พิซซ่าฮัท เดินเกม โฟกัสดีลิเวอรี่ รับสภาพตลาดเอื้ออำนวย หวังปรับสัดส่วนรายได้ดีลิเวอรี่นี้เพิ่มเป็น 60% พร้อมเปิดสาขาอีก 10 แห่งในปีนี้ เปิดแคมเปญเด็ดเน้นแบรนด์และตอกย้ำ เบอร์ 1150 ต่อเนื่อง
นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด พิซซ่าฮัท บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนการรุกทางด้านดีลิเวอรี่มากขึ้นในปีนี้ โดยคาดหวังว่าภายในปีนี้สัดส่วนทางด้านยอดขายพิซซ่าฮัท จะมาจากดีลิเวอรี่ประมาณ 60% และมาจากร้านนั่งทาน 40% จากเดิมปีที่แล้วที่สัดส่วนรายได้มาจากดีลิเวอรี่และร้านนั่งทานเท่ากันคือ 50% และ 50% จากรายได้รวมของพิซซ่าฮัท
นอกจากนั้นยังมีแผนที่จะเพิ่มสาขาของพิซซ่าฮัทตามหัวเมืองใหญ่อีก 10 กว่าจุดที่เป็นดีลิเวอรี่ เพื่อกระจายการบริการให้มากขึ้น ซึ่งในต่างจังหวัดมีประมาณ 20% เท่านั้นจากจุดบริการทั้งหมดที่มีอยู่ ส่วนในกรุงเทพฯและปริมณฑลนี้สามารถมีจุดบริการครอบคลุมแล้วกว่า 90% โดยปัจจุบันพิซซ่าฮัทมีสาขาบริการประมาณ 75 แห่ง โดยแบ่งเป็น ร้านที่นั่งทานและดีลิเวอรี่ 25 จุด ส่วนสาขาที่เป็นดีลิเวอรี่อย่างเดียวประมาณ 50 จุด
สาเหตุที่เน้นการทำตลาดดีลิเวอรี่มากขึ้น เนื่องจากปัจจัยสภาพการณ์ต่างๆในเวลานี้ เช่น ปัญหาเรื่องความปลอดภัยทำให้คนไม่ค่อยออกมาเที่ยว หรือปัญหาเศรษฐกิจที่คนลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางลง ทำให้ธุรกิจดีลิเวอรี่เติบโตและมีบทบาทมากขึ้น รวมทั้งการทำแคมเปญพิซซ่าฮัทที่ตรงความต้องการผู้บริโภคนั่นเอง
สำหรับแผนการตลาดพิซซ่าฮัทในปีนี้จะใช้งบตลาดเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว และจะมีการจัดแคมเปญหลักๆของดีลิเวอรี่มากขึ้น ขณะที่ร้านนั่งทานก็มีแคมเปญที่แตกต่างกันไป ตามพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งได้มาจากการทำวิจัยและสำรวจของบริษัทฯเพื่อการตอบสนองที่ดีที่สุด โดยเฉพาะการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ทั้งด้านเมนูและรูปแบบแคมเปญซึ่งปีนี้จะเน้นการสร้างแบรนด์และเบอร์ 1150 ให้มากขึ้น ขณะเดียวกั้นก็จะทำตลาดแบบครบวงจร 360 องศา ทั้งผู้บริโภคและพนักงานในบริษัทฯด้วย
นางนงนุชกล่าวต่อว่า ในปีนี้จะมีแคมเปญพิซซ่าฮัททั้งดีลิเวอรี่และร้านนั่งทานต่อเนื่อง โดยในส่วนของดีลิเวอรี่นั้นจะมีตลอดทั้งใหญ่และเล็ก โดยล่าสุดคือ แคมเปญ โทรด่วนวันนี้ 11 เมนู ลด 50% เลือกเมนูโปรดตามใจชอบซึ่งถือเป็นการต่อเนื่องจากเดิมที่ว่าเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 24 มกราคมและได้รับการตอบรับดีจึงทำต่อและปรับมาเป็น เมื่อซื้อพิซซ่าเริ่มต้นที่ 250 บาทขึ้นไป เลือกเมนูโปรดลด 50% ที่เพิ่มมาเป็น 11 เมนู จากเดิมที่มีเพียง 7 เมนูที่ลด 50% ซึ่งจะเป็นการตอกย้ำแบรนด์และเบอร์โทร 1150 ได้เป็นอย่างดี หมดเขตวันที่ 24 เมษายนนี้ แต่หากได้รับการตอบรับดีก็อาจจะเลื่อนออกไปอีก เฟสแรกที่ทำไปแล้วนั้นได้รับการตอบรับดี โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 30% และค่าใช้จ่ายต่อบิลก็สูงขึ้นด้วย รวมทั้งเพิ่มความถี่ของลูกค้าในการสั่งดีลิเวอรี่มากขึ้นด้วย เพราะเมนูลด 50% นั้นล้วนแต่เป็นเมนูฮิตอยู่แล้ว และผู้บริโภคชอบตรงที่ว่าได้ทานอาหารที่หลากหลายและราคาที่ถูกลง