กระทรวงการคลัง ร่วมกับ เอดีบี และ สศช.เดินหน้าพัฒนาเส้นทางเดินเรือชายฝั่งทะเลอันดามัน รวมทั้งพัฒนาเมืองเก่า อำเภอตะกั่วป่า ให้มีสภาพที่สมบูรณ์ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว หลังจากแหล่งท่องเที่ยวบริเวณเขาหลักเริ่มฟื้นตัวจากภัยพิบัติสึนามิ
นายกฤษฎา อุทยานิน รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวในงานสัมมนาเรื่อง “แผนพัฒนาอนุภาคอันดามันฯ” ว่า หลังจากกระทรวงการคลัง ร่วมกับธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในการร่วมกันเข้าช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ประสบปัญหาธรณีพิบัติภัยสึนามิ ซึ่งเป็นการดูแลในระยะยาว 15 ปี และเห็นว่า ขณะนี้พื้นที่ดังกล่าวได้เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น มีนักท่องเที่ยวหันกลับมาท่องเที่ยวในพื้นที่ดังกล่าวเหมือนเดิม เพราะสภาพสิ่งแวดล้อม สถานที่พัก ได้มีการปรับปรุงให้มีสภาพเดิมแล้ว ดังนั้น กระทรวงการคลัง จึงมีแผนร่วมกันในการเดินหน้าพัฒนาเส้นทางการเดินเรือบริเวณพื้นที่ดังกล่าว เพื่อการขนส่งและให้บริการนักท่องเที่ยวเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ได้สะดวกมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาเมืองเก่าของอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ให้มีสภาพที่สมบูรณ์ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยจะมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาร่วมในการวางแผนการพัฒนา ซึ่งรวมถึงการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ขยะ และน้ำเน่าเสีย
นายฌอง-ปิแอร์ เอ.เวอร์บิสท์ ผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารพัฒนาเอเชีย ประจำประเทศไทย (เอดีบี) กล่าวว่า เอดีบีร่วมกับรัฐบาลไทย โดยสนับสนุนเงินช่วยเหลือ 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ในการฟื้นฟูจังหวัดพังงา กระบี่ และภูเก็ต โดยมีทั้งแผนแม่บทสำหรับการลงทุน และการมีส่วนร่วมของชุมชนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เพื่อให้ภาคเอกชนและประชาชนที่ได้รับผลกระทบนำมาปฏิบัติ โดยการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ ได้ร่วมมือกับแต่ละจังหวัด ด้วยการแบ่งเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวพักผ่อน และเขตอุตสาหกรรมอย่างชัดเจน เพื่อให้ส่งเสริมซึ่งกันและกันมากกว่าการขัดแย้ง และไม่ให้สิ่งแวดล้อมในบริเวณดังกล่าวถูกทำลาย
นายกฤษฎา อุทยานิน รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวในงานสัมมนาเรื่อง “แผนพัฒนาอนุภาคอันดามันฯ” ว่า หลังจากกระทรวงการคลัง ร่วมกับธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในการร่วมกันเข้าช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ประสบปัญหาธรณีพิบัติภัยสึนามิ ซึ่งเป็นการดูแลในระยะยาว 15 ปี และเห็นว่า ขณะนี้พื้นที่ดังกล่าวได้เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น มีนักท่องเที่ยวหันกลับมาท่องเที่ยวในพื้นที่ดังกล่าวเหมือนเดิม เพราะสภาพสิ่งแวดล้อม สถานที่พัก ได้มีการปรับปรุงให้มีสภาพเดิมแล้ว ดังนั้น กระทรวงการคลัง จึงมีแผนร่วมกันในการเดินหน้าพัฒนาเส้นทางการเดินเรือบริเวณพื้นที่ดังกล่าว เพื่อการขนส่งและให้บริการนักท่องเที่ยวเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ได้สะดวกมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาเมืองเก่าของอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ให้มีสภาพที่สมบูรณ์ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยจะมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาร่วมในการวางแผนการพัฒนา ซึ่งรวมถึงการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ขยะ และน้ำเน่าเสีย
นายฌอง-ปิแอร์ เอ.เวอร์บิสท์ ผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารพัฒนาเอเชีย ประจำประเทศไทย (เอดีบี) กล่าวว่า เอดีบีร่วมกับรัฐบาลไทย โดยสนับสนุนเงินช่วยเหลือ 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ในการฟื้นฟูจังหวัดพังงา กระบี่ และภูเก็ต โดยมีทั้งแผนแม่บทสำหรับการลงทุน และการมีส่วนร่วมของชุมชนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เพื่อให้ภาคเอกชนและประชาชนที่ได้รับผลกระทบนำมาปฏิบัติ โดยการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ ได้ร่วมมือกับแต่ละจังหวัด ด้วยการแบ่งเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวพักผ่อน และเขตอุตสาหกรรมอย่างชัดเจน เพื่อให้ส่งเสริมซึ่งกันและกันมากกว่าการขัดแย้ง และไม่ให้สิ่งแวดล้อมในบริเวณดังกล่าวถูกทำลาย