสัดส่วนน้อย เมื่อเทียบกับหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น กล่าวคือ ในสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง แต่ละเดือนจะมีการวางจำหน่ายหนังสือการ์ตูนอยู่ประมาณ 10 เล่ม แต่อาจจะมีหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นวางจำหน่าย 8 เล่ม อีก 2 เล่มเป็นการ์ตูนไทย ทั้งนี้เกิดจากความล่าช้าในการผลิตงานที่ต้องใช้เวลามากนั่นเอง จึงทำให้ในตลาดมีหนังสือการ์ตูนไทยน้อยมากเมื่อเทียบกับกลุ่มหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น”
ดังนั้นหากต้องการให้การ์ตูนไทยได้รับความนิยม สิ่งสำคัญที่ต้องทำและให้การสนับสนุนคือ ต้องมีการพัฒนาบุคลากรให้มีความสามารถมากขึ้น รวมไปถึงต้องทำออกมาในรูปแบบอุตสาหกรรมมากขึ้น รวมไปถึงสิ่งสำคัญที่สุดนั้นคือ การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ผู้อ่านโดยเฉพาะวัยรุ่นทั่วๆไปให้หันมาสนใจอ่านหนังสือการ์ตูนไทยทดแทนการ์ตูนญี่ปุ่น หรือจากยุโรปและอเมริกาแทน ส่วนระยะเวลาที่คาดว่าจะสามารถทำให้สถานการณ์การ์ตูนไทยมีส่วนแบ่งในตลาดดีขึ้นได้นั้น คาดว่าต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างยาวนานทีเดียว
ขณะที่ในปัจจุบันวัยรุ่นไทยยังคงนิยมอ่านหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นสูงเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมา คือ การ์ตูนจากอเมริกาและยุโรป สุดท้ายคือการ์ตูนไทย ขณะที่วัยรุ่นในกลุ่มผู้หญิงจะนิยมอ่านหนังสือการ์ตูนแนวรัก โรแมนติก ส่วนผู้ชายยังคงนิยมอ่านแนวต่อสู้ และกีฬา
อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่า ปัจจุบันโดยเฉพาะการ์ตูนญี่ปุ่น จะเริ่มเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนิชมาเก็ตมากขึ้น เช่น มีการผลิตและจำหน่ายหนังสือการ์ตูนสำหรับกลุ่มรักร่วมเพศ ซึ่งหนังสือการ์ตูนประเภทดังกล่าว กำลังกลายมาเป็นปัญหาสำคัญในไทย เนื่องจากวัยรุ่นไทยบางกลุ่มหันมานิยมอ่านกันมากขึ้นนั่นเอง