อธิบดีกรมสรรพากร เผย รอรายละเอียดจาก คตส.กรณี “พานทองแท้-พิณทองทา” พร้อมยังไม่ยืนยันการเรียกเก็บภาษี 5,800 ล้านบาท โดยขอตรวจสอบรายได้จากส่วนต่างๆ ให้ชัดเจนก่อน
นายศานิต ร่างน้อย อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) จะประชุมเพื่อพิจารณากรณีการซื้อขายหุ้นแอมเพิลริช เพื่อชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้อง และทำความเห็นถึงกรมสรรพากรให้ทำการเรียกเก็บภาษีจากนายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา บุตรชาย และบุตรสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเงินประมาณ 5,800 ล้านบาท โดยหาก คตส.สรุปว่ามีความผิดจริง ผู้เกี่ยวข้องต้องรับโทษตามประมวลรัษฎากร มาตรา 37 ที่ระบุว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วหรือจงใจแจ้งข้อความเท็จมาแสดงเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรทำนองเดียวกับการเลี่ยง หรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 7 ปี และปรับ 2,000-200,000 บาท แต่จะต้องรอให้ คตส.ส่งหนังสือให้พิจารณาก่อน โดยสรรพากรยังไม่ยืนยันในเรื่องการเรียกเก็บภาษี 5,800 ล้านบาท โดยต้องตรวจรายได้จากส่วนต่างๆ ให้ชัดเจน
นายศานิต ร่างน้อย อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) จะประชุมเพื่อพิจารณากรณีการซื้อขายหุ้นแอมเพิลริช เพื่อชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้อง และทำความเห็นถึงกรมสรรพากรให้ทำการเรียกเก็บภาษีจากนายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา บุตรชาย และบุตรสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเงินประมาณ 5,800 ล้านบาท โดยหาก คตส.สรุปว่ามีความผิดจริง ผู้เกี่ยวข้องต้องรับโทษตามประมวลรัษฎากร มาตรา 37 ที่ระบุว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วหรือจงใจแจ้งข้อความเท็จมาแสดงเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรทำนองเดียวกับการเลี่ยง หรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 7 ปี และปรับ 2,000-200,000 บาท แต่จะต้องรอให้ คตส.ส่งหนังสือให้พิจารณาก่อน โดยสรรพากรยังไม่ยืนยันในเรื่องการเรียกเก็บภาษี 5,800 ล้านบาท โดยต้องตรวจรายได้จากส่วนต่างๆ ให้ชัดเจน