กรมส่งเสริมการส่งออก แนะนักธุรกิจไทยใช้งานแสดงสินค้าเป็นช่องทางในการเจาะตลาดไอศกรีม ขนมหวานในอิตาลี ซึ่งสินค้าของไทยที่มีโอกาสได้รับประโยชน์จากธุรกิจเหล่านี้ ได้แก่ Topping ไอศกรีม เช่น ผลไม้แช่แข็ง ผลไม้อบแห้ง ขนมหวาน แครกเกอร์ อุปกรณ์เช่น ด้าย หลอด ถุง
นางดวงกมล เจียมบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลาน กรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า นักธุรกิจไทยควรใช้ประโยชน์จากการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าให้มากขึ้น เช่น งาน The International Exhibition for the Artisan production of Ice cream, Pastry, Confectionery and Bakery (SIGEP ) ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าไอศกรีม ลูกกวาด ขนมหวาน ขนมปัง ช็อกโกแลต ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก จัดขึ้นปีละครั้ง
โดยครั้งล่าสุด จัดเป็นครั้งที่ 28 ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ที่ศูนย์แสดงสินค้าเมืองริมินี ประเทศอิตาลี ซึ่งงานแสดงสินค้า SIGEP เป็นศูนย์กลางการพบปะเจรจาการค้าระหว่างผู้ซื้อผู้ขาย ผู้นำเข้า-ส่งออก รวมทั้ง เป็นศูนย์รวมการนำเสนอศักยภาพของอุตสาหกรรมไอศกรีมและขนมหวานจากทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะไอศกรีม home-made ของอิตาลีที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
ทั้งนี้ ไอศกรีม ประเทศอิตาลี ถือเป็นหนึ่งในสินค้า made-in-italy มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ผู้ประกอบการในสาขามีการรวมตัวกันเป็นสมาคม เพื่อพัฒนาฝีมือ เทคโนโลยี และการตลาดร่วมกัน ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษของอุตสาหกรรมในอิตาลี ที่ทำให้เข้มแข็ง และสามารถแข่งขันในตลาดโลก โดยปี 2549 ประเทศอิตาลีมีจำนวนผู้ผลิตในสาขาอาหาร home-made เติบโตร้อยละ 31 มีผู้ผลิตเบเกอรี่ ขนมลูกกวาด ร้านพิซซ่า-เนื้อย่าง และผู้ผลิตไอศกรีมรวมกว่า 80,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการขนาดเล็ก
โดยอิตาลีมีการผลิตเฉพาะขนมปังต่อปีถึง 2.8 ล้านตัน หรือประมาณ 5,400 ล้านยูโร ซึ่งชาวอิตาเลียนเป็นชาติที่นิยมรับประทานขนมปังสดทุกวัน ลูกอมลูกกวาด ขนม และช็อกโกแลตผลิตประมาณ 350 ล้านยูโร หรือ 210,000 ตัน ในจำนวนนี้ส่งออก 95,000 ตัน และขนมเค้ก Panettone/Pandoro 12,000 ตัน หรือ 240 ล้านยูโร
นางดวงกมล กล่าวว่า สินค้าไทยที่มีโอกาสได้รับประโยชน์จากธุรกิจเหล่านี้ ได้แก่ Topping ไอศกรีม เช่นผลไม้แช่แข็ง ผลไม้อบแห้ง ขนมหวาน แครกเกอร์ อุปกรณ์เช่น ด้าย หลอด ถุง ของประดับอาหาร ดอกไม้ประดิษฐ์แต่งร้านและสื่อสิ่งพิมพ์ เช่น รายการอาหารและสื่อประชาสัมพันธ์
นางดวงกมล เจียมบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลาน กรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า นักธุรกิจไทยควรใช้ประโยชน์จากการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าให้มากขึ้น เช่น งาน The International Exhibition for the Artisan production of Ice cream, Pastry, Confectionery and Bakery (SIGEP ) ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าไอศกรีม ลูกกวาด ขนมหวาน ขนมปัง ช็อกโกแลต ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก จัดขึ้นปีละครั้ง
โดยครั้งล่าสุด จัดเป็นครั้งที่ 28 ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ที่ศูนย์แสดงสินค้าเมืองริมินี ประเทศอิตาลี ซึ่งงานแสดงสินค้า SIGEP เป็นศูนย์กลางการพบปะเจรจาการค้าระหว่างผู้ซื้อผู้ขาย ผู้นำเข้า-ส่งออก รวมทั้ง เป็นศูนย์รวมการนำเสนอศักยภาพของอุตสาหกรรมไอศกรีมและขนมหวานจากทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะไอศกรีม home-made ของอิตาลีที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
ทั้งนี้ ไอศกรีม ประเทศอิตาลี ถือเป็นหนึ่งในสินค้า made-in-italy มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ผู้ประกอบการในสาขามีการรวมตัวกันเป็นสมาคม เพื่อพัฒนาฝีมือ เทคโนโลยี และการตลาดร่วมกัน ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษของอุตสาหกรรมในอิตาลี ที่ทำให้เข้มแข็ง และสามารถแข่งขันในตลาดโลก โดยปี 2549 ประเทศอิตาลีมีจำนวนผู้ผลิตในสาขาอาหาร home-made เติบโตร้อยละ 31 มีผู้ผลิตเบเกอรี่ ขนมลูกกวาด ร้านพิซซ่า-เนื้อย่าง และผู้ผลิตไอศกรีมรวมกว่า 80,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการขนาดเล็ก
โดยอิตาลีมีการผลิตเฉพาะขนมปังต่อปีถึง 2.8 ล้านตัน หรือประมาณ 5,400 ล้านยูโร ซึ่งชาวอิตาเลียนเป็นชาติที่นิยมรับประทานขนมปังสดทุกวัน ลูกอมลูกกวาด ขนม และช็อกโกแลตผลิตประมาณ 350 ล้านยูโร หรือ 210,000 ตัน ในจำนวนนี้ส่งออก 95,000 ตัน และขนมเค้ก Panettone/Pandoro 12,000 ตัน หรือ 240 ล้านยูโร
นางดวงกมล กล่าวว่า สินค้าไทยที่มีโอกาสได้รับประโยชน์จากธุรกิจเหล่านี้ ได้แก่ Topping ไอศกรีม เช่นผลไม้แช่แข็ง ผลไม้อบแห้ง ขนมหวาน แครกเกอร์ อุปกรณ์เช่น ด้าย หลอด ถุง ของประดับอาหาร ดอกไม้ประดิษฐ์แต่งร้านและสื่อสิ่งพิมพ์ เช่น รายการอาหารและสื่อประชาสัมพันธ์