กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าเจรจาเปิดช่องการกระจายสินค้าผลไม้ที่เมืองซัวเถา สาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมเชิญนักธุรกิจและเจ้าของตลาดผลไม้ของจีนเดินทางมาเยือนสวนผลไม้ของไทยในเดือนเมษายนนี้ เพื่อจูงใจในการสั่งผลไม้จากไทยที่มีคุณภาพ และเพิ่มสัดส่วนทางการค้าไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20
นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ นายพิษณุ เหรียญมหาศาล รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าเจรจาเปิดช่องทางการกระจายสินค้าที่ตลาดเฉาหยาง เมืองซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเห็นว่า นอกจากทุเรียนและมังคุดที่ตลาดซัวเถานำเข้าจากไทย และเป็นที่นิยมบริโภคแล้ว สินค้าผลไม้ชนิดอื่น เช่น กล้วยไข่ ซึ่งชาวจีนเรียกว่า กล้วยจักรพรรดิ และส้มเขียวหวาน ก็น่าจะมีโอกาสสดใสในการนำเข้าในตลาดซัวเถาเช่นกัน เนื่องจากตลาดดังกล่าวมีปริมาณการขายผักต่อปีประมาณ 8,000 ตัน ผลไม้มีปริมาณการขายต่อปีประมาณ 3,000 ตัน และมีปริมาณการขายใบชาต่อปี 2 ตัน มีมูลค่าการซื้อขายในตลาดต่อปีประมาณ 30,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์เตรียมเชิญนักธุรกิจและเจ้าของตลาดผลไม้จีนเดินทางมาเยือนสวนผลไม้ของไทยที่จังหวัดจันทบุรีและตราด ภายในวันที่ 16 เมษายนนี้ โดยหวังว่าจะเป็นการจูงใจในการสั่งผลไม้จากไทยที่มีคุณภาพ โดยหวังเพิ่มสัดส่วนทางการค้าไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสในการเปิดเส้นทางการเดินทางขนส่งสินค้าผลไม้จากท่าเรือแหลมฉบังตรงไปยังท่าเรือที่เมืองซัวเถาได้ โดยไม่ต้องผ่านท่าเรือที่ฮ่องกง หรือตลาดที่กวางโจว ซึ่งนอกจากเป็นแหล่งนำเข้าหลักของจีนแล้ว ยังจะเป็นการลดระยะเวลา และระยะทางในการขนส่ง รวมทั้งยังจะช่วยยืดอายุผลไม้ให้มีความสดใหม่ก่อนถึงมือผู้บริโภคอีกด้วย
นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ นายพิษณุ เหรียญมหาศาล รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าเจรจาเปิดช่องทางการกระจายสินค้าที่ตลาดเฉาหยาง เมืองซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเห็นว่า นอกจากทุเรียนและมังคุดที่ตลาดซัวเถานำเข้าจากไทย และเป็นที่นิยมบริโภคแล้ว สินค้าผลไม้ชนิดอื่น เช่น กล้วยไข่ ซึ่งชาวจีนเรียกว่า กล้วยจักรพรรดิ และส้มเขียวหวาน ก็น่าจะมีโอกาสสดใสในการนำเข้าในตลาดซัวเถาเช่นกัน เนื่องจากตลาดดังกล่าวมีปริมาณการขายผักต่อปีประมาณ 8,000 ตัน ผลไม้มีปริมาณการขายต่อปีประมาณ 3,000 ตัน และมีปริมาณการขายใบชาต่อปี 2 ตัน มีมูลค่าการซื้อขายในตลาดต่อปีประมาณ 30,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์เตรียมเชิญนักธุรกิจและเจ้าของตลาดผลไม้จีนเดินทางมาเยือนสวนผลไม้ของไทยที่จังหวัดจันทบุรีและตราด ภายในวันที่ 16 เมษายนนี้ โดยหวังว่าจะเป็นการจูงใจในการสั่งผลไม้จากไทยที่มีคุณภาพ โดยหวังเพิ่มสัดส่วนทางการค้าไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสในการเปิดเส้นทางการเดินทางขนส่งสินค้าผลไม้จากท่าเรือแหลมฉบังตรงไปยังท่าเรือที่เมืองซัวเถาได้ โดยไม่ต้องผ่านท่าเรือที่ฮ่องกง หรือตลาดที่กวางโจว ซึ่งนอกจากเป็นแหล่งนำเข้าหลักของจีนแล้ว ยังจะเป็นการลดระยะเวลา และระยะทางในการขนส่ง รวมทั้งยังจะช่วยยืดอายุผลไม้ให้มีความสดใหม่ก่อนถึงมือผู้บริโภคอีกด้วย